ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การประเมินโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมินซิป (CIPP Model) โรงเรียนวัดบางพูดใน (นนทวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อประเมินด้านบริบทและสิ่งแวดล้อม (Context Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) 2) เพื่อประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) 3) เพื่อประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) และ4) เพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ของโรงเรียนวัดบางพูดใน (นนทวิทยา) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ปีการศึกษา 2564 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 21 คน 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 167 คน และ3) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 167 คน กำหนดขนาดโดยใช้สูตรของเครซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ได้แก่ 1) แบบสอบถามเพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) และด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ของครูและบุคลากรทางการศึกษา มีค่าความเชื่อมั่น .974 2) แบบสอบถามเพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของครูและบุคลากรทางการศึกษา มีค่าความเชื่อมั่น .961 3) แบบสอบถามเพื่อประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของนักเรียนมีค่าความเชื่อมั่น .972 และ4) แบบสอบถามเพื่อการประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของผู้ปกครอง มีค่าความเชื่อมั่น .965 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ด้านบริบทและสิ่งแวดล้อม (Context Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) มีความเหมาะสมสอดคล้องในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.79 และ S.D. = .32) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า โครงการมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาของโรงเรียนในปัจจุบัน และผู้บริหาร บุคลากร นักเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเห็นความสำคัญของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.86 และ S.D. = .36) รองลงมาได้แก่ โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) กำหนดวัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการมีความสอดคล้องและเหมาะสม และผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนให้การสนับสนุน การดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ( = 4.81 และ S.D. = .40) และวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการส่งผลให้เกิดการปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์แก่ผู้เรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.67 และ S.D. = .48)

2. ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) โครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.77 และ S.D. = .33) เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า เวลาที่ดำเนินโครงการมีความเหมาะสม เพียงพอ วัสดุ อุปกรณ์ สำหรับกิจกรรมฐานโรงเรียนปลอดขยะมีเพียงพอ สถานที่ที่ใช้ดำเนินงานโครงการมีความเหมาะสม และรูปแบบ ของการจัดกิจกรรมตามโครงการเป็นไปตามกระบวนการและแผนที่กำหนดมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.86 และ S.D. = .36) รองลงมาได้แก่ โรงเรียนมีการแต่งตั้งบุคลากรที่รับผิดชอบโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) บุคลากรที่รับผิดชอบโครงการ มีความรู้ ความเข้าใจ ในการดำเนินงาน การได้รับงบประมาณสนับสนุนจากชุมชน บุคลากร หรือหน่วยงานภายนอก กิจกรรมของโครงการมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของโรงเรียน และการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการมีการประสานงานร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ( = 4.76 และ S.D. = .44) และงบประมาณที่ใช้สำหรับดำเนินโครงการมีความเหมาะสมเพียงพอมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.67 และ S.D. = .48)

3. ด้านกระบวนการการดำเนินงานโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.76 และ S.D. = .33) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า มีการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนา การกำหนดขั้นตอนการจัดทำโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) มีความชัดเจน มีการดำเนินกิจกรรมตามโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ทุกกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินงานตามโครงการเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.81 และ S.D. = .40) รองลงมาได้แก่ บุคลากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ วางแผนการดำเนินงานตามโครงการ การดำเนินการตามโครงการเป็นไปตามแผนปฏิบัติการที่วางไว้ การนิเทศ กำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการเป็นไปตามขั้นตอน และโรงเรียนมีการเผยแพร่และขยายผลการปฏิบัติกิจกรรมสู่ชุมชนอย่างสม่ำเสมอ ( = 4.76 และ S.D. = .44) และมีการดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามกระบวนการ/ขั้นตอนที่กำหนดในโครงการตามแผนปฏิบัติการ และการประเมินผลการปฏิบัติงานตามโครงการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องด้วยวิธีการที่หลากหลายครบทุกกิจกรรมมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.67 และ S.D. = .48)

4. ด้านผลผลิตของโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) จากการสอบถามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.82 และ S.D. = .32) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความรู้เรื่องการตลาด การผลิต การจำหน่าย การจัดการร้าน และการให้บริการ และโรงเรียนมีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำปุ๋ยหมักชีวภาพจุลินทรีย์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.81 และ S.D. = .40) รองลงมาได้แก่ นักเรียนรู้จักประเภทขยะ วิธีการลด คัดแยกขยะ มีทักษะในการคัดแยกขยะ และนักเรียนมีทักษะการออม มีทักษะการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ( = 4.81 และ S.D. = .40) และนักเรียนได้เรียนรู้วิธีการ พลาสอิฐ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติได้มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( = 4.77 และ S.D. = .42)

โพสต์โดย oom : [1 ส.ค. 2565 เวลา 10:27 น.]
อ่าน [62470] ไอพี : 49.49.236.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,044 ครั้ง
EQ กับวัยทำงาน
EQ กับวัยทำงาน

เปิดอ่าน 11,969 ครั้ง
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)
คลิปแชร์ต่อเมื่อพ่อต้องโกหกลูก (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 16,089 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 15,491 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร

เปิดอ่าน 854 ครั้ง
5 เทคนิคบริหารกระแสเงินสดที่นักธุรกิจต้องรู้
5 เทคนิคบริหารกระแสเงินสดที่นักธุรกิจต้องรู้

เปิดอ่าน 5,574 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

เปิดอ่าน 20,296 ครั้ง
เกมส์ต่อสู้
เกมส์ต่อสู้

เปิดอ่าน 8,947 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?
ปฏิรูปการศึกษา...เพื่ออะไร ?

เปิดอ่าน 42,545 ครั้ง
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 22,927 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง

เปิดอ่าน 16,314 ครั้ง
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..

เปิดอ่าน 17,176 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 2,116 ครั้ง
ติดฟิล์มกระจกบ้าน วิธีลดอุณหภูมิและปกป้องบ้านจากแสงแดด
ติดฟิล์มกระจกบ้าน วิธีลดอุณหภูมิและปกป้องบ้านจากแสงแดด

เปิดอ่าน 10,182 ครั้ง
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน

เปิดอ่าน 13,597 ครั้ง
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน

เปิดอ่าน 17,146 ครั้ง
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
เปิดอ่าน 13,253 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
เปิดอ่าน 18,484 ครั้ง
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท
เปิดอ่าน 11,360 ครั้ง
แนะนำหนังสือน่าอ่าน
แนะนำหนังสือน่าอ่าน
เปิดอ่าน 43,699 ครั้ง
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย
14 ท่าโพสต์ถ่ายรูปง่ายๆ ถ่ายเมื่อไหร่ก็สวย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ