ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การวิจัยและพัฒนารูปเเบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 2) สร้างรูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 รูปแบบที่พัฒนาขึ้นเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ที่ออกแบบโดยใช้ ADDIE Model ซึ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและวิเคราะห์แนวคิดที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการสอนและเอกสารประกอบการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 25 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ (TCT-DP) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าสถิติที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า

1. การพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ภาพรวมอยู่ในระดับต้องปรับปรุง เด็กขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่กล้าแสดงออก

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก โดยรูปแบบมีชื่อว่า PAEMF Model ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 42.08 คิดเป็นร้อยละ 58.44 หลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 60.84 คิดเป็นร้อยละ 84.50

4. การประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ตามทฤษฎีสมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 พบว่า หลังใช้รูปแบบนักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t = 24.901, p = .000)

โพสต์โดย ครูเพื่อเด็ก : [15 พ.ย. 2565 เวลา 15:54 น.]
อ่าน [100652] ไอพี : 27.145.180.112
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,243 ครั้ง
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน

เปิดอ่าน 77,931 ครั้ง
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่

เปิดอ่าน 12,212 ครั้ง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง
"ขี้เหล็ก" ช่วยระบาย-สงบประสาท แต่ไม่ใช่ "ยานอนหลับ" โดยตรง

เปิดอ่าน 15,479 ครั้ง
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน
10 เคล็ดลับ ลดน้ำตาล ลดโรค ลดอ้วน

เปิดอ่าน 882 ครั้ง
ความสำคัญของการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร
ความสำคัญของการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร

เปิดอ่าน 14,974 ครั้ง
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์
"เดอะ ฮ็อบบิท" กับทฤษฎีวิวัฒนาการมนุษย์

เปิดอ่าน 11,279 ครั้ง
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก
6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพช่องปาก

เปิดอ่าน 22,745 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 11,413 ครั้ง
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ

เปิดอ่าน 1,492 ครั้ง
5 ไอเดียสุดปัง รีโนเวทห้องน้ำให้สวยเหมือนใหม่ ถูกใจทุกวัย!
5 ไอเดียสุดปัง รีโนเวทห้องน้ำให้สวยเหมือนใหม่ ถูกใจทุกวัย!

เปิดอ่าน 19,974 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่
ตอบข้อข้องใจ...สมาชิก ช.พ.ค. เรื่อง จำนวนสมาชิก ช.พ.ค. ทั้งหมด ใครถึงแก่กรรม/ใครสมัครใหม่

เปิดอ่าน 21,521 ครั้ง
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้
"e-Learning" บทเรียนออนไลน์ กับสิ่งที่ผู้เรียนควรรู้

เปิดอ่าน 44,012 ครั้ง
เพลง "อิ่มอุ่น"
เพลง "อิ่มอุ่น"

เปิดอ่าน 363,678 ครั้ง
ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย

เปิดอ่าน 12,769 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี

เปิดอ่าน 10,526 ครั้ง
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
เปิดอ่าน 16,234 ครั้ง
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
"ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือครู" ปาถกฐาพิเศษ รศ.นราพร จันทร์โอชา เรื่องการศึกษาทางไกลเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม
เปิดอ่าน 11,004 ครั้ง
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
เปิดอ่าน 102,803 ครั้ง
99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
99 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เปิดอ่าน 146,632 ครั้ง
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์
ทฤษฎีมานุษยนิยมของมาสโลว์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ