ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดนางสาว (ถาวรราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564

เรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดนางสาว (ถาวรราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564

ชื่อผู้วิจัย นางสาวพีรญา เมฆสงค์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนางสาว (ถาวรราษฎร์บำรุง)

ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียนวัดนางสาว (ถาวรราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปีการศึกษา 2564 ใช้รูปแบบการประเมินของ ไอพีโอ (IPO Model) ของสมหวัง พิริยานุวัฒน์ (2551: 202-209) ซึ่งเป็นการประเมิน 3 ด้าน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ประเมินด้านกระบวนการ (Process) และประเมินด้านผลผลิต (Output) ประชากรกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินได้มาโดยการกำหนดของกลุ่มตัวอย่างจากการเปิดตารางสำเร็จรูปของเครจซี่ และมอร์แกน สุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างรวมทั้งหมด 331 คน ประกอบด้วย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 79 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล 2 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 180 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 136 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผู้ประเมินได้ใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และด้านผลผลิต (Output Evaluation) จำนวน 3 ฉบับ โดยที่ฉบับที่ 1 แบบสอบถามประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ฉบับที่ 2 แบบประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation) และฉบับที่ 3 แบบประเมินด้านผลผลิต (Output Evaluation) เกี่ยวกับความพึงพอใจผลการดำเนินของโครงการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (µ) (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) (Standard Deviation)

ผลการประเมิน โดยสรุปมีดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โดยภาพรวมมีความเหมาะสมและเพียงพออยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า โรงเรียนได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ จากหน่วยงานต้นสังกัด องค์กรภายนอก และภาคีเครือข่ายต่างๆ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ โรงเรียนมีอาคารสถานที่ที่ปราศจากจุดเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และฝ่ายบริหารได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และ มีวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับหลักความปลอดภัย อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ทั้งนี้อันเนื่องมาจาก เป็นโรงเรียนในโครงการสถานศึกษาปลอดภัย ซึ่งเป็นนโยบายที่โรงเรียนให้ความสำคัญ จึงมีการเตรียมและจัดหาด้านปัจจัยให้มีความพร้อมทั้งทางด้านคน วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอาจได้รับความร่วมมือ ช่วยเหลือ สนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องในหลาย ๆ รูปแบบ ส่งผลให้การประเมินด้านปัจจัยของโครงการมีความพร้อมอยู่ในระดับมาก

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) โดยภาพรวมมีการปฏิบัติ อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า โรงเรียนได้ทำการติดตั้งถังดับเพลิงติดตั้งไว้ทุกอาคารเรียนและสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้อย่างเพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ โรงเรียนมีการจัดทำประกาศหรือคำสั่งเกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยของ สถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด และโรงเรียนมีการระบุรายละเอียดกิจกรรม ระยะ เวลาดำเนินการ และงบประมาณที่ชัดเจน ครูและบุคลากรของโรงเรียนรับทราบทั่วกัน อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ จากข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อาจเนื่องมาจาก มีการดำเนินการตามระบบ PDCA มีการวางแผนการดำเนินการ และนำสู่การปฏิบัติโดยจัดทำเป็นโครงการ มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ มีการกำหนดขั้นตอน และมีการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์แก่ผู้เกี่ยวข้อทราบโดยมีเป้าหมายเพื่อฝึกปฏิบัติแก่นักเรียนอย่างทั่วถึงและมีความต่อเนื่อง มีการนิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้การประเมินด้านกระบวนการของโครงการมีการดำเนินการอยู่ในระดับ มาก

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการประเมินด้านผลผลิต (Product) โดยภาพรวมมีการปฏิบัติ อยู่ในระดับ มาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า โรงเรียนมีห้องพยาบาลและเวชภัณฑ์สามัญประจำบ้าน สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง และทันต่อเหตุการณ์ อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ โรงเรียนมีการจัดเก็บอุปกรณ์ที่อันตราย เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ เป็นอย่างดี ในพื้นที่ปลอดภัย อยู่ในระดับมากที่สุด และโรงเรียนมีจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาดแก่นักเรียนอย่างเพียงพอ และทั่วถึง อยู่ในระดับ มาก ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ จากข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อาจเป็นเพราะว่า การจัดโครงการ กิจกรรมด้านความปลอดภัยเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้เรียน อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กิจกรรมโครงการที่ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาปลอดภัยของโรงเรียน น่าสนใจเป็นเรื่องทันยุค ทันสมัยในปัจจุบัน การให้คำที่ปรึกษาที่ถูกต้องและกิจกรรมเสริมสร้างทักษะป้องกันตนเองให้ปลอดภัย ทำให้ครูได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันนักเรียนที่ได้รับการปลูกฝังการดูแลรักษาความปลอดภัยของตนเองก็ย่อมจะซึมชับเข้าไปในจิตใจทีละเล็กละน้อยโดยไม่รู้ตัว จึงส่งผลให้ความพึงพอใจผลการดำเนินของโครงการของผลการประเมินด้านผลผลิตของการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยอยู่ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะเพื่อทำการประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการศึกษาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการสถานศึกษาปลอดภัยที่ได้รับรางวัลดีเด่น ติดต่อกันจนได้รับโล่เชิดชูเกียรติ เพื่อนำกระบวนการดังกล่าว มาใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ

2. ควรศึกษาผลการดำเนินการโครงการในรูปแบบการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์

3. ควรมีการประเมินโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมินอื่น เช่น CIPP เพื่อให้ได้สารสนเทศที่หลากหลาย สำหรับนำมาใช้ในการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานโครงการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

4. ควรมีการประเมินโครงการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวกับผู้เรียนในระดับที่สูงขึ้น เช่น ระดับ เทศบาล อำเภอ หรือจังหวัด

โพสต์โดย พี : [30 ก.ย. 2565 เวลา 10:44 น.]
อ่าน [62268] ไอพี : 180.180.163.23
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,094 ครั้ง
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 12,532 ครั้ง
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"

เปิดอ่าน 24,900 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม

เปิดอ่าน 14,720 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลข 3 ตัว ที่ยังไงก็แล้วแต่ ผลลัพธ์จะได้ 1089 เสมอ
เทคนิคการคิดเลข 3 ตัว ที่ยังไงก็แล้วแต่ ผลลัพธ์จะได้ 1089 เสมอ

เปิดอ่าน 14,880 ครั้ง
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"

เปิดอ่าน 15,760 ครั้ง
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?

เปิดอ่าน 17,349 ครั้ง
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ

เปิดอ่าน 17,582 ครั้ง
การประคบร้อน และ ประคบเย็น ที่ถูกต้อง
การประคบร้อน และ ประคบเย็น ที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 53,560 ครั้ง
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา

เปิดอ่าน 18,403 ครั้ง
วันที่
วันที่ ''ไมโครซอฟท์'' ไร้บิลล์ เกตส์

เปิดอ่าน 12,688 ครั้ง
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 22,721 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 45,874 ครั้ง
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)

เปิดอ่าน 17,927 ครั้ง
ลายมือผู้นำระดับโลก
ลายมือผู้นำระดับโลก

เปิดอ่าน 20,014 ครั้ง
โปรตีนสำหรับนักกีฬา
โปรตีนสำหรับนักกีฬา

เปิดอ่าน 15,677 ครั้ง
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
สโลว์ฟู้ด อาหารสำหรับคนอยากผอม
เปิดอ่าน 6,383 ครั้ง
สูตรคำนวณการหาคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์(GainScore) สำหรับการทำวิจัย : กิติศักดิ์ ดีพื้น โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา จังหวัดระยอง
สูตรคำนวณการหาคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์(GainScore) สำหรับการทำวิจัย : กิติศักดิ์ ดีพื้น โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา จังหวัดระยอง
เปิดอ่าน 4,074 ครั้ง
ประโยชน์ของน้ำขิง
ประโยชน์ของน้ำขิง
เปิดอ่าน 21,708 ครั้ง
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.
สุดประทับใจ! ครูสาวแบกนร.หญิงป่วยหนัก เดินลงจากดอยไปส่งรพ.
เปิดอ่าน 20,907 ครั้ง
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ