ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการ ประเมินปัจจัยเบื้องต้น ของโครงการ ประเมินกระบวนการดำเนินงาน และประเมินผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการ ผู้ประเมินใช้รูปแบบ CIPP (Context Input Process Product Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย 1) ผู้อำนวยการสถานศึกษา ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1 คน 2) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1 คน 3) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 10 คน 4) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 8 คน 5)ผู้ปกครองนักเรียน ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 54 คน รวมกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น จำนวน 74 คน

เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถาม จำนวน 4 ชุด ได้แก่แบบสอบถามด้านบริบท แบบสอบถามด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ แบบสอบถามด้านกระบวนการดำเนินงาน และแบบสอบถามด้านผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (¯x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ (%) และนำผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลแต่ละประเด็นมาทำการสรุปผลการประเมินจากผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยนำค่าเฉลี่ย นำมาคูณกับเกณฑ์ที่กำหนด และข้อมูลตอนที่ 3 ของแบบสอบถามวิเคราะห์เชิงคุณภาพอภิปรายเชิงบรรยาย

สรุปผลการประเมินสรุปได้ดังนี้

การประเมินบริบทของโครงการ ระดับความคิดเห็น ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.56 , S.D. = 0.07) โดยมีรายละเอียดแต่ละประเด็นคือ ประเด็นความต้องการจำเป็นของโครงการ ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.39 , S.D. = 0.11) ประเด็นความเหมาะสมของวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.82 , S.D. = 0.14) ประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.46 , S.D. = 0.14) ผลการประเมินเมื่อเทียบเกณฑ์การประเมิน ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนรวม 13.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน ซึ่งหมายถึง ผลการประเมิน ด้านบริบทของโครงการอยู่ใน ระดับมาก

ผลจาการประเมินด้านบริบทของโครงการ โดยประเมิน 3 ประเด็น เมื่อเทียบเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากและมากที่สุด จากความคิดเห็นชี้ให้เห็นว่าประเด็นทั้ง 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นความต้องการจำเป็นของโครงการ ประเด็นความเหมาะสมของวัตถุประสงค์และเป้าหมาย และประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ เนื่องจาก สภาพในปัจจุบันด้านแหล่งเรียนรู้ เป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานในการดำรงชีวิตซึ่งรวมถึงในสถานศึกษาที่ต้องดำเนินการให้มีแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน ผลการประเมินภาพรวมมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของน้ำทิพย์ ม่วงปลอด (2557) ที่ได้ทำการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะใฝ่รู้ใฝ่เรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวถนน ปีการศึกษา 2557 พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เช่นเดียวกับงานวิจัยของธงไทย บุตรที (2561) ที่ได้ประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน ห้วยปลาไหล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ปีการศึกษา 2561 ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ที่ผลเป็นเช่นนี้เนื่องจากการดำเนินงานการประเมินโครงการในครั้งนี้ ได้ทำการศึกษาข้อมูลสภาพแวดล้อมทั่วไปของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ข้อมูลความต้องการจำเป็น จากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินงานตามโครงการ นำข้อมูลที่ได้มากำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการ วิเคราะห์หาความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้มีความสอดคล้องกับเหมาะสมตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายของสำนักบริหาร งานการศึกษาพิเศษ และนโยบายของศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรงกับความต้องการพิเศษของผู้เรียนที่มีความพิการประเภทต่างๆ ตลอดจนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบในการดำเนินโครงการสามารถปฏิบัติงาน ตามวัตถุประสงค์ของโครงการให้สำเร็จตามกำหนดในทุกกิจกรรมต่อไป

การประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ ระดับความคิดเห็นภาพรวมอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.46 , S.D. = 0.09) โดยมีรายละเอียดแต่ละประเด็นคือประเด็นบุคลากร พบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.36 , S.D. = 0.13) ประเด็นการบริหารจัดการ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.54 , S.D. = 0.16) ประเด็นทรัพยากร ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.49 , S.D. = 0.18) ผลการประเมินเมื่อเทียบเกณฑ์การประเมิน ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนรวม 13.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน ซึ่งหมายถึง ผลการประเมินด้านปัจจัยของโครงการอยู่ใน ระดับมาก

ด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเทียบเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน 3 ประเด็น ได้แก่ บุคลากร การบริหารจัดการ และทรัพยากร พบว่า อยู่ในระดับ 4 และระดับ 5 หรือระดับมากและมากที่สุด พบว่าผู้รับผิดชอบโครงการมีความรับผิดชอบ ความรู้ ความชำนาญอยู่ในระดับมากที่สุด ครูและบุคลากรให้ความสำคัญและความร่วมมือในการปฏิบัติงาน อีกทั้งผู้บริหารสถานศึกษามีการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี จึงทำให้โครงการมีความพร้อมในทุกๆด้าน โดยเฉพาะผู้รับผิดชอบมีความขยันและ เอาใจใส่ในภารกิจงานในโครงการ อีกทั้งยังมีผู้ปกครองของนักเรียนและชุมชนใกล้เคียงมีส่วนร่วมในการระดมทุนทรัพยากร ทำให้มีวัสดุ อุปกรณ์เพียงพอ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการ ทำให้โครงการที่จัดทำขึ้นนั้น มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ มาแอน ใจตรง (2558) ที่ได้ประเมิน ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านใฝ่เรียนรู้ ของนักเรียนโรงเรียนบ้านสน คือความพร้อมของบุคลากร ด้านวัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่ ด้านงบประมาณ และด้านการบริหารจัดการ ซึ่งโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด ทั้งนี้เพราะการดำเนินงานโครงการ สถานศึกษาเตรียมความพร้อม โดยการสำรวจความเพียงพอและเหมาะสมด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ อาคารสถานที่ และการได้รับการมีส่วนร่วมของชุมชนในด้านต่าง ๆ จะทำให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

การประเมินกระบวนการดำเนินงาน ระดับความคิดเห็น ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.56 , S.D. = 0.10) โดยมีรายละเอียดคือ ประเด็นการวางแผน ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.57 , S.D. = 0.16) ประเด็นการดำเนินงาน ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.44 , S.D. = 0.15) ประเด็นการประเมินและพัฒนางาน ภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.66 , S.D. = 0.23) ผลการประเมินเมื่อเทียบเกณฑ์การประเมินถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนรวม 28.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน ซึ่งหมายถึง ผลการประเมินด้านกระบวนการโครงการอยู่ในระดับ ระดับมากที่สุด

การประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการ เมื่อเทียบเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน อยู่ในระดับ 4 และ 5 หรือระดับมากที่สุดและระดับมาก ผลการประเมินระดับความ คิดเห็นด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด พบว่ามี แผนปฏิบัติการและแผนพัฒนางานอย่างชัดเจนและมีการแต่งตั้งคำสั่งผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานอย่างชัดเจน จึงเป็นที่ยอมรับ และอีกทั้งทุกฝ่ายยังได้มีส่วนร่วมในการวางแผนดำเนินโครงการ ในการดำเนินงานโครงการ ในภาพรวม พบว่า มีการดูแลแหล่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า อีกทั้งผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแล บุคลากรในสถานศึกษามีส่วนร่วมในการประเมินโครงการและเสนอแนะ เชิงสร้างสรรค์ มีการจัดการทำสรุปรายงาน และนำผลการประเมินมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาต่อไป รวมถึง มีการนิเทศติดตามจากการดำเนินโครงการ ทำให้มีการแก้ปัญหาได้ทันเวลา และนำผลไปพัฒนาต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของวันเผด็จ มีชัย (2559) ที่พบว่าในภาพรวมผลประเมินด้านกระบวนการ ของโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นอยู่ในระดับมาก ได้แก่ มีการวางแผนการดำเนินงานโครงการอย่างชัดเจนสามารถปฏิบัติได้ มีการประชุมปรึกษาหารือและชี้แจงรายละเอียดของระบบการดำเนินงานโครงการ และมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ทุกประเภทที่เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะว่า สถานศึกษาได้วางแผน การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานและการมอบหมายงาน ให้บุคลากร รับผิดชอบและกำกับติดตามดูแลอย่างชัดเจน

การประเมินผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการ ระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่ตอบแบบสอบถามที่มีต่อการประเมินโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.71 , S.D. = 0.13) ประเด็นด้านผลผลิตของโครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.75 , S.D. = 0.11) ประเด็นด้านผลกระทบของโครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (¯x = 4.66 , S.D. = 0.21) ผลการประเมินเมื่อเทียบเกณฑ์การประเมิน ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนรวม 40 คะแนน จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน ซึ่งหมายถึง ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการอยู่ในระดับ 5 หรือ ระดับมากที่สุด

ผลการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ในภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยมีผลการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด โดยได้คะแนนรวม 94.0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน และเมื่อพิจารณาถึงรายละเอียด ของประเด็นการประเมินทั้ง 4 ประเด็น พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับมากและระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน เมื่อพิจารณาประเด็นของด้านการประเมินทั้ง 4 ด้าน จำนวน 11 ประเด็น พบว่า ผ่านเกณฑ์ การประเมินทุกประเด็น ผลการประเมินอยู่ในระดับมากและมากที่สุด

การประเมินด้านผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการเมื่อเทียบเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการและผลกระทบของโครงการอยู่ในระดับ 5 หรือ ระดับมากที่สุด ผลของภารกิจการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทำให้สถานศึกษามีแหล่งเรียนรู้อย่างเพียงพอ ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานตามโครงการ นักเรียน มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ มีศักดิ์ แสงศิลา และเอื้อมพรพิชญ์ จันทน์แดง (2560) ที่ได้รายงานผลการดำเนินการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพ ปีการศึกษา 2555 - 2557 กลุ่มโรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 พบว่าการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมกระบวนการคิดและการแสวงหาความรู้ ทำให้โรงเรียนมีการพัฒนาห้องสมุดห้องปฏิบัติการต่าง ๆ และเพิ่มเติมเอกสารต่าง ๆ ที่หลากหลาย มีห้องจริยธรรมสำหรับจัดกิจกรรม รวมทั้งมีการจัดบรรยากาศภายในห้องที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ส่งผลให้นักเรียน ครู และชุมชนได้เข้าใช้บริการและศึกษาค้นคว้าแหล่งเรียนรู้ดังกล่าวเพิ่มขึ้น

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ด้านปัญหางบประมาณไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน ส่งผล ต่อคุณภาพของงาน ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานอื่นๆ เท่าที่ควร

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. นำผลที่ได้จากการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชมาปรับปรุง ส่งเสริมและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จต่อไป

2. เป็นข้อมูลสารสนเทศจากการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการวางแผนปรับปรุง ส่งเสริมพัฒนาการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษามากยิ่งขึ้น

2. เผยแพร่ให้กับศูนย์การศึกษาพิเศษ หรือสถานศึกษาอื่น ๆ ที่มีสภาพบริบทใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยรูปแบบการประเมิน CIPP (context Input Process product model) ให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา สามารถนำผลการประเมินโครงการไปเป็นแนวทางในการกำหนด วางแผน แก้ไข ปรับปรุง ส่งเสริม เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในสถานศึกษาต่อไป

ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป

1. ควรมีการสร้างเครือข่ายในด้านการประเมินโครงการที่สถานศึกษาจัดขึ้น โดยให้ผู้บริหารสถานศึกษาต่างๆ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานที่ประสบผลสำเร็จร่วมกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการบริหารสถานศึกษา

2. ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งเรียนรู้ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

โพสต์โดย แป้ว : [28 ต.ค. 2565 เวลา 13:23 น.]
อ่าน [62753] ไอพี : 171.7.247.0
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,338 ครั้ง
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก

เปิดอ่าน 37,949 ครั้ง
ฝนดาวตกเจมินิดส์
ฝนดาวตกเจมินิดส์

เปิดอ่าน 11,678 ครั้ง
เดิน...ลดโรค
เดิน...ลดโรค

เปิดอ่าน 15,840 ครั้ง
ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"
ไฟล์ภาพ"GIF" อ่านว่า "จิฟ" ไม่ใช่"กิฟ!"

เปิดอ่าน 14,975 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวไทยชนะจีน 3-2 เซต เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56

เปิดอ่าน 12,942 ครั้ง
เคี้ยวมาก สุขภาพดี
เคี้ยวมาก สุขภาพดี

เปิดอ่าน 151,040 ครั้ง
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก
ตุ๊กตา "เฟอร์บี้" คืออะไร ทำไมมีราคาแพงและเป็นที่นิยมนัก

เปิดอ่าน 27,533 ครั้ง
หลักเกณฑ์เบิกค่าพาหนะรับจ้าง เงินชดเชย และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นในการเดินทางไปราชการ
หลักเกณฑ์เบิกค่าพาหนะรับจ้าง เงินชดเชย และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นในการเดินทางไปราชการ

เปิดอ่าน 18,640 ครั้ง
พระอุมา
พระอุมา

เปิดอ่าน 8,973 ครั้ง
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 5,864 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 24,554 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน
ปฏิรูปการศึกษาไทย ในศตวรรษที่ 21 ไปทางไหน

เปิดอ่าน 77,336 ครั้ง
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่

เปิดอ่าน 2,346 ครั้ง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง

เปิดอ่าน 24,858 ครั้ง
ตัวหนังสือไทย
ตัวหนังสือไทย

เปิดอ่าน 12,529 ครั้ง
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน
เปิดอ่าน 9,950 ครั้ง
รายการ "เดินหน้าประเทศไทย" 3 มกราคม 2559 แถลงผลงานกระทรวงศึกษาธิการ
รายการ "เดินหน้าประเทศไทย" 3 มกราคม 2559 แถลงผลงานกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 72,717 ครั้ง
วงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้า
เปิดอ่าน 43,715 ครั้ง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง
"ใบมะกรูด" แก้ความดันโลหิตสูง
เปิดอ่าน 16,759 ครั้ง
อินจัด แชร์กันว่อนไปทั่วโลก โฆษณาของไทย
อินจัด แชร์กันว่อนไปทั่วโลก โฆษณาของไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ