ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ประกอบด้วย 4 หัวข้อหลัก ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาองค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อยของรูปแบบการพัฒนาครู เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี 2. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี 3.เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี และ 4.เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง(Purposive Sampling)ซึ่งเป็นครู โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จำนวน 13 คน เครื่องมือวัดที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดความรู้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อการอ่านออกเขียนได้ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.90 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อการอ่านออกเขียนได้ของครูผู้สอน มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 3)แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เพื่อการอ่านออกเขียนได้ มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.80 - 1.00 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี มีค่าอำนาจจำแนก 0.26 - 0.93 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย(x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI Modified)

ผลการวิจัย พบว่า

1. องค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อยของการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี สามารถแบ่งออกเป็นองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบและองค์ประกอบย่อย 15 องค์ประกอบ ผลการประเมินองค์ประกอบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.74 ; S.D.= 0.44)

2. สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พบว่า สภาพปัจจุบันมีการดําเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง(x̄ = 3.41 ; S.D.= 0.54) และสภาพที่พึงประสงค์มีความพึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด(x̄ = 4.74; S.D.= 0.44)

3. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วย รูปแบบย่อย 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบย่อยที่ 1 การเตรียมการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ รูปแบบย่อยที่ 2 การจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ รูปแบบย่อยที่ 3 การประเมินผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC) เพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบมีความเหมาะสม (x̄ = 4.61 ; S.D.= 0.30) มีความเป็นไปได้ (x̄ = 4.78 ; S.D.= 0.29) และมีความเป็นประโยชน์ (x̄ = 4.87 ; S.D.= 0.14) อยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พบว่า

4.1 ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับมาก(x̄ = 4.70 ; S.D.= 0.19)

4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจการใช้รูปแบบและคู่มือรูปแบบการพัฒนาครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองจันทบุรี 2 สังกัดเทศบาลเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้านการประเมิน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจในภาพรวม เท่ากับ 4.81 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรเท่ากับ 0.20

โพสต์โดย ภูริวัต ขุนสุนทร : [18 ม.ค. 2566 เวลา 12:09 น.]
อ่าน [1784] ไอพี : 125.25.57.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,107 ครั้ง
มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013

เปิดอ่าน 49,410 ครั้ง
ยาสตรี คืออะไร?
ยาสตรี คืออะไร?

เปิดอ่าน 574 ครั้ง
9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567
9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567

เปิดอ่าน 21,259 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 19,091 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 50,607 ครั้ง
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)

เปิดอ่าน 356 ครั้ง
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science  ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ

เปิดอ่าน 15,946 ครั้ง
3 เทคนิควิเศษ ที่จะเสกให้คุณพูดอังกฤษเก่งเหมือนเจ้าของภาษา
3 เทคนิควิเศษ ที่จะเสกให้คุณพูดอังกฤษเก่งเหมือนเจ้าของภาษา

เปิดอ่าน 21,757 ครั้ง
13-17 พ.ค.2554 ครม.ไฟเขียวให้เป็นวันหยุดยาว 5 วัน
13-17 พ.ค.2554 ครม.ไฟเขียวให้เป็นวันหยุดยาว 5 วัน

เปิดอ่าน 9,049 ครั้ง
ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก
ระวังคาเฟอีนในขนมเด็ก

เปิดอ่าน 17,318 ครั้ง
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ

เปิดอ่าน 7,647 ครั้ง
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."
เชิญเข้าร่วมกิจกรรมอบรม "สิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ..."

เปิดอ่าน 31,159 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

เปิดอ่าน 12,343 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 15,049 ครั้ง
เรียนอะไร ได้ค่าตอบแทนสูงสุด ต้องคลิกมาอ่านนี่เลย
เรียนอะไร ได้ค่าตอบแทนสูงสุด ต้องคลิกมาอ่านนี่เลย

เปิดอ่าน 11,873 ครั้ง
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 888 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
เปิดอ่าน 14,308 ครั้ง
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
เปิดอ่าน 103,371 ครั้ง
ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่
ความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของแผนที่
เปิดอ่าน 11,520 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ