ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต โดยประยุกต์ใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam’s CIPP Model) มาใช้ในการประเมิน

โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 214 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 214 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และประชากรที่เป็นครู จำนวน 30 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ เป็นแบบสอบถาม ฉบับที่ 1-4 และ 7 มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้ค่าเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง 0.938 - 0.966 ฉบับที่ 5 เป็นแบบบันทึกผลการประเมินพฤติกรรมตามสภาพจริง และฉบับที่ ๖ เป็นแบบบันทึกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูล

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของครู จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน โดยภาพรวมที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 ตามคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน โดยภาพรวม ทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ ได้แก่

4.1 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับระดับคุณภาพของโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด ค่าน้ำหนัก และเกณฑ์การประเมิน พบว่า โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.2 ผลการประเมินผลผลิตโครงการเกี่ยวกับผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนตามแบบบันทึกผลการประเมินตามสภาพจริง ปีการศึกษา 2563-2564 พบว่า พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของนักเรียนลดลงร้อยละ 10.18 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 พบว่า ทุกคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีคุณภาพอยู่ในระดับดีขึ้นไป ระหว่าง 91.42-96.23 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะ โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” ปีการศึกษา 2564 พบว่า โดยภาพรวมทั้งสี่กลุ่มที่ประเมิน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1.1 กิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียนในระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อการนำข้อมูลนักเรียนมาใช้ในการคัดกรองนักเรียน และการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนจึงควรดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง

1.2 โรงเรียนควรเพิ่มระยะเวลาในการเยี่ยมบ้านให้มากขึ้น เพื่อจะได้พบปะกับบิดา มารดา ผู้ปกครองนักเรียน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลนักเรียนมากขึ้น

1.3 ผู้บริหารสถานศึกษาควรสนับสนุนสร้างเสริมแรงเชิงบวกหรือสร้างขวัญและกำลังใจผู้เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทั้งนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และผู้ปกครองเครือข่ายในความร่วมมือดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

1.4 โรงเรียนอื่นๆ ควรนำกิจกรรมสร้างสรรค์ 5 ลักษณะไปประยุกต์ใช้ในการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์หรือพัฒนาความเป็นคนดีของนักเรียน เนื่องจากกิจกรรมสร้างสรรค์ทั้ง 5 ลักษณะ ได้แก่ โรงเรียน ครู ผู้ปกครอง เพื่อน และสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนได้เป็นอย่างดี

2. ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรมีการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างละเอียดในแต่ละกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ส่งผลต่อผลสำเร็จของโครงการ

2.2 ควรใช้วิธีการและเครื่องมือในการประเมินอย่างหลากหลายเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองจากการประชุมผู้ปกครองนักเรียน เป็นต้น

โพสต์โดย thitinan : [7 ก.ค. 2565 เวลา 08:15 น.]
อ่าน [1425] ไอพี : 134.236.69.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,335 ครั้ง
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี

เปิดอ่าน 39,744 ครั้ง
บิดาแห่งโสตทัศนศึกษา
บิดาแห่งโสตทัศนศึกษา

เปิดอ่าน 29,757 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 7,874 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ

เปิดอ่าน 13,627 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร

เปิดอ่าน 29,769 ครั้ง
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช

เปิดอ่าน 19,746 ครั้ง
สมุนไพรไทยลดความอ้วน ลดไขมัน ตัวช่วยเพื่อหุ่นสวยเป๊ะ
สมุนไพรไทยลดความอ้วน ลดไขมัน ตัวช่วยเพื่อหุ่นสวยเป๊ะ

เปิดอ่าน 2,394 ครั้ง
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร

เปิดอ่าน 94,255 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?

เปิดอ่าน 10,605 ครั้ง
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม
อยู่อย่างไรให้ห่างไกล มะเร็งเต้านม

เปิดอ่าน 33,803 ครั้ง
แนะ
แนะ 'เคล็ดลับ 3 อ.' เพื่อสุขภาพดียามสูงวัย

เปิดอ่าน 9,846 ครั้ง
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+

เปิดอ่าน 9,065 ครั้ง
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้

เปิดอ่าน 38,523 ครั้ง
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC

เปิดอ่าน 57,780 ครั้ง
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย
การนำรูปเรขาคณิตมาวางเรียงกันทำให้เกิดลวดลาย

เปิดอ่าน 29,587 ครั้ง
พระพุทธรูปปางต่างๆ
พระพุทธรูปปางต่างๆ
เปิดอ่าน 49,436 ครั้ง
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
จดหมายถึงครู.... โดย...ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
เปิดอ่าน 92,460 ครั้ง
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย
จุดมุ่งหมายทั่วไปของการวิจัย
เปิดอ่าน 79,513 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561)
ปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561)
เปิดอ่าน 16,267 ครั้ง
เงิน กับ ธรรมะ
เงิน กับ ธรรมะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ