|
Advertisement
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คือ เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาเคมีก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเลิงนกทา อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2563 จำนวน 38 คน นวัตกรรมที่นำมาวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ คือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหา แบบวัดความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ การหาประสิทธิผล การวิเคราะห์เนื้อหา และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในด้านการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผู้สอนมีการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และผู้สอนมีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา ในระดับปานกลาง ( x ̅= 2.78 , S.D.=0.93) และต้องการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาในระดับมากที่สุด ( x ̅= 4.55, S.D = 0.47)
2. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 เริ่มต้นด้วยเงื่อนไข ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ด้วยใจอยากรู้ ขั้นที่ 3 ควบคู่ผสานเทคโนโลยี ขั้นที่ 4 ร่วมถกชี้อภิปรายได้ปัญญา ขั้นที่ 5 ร่วมประเมินคุณค่าสร้างความรู้ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅ = 4.61 , S.D. = 0.52) และผลการประเมินประสิทธิภาพรูปแบบ ( E1/ E2 ) มีค่าเท่ากับ 85.17/82.81 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือ 80/80
3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.26/80.10 เมื่อวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลมีค่าเท่ากับ 0.65 แสดงว่านักเรียนมี ความรู้เพิ่มขึ้น 0.65 หรือคิดเป็นร้อยละ 65 และนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความสามารถในการแก้ปัญหาและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาเคมี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีแบบ SABAI Model โดยประยุกต์แนวคิดสะเต็มศึกษาร่วมกับปัญหาเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในระดับพอใจมากที่สุด (x ̅=4.82, S.D.=0.43) ทุกรายการ
|
โพสต์โดย khun : [3 ก.ย. 2565 เวลา 05:33 น.] อ่าน [63881] ไอพี : 103.10.231.140
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 32,548 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,833 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,556 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,878 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,089 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,616 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,440 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 44,389 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,011 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 68,601 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,328 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,942 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,665 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,931 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,421 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 36,803 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 721 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,682 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 311,031 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,955 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|