ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการประหยัดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

ชื่อผู้วิจัย นางพรพิมล ละอองเดช

บทคัดย่อ

ปัจจุบันโลกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต เศรษฐกิจกำลังมีปัญหาน้ำมันแพงขึ้นของกินของใช้ก็มีราคาแพง น้ำและไฟฟ้าก็มีราคาแพงเรื่อยมา จากสภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะประเทศไทยผลิตน้ำมันมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั้งประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า น้ำ และน้ำมันเชื้อเพลง ในการคมนาคมขนส่ง ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงนำเสนอแนวคิด เรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นเพื่อให้คนไทยได้รู้จักประหยัด รู้จักใช้ในสิ่งที่จำเป็น ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง รวมทั้งใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ทั้งน้ำ ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงอย่างระมัดระวังไม่ก่อให้เกิดปัญหา

โรงเรียนวัดคลองกระจง เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่มีการน้ำนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการเข้าสู่การเรียนการสอน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกฝังการประหยัดให้กับนักเรียน อีกทั้งโรงเรียนมีปัญหาเรื่องน้ำประปา โดยในแต่ละเดือนโรงเรียนจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าน้ำประปาหลายบาท ซึ่งมากเกินความจำเป็นสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน

ผู้วิจัย พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปฏิบัติตนไม่เหมาะสมในเรื่องของการประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเรียนเสร็จแล้ว นักเรียนไม่ปิดไฟฟ้า และไม่ปิดพัดลม ในบางครั้งนักเรียนฉีกกระดาษจากสมุดที่เรียนมาพับรถ หรือพับจรวดเล่นกัน ทำให้สมุดที่ใช้สำหรับเขียนหนังสือหมดเร็วและไม่เพียงพออีกทั้งนักเรียนรับประทานอาหารไม่หมด เหลือผักทิ้งเป็นประจำ และเมื่อมาแปรงฟันหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ นักเรียนก็เปิดน้ำทิ้งไว้ขณะแปรงฟัน ทำให้ผู้วิจัยพบว่า นักเรียนไม่มีความประหยัด จึงได้ดำเนินการวิจัย เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักประหยัดตั้งแต่เด็กเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของครอบครัว ชุมชนและประเทศชาติต่อไป

แนวคิดและทฤษฎีของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นานกว่า 25 ปี ตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำ แนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้นและสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลง หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงพิจารณา ดังนี้

กรอบแนวคิดเป็นปรัชญาชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลาและเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤตเพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา

คุณลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลางและการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กันดังนี้

1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเอง

และผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ

2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล

โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ

3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง

ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

เงื่อนไขการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้และคุณธรรมพื้นฐาน กล่าวคือ

1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความ

รอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ

2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจิต

และมีอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ กาพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวอล้อม ความรู้และเทคโนโลยี

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนวัดคลองกระจง พัฒนาพฤติกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยการประหยัด

ขอบเขตของการวิจัย

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการประหยัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 และได้กำหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้

ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดคลองกระจง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 10 คน

เนื้อหา/หลักวิชา คือ การประหยัด การปฏิบัติตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยพิจารณาจากการมีปิดไฟทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ขณะแปรงฟัน ไม่ฉีกกระดาษสมุดหรือกระดาษที่สามารถใช้งานได้มาเขียนเล่น หรือนำมาพับจรวด พับรถ หรือพับเป็นรูปต่าง ๆ และรับประทานอาหารหมดจานทุกครั้ง และเลือกซื้อของแต่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น

วิธีการพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. ครูให้ความรู้นักเรียนในเรื่องของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและนโยบายโรงเรียนเกี่ยวกับการ

ประหยัด

2. ศึกษาเรื่องเทคนิคการสอนโดยวิธีการย้ำเตือน

3. ศึกษาพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่นักเรียนควรแสดงออกและต่อหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง

เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ ไฟฟ้า และการใช้สิ่งของเครื่องใช้

4. ทำการย้ำเตือนหลังเคารพธงชาติของทุกวันในพฤติกรรมที่ควรแสดงออกตามหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ และปฏิบัติได้ถูกต้อง

5. ให้นักเรียนมาเล่าพฤติกรรมที่สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจพอเพียงและประสบความสำเร็จในแต่

ละวันแม้แต่เล็กน้อยก็ตาม

การเก็บรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสำรวจ 3 ระดับ หากแสดงพฤติกรรมโดยการกระทำเป็นประจำ 3

คะแนน ทำบางครั้ง 2 คะแนน ไม่ค่อยทำ 1 คะแนน ตามลำดับ โดยเป็นแบบสำรวจที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นในสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย

สรุปและอภิปรายผล

โดยรวมนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดย

พิจารณาจากการปิดไฟทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ไม่เปิดน้ำทิ้งขณะแปรงฟัน ไม่ฉีกกระดาษ สมุดหรือนำกระดาษที่สามาระใช้งานได้มาเขียนเล่น หรือนำมาพับจรวด พับรถ หรือพับเป็นรูปแบบต่าง ๆ รับประทานอาหารหมดจาน ซื้อของแต่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นหมายความว่า การสอนนักเรียนด้วยวิธีการย้ำเตือนมีผลต่อการพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ

ข้อเสนแนะ

1. ผู้วิจัยอาจใช้วิธีการพัฒนาโดยให้ผู้เรีนยกับครูผู้วิจัยวางแผนกิจกรรมร่วมกันซึ่งอาจส่งผลต่อ

พฤติกรรมของผู้เรียนได้ดีขึ้น

2. ครูควรใช้วิธีการง่าย ๆ หรือประสบการณ์เดิมของผู้เรียนมาใช้ในการส่งเสริมกาประหยัด เช่น

การพูดคุย การเล่าเรื่อง การแสดงบทบาทสมมติ เข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมประหยัดทั้งในโรงเรียนและที่บ้านของตน

โพสต์โดย อ้อม : [19 ก.ค. 2565 เวลา 18:01 น.]
อ่าน [1970] ไอพี : 223.24.152.187
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,442 ครั้ง
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก

เปิดอ่าน 10,956 ครั้ง
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต
บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต

เปิดอ่าน 17,147 ครั้ง
โปรดอ่านทำความเข้าใจ! กรณีการเรียน ป.บัณฑิต
โปรดอ่านทำความเข้าใจ! กรณีการเรียน ป.บัณฑิต

เปิดอ่าน 11,374 ครั้ง
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย
ทีลอซู น้ำตกในฝัน ของนักผจญภัย

เปิดอ่าน 17,915 ครั้ง
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป

เปิดอ่าน 31,427 ครั้ง
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 13,831 ครั้ง
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้

เปิดอ่าน 12,619 ครั้ง
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558
เผย 10 สุดยอดวิดีโอบน "ยูทูบ" ที่คนไทยชอบชมมากที่สุดปี 2558

เปิดอ่าน 20,787 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม

เปิดอ่าน 12,263 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้

เปิดอ่าน 30,281 ครั้ง
ลายมือผู้มีบารมี
ลายมือผู้มีบารมี

เปิดอ่าน 3,889 ครั้ง
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565

เปิดอ่าน 302,760 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 51,185 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 191,661 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 14,283 ครั้ง
12 วิธีแก้เซ็ง
12 วิธีแก้เซ็ง
เปิดอ่าน 11,440 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
เปิดอ่าน 5,326 ครั้ง
โครงสร้างอะตอม
โครงสร้างอะตอม
เปิดอ่าน 163,325 ครั้ง
งานแกะสลักไม้
งานแกะสลักไม้
เปิดอ่าน 12,072 ครั้ง
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี
พบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 200 ล้านปี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ