ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ Co-5STEPs หรือกระบวนการเรียนรู้แบ

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 มีจุดหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขโดยยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน ให้สังคมมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา การพัฒนาสาระการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง (กรมวิชาการ. 2545 ก: 2) สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มีจุดหมายต้องการพัฒนาคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตน ตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย พลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 3)

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ ระเบียบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. 2551 : 1) คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดจนศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งทางร่ายกาย จิตใจ สติปัญญาและอารมณ์ สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (กรมวิชาการ. 2545 ข : 1) จึงนับว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การดูเวลา การกำหนดรายรับรายจ่ายในครอบครัว แม้กระทั่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ล้วนอาศัยคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือที่ปลูกฝังอบรมให้ผู้เรียนเป็นคนช่างสังเกตรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล แสดงความคิดออกมาอย่างเป็นระเบียบและมีความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาอีกด้วย (พิศมัย ศรีอำไพ. 2543 : 6) ดังนั้น การจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ผู้สอนควรให้ความสนใจและเอาใจใส่ต่อการจัดการเรียนรู้ แต่สภาพการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในปัจจุบันของไทยยังคงประสบกับปัญหาหลายประการด้วยกัน ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมุ่งเน้นเนื้อหาและความจำมากกว่าเน้นกระบวนการ นักเรียนส่วนใหญ่มีความรู้และทักษะไม่เพียงพอ ครูใช้ความสามารถในการสอนเพียงคนเดียวถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนเป็นกลุ่มใหญ่พร้อมกัน ซึ่งในสภาพห้องเรียนที่มีบทบาทครูมากเกินไปนั้น จะไม่สามารถให้นักเรียนทั้งหมดรู้ได้อย่างดี ซึ่งส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ คือ การจัดการเรียนการสอนที่ไม่ตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านทักษะความสามารถ ความเข้าใจและความสามารถในการแก้ปัญหา การที่จะทำให้นักเรียนทุกคน

เรียนรู้ในสิ่งที่ยาก และมีลักษณะเป็นนามธรรมให้ได้ผลเท่ากัน ในเวลาจำกัดย่อมเป็นไปได้ยาก (วรลาภ แสงวัฒนะชัย. 2542 : 11) จากการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโป่ง ประสบปัญหาการเรียนรู้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร นักเรียน ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้และแก้ปัญหาได้ ครูผู้สอนจึงได้ศึกษาค้นคว้าหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะในการเรียนรู้เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานั้นควรเหมาะสมและสอดคล้องกับธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย

รูปแบบการเรียนรู้คณิตศาสตร์นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนเรียนรู้

จากการปฏิบัติจริง คือ การเรียนรู้จากการใช้คำถามประกอบคำอธิบาย และแสดงผลการเรียนรู้

จากการศึกษาค้นคว้า จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ โดยอิสระ สามารถศึกษาได้จากสิ่งพิมพ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ (กรมวิชาการ. 2545 ข : 193) ครูผู้สอนจึงควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาต่างๆ โดยมุ่งประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน (ยุพิน พิพิธกุล. 2540 : 24) โดยเฉพาะกิจกรรมการเรียน การสอนคณิตศาสตร์ครูต้องเน้นให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของคุณธรรม ในการนำคณิตศาสตร์ไปใช้ และต้องเน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ อันประกอบด้วยกระบวนการอุปนัย นิรนัย กระบวนการแก้ปัญหา ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนจะต้องไม่ยึดครูเป็นศูนย์กลาง แต่เป็นการจัดการเรียนการสอนโดยครูเป็นผู้เตรียมสื่อการเรียนต่าง ๆ เพื่อให้เนื้อหาบทเรียนมีความเป็นรูปธรรมง่ายต่อการเรียนรู้และช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเอง จึงจะทำให้เด็กจดจำความรู้ได้ดียิ่งขึ้น (จิราภรณ์ แจ่มชัดใจ. 2540 : 48 – 49) รูปแบบการสอนที่ดีควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สร้างความคิดรวบยอด ค้นพบความรู้ด้วยตนเอง จัดกิจกรรมที่หลากหลายท้าทายความคิด ครูผู้สอนจะต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเนื้อหา และส่งเสริมความเข้าใจให้กับผู้เรียน เนื้อหา บางเรื่องไม่สามารถอธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจได้ ต้องอาศัยวิธีการสอนที่เหมาะสม ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมทั้งทางร่างกาย ความคิดสติปัญญา อารมณ์ ความรู้สึก และการมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม ทางกายภาพทางธรรมชาติ ด้วยการนำสื่อ โสตทัศนศึกษาและเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการการเรียนรู้ (ทิศนา แขมมณี. 2540 : 1 – 22) เทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีความเหมาะสม สามารถนำมาใช้ในการเรียนการสอนคณิตศาสตร์อีกอย่างหนึ่งคือ กระบวนการจัดการเรียนรู้ Co-5STEPs หรือกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

กระบวนการจัดการเรียนรู้ Co-5STEPs หรือกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่ากระบวนการจัดการเรียนรู้ Co-5STEPs หรือกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้สูงกว่ากลุ่มที่เรียนด้วยวิธีปกติ และทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ชอบ สามารถเรียนรู้และเข้าใจง่าย ดึงดูดความสนใจ ทำให้เกิดความสนุกสนาน มีความกระตือรือร้น และมีความสนใจใฝ่รู้มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ผู้รายงานจึงมีความสนใจที่จะสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระ

การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ Co-5STEPs หรือกระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ขึ้นเพื่อทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น และเกิดความพึงพอใจที่ดีต่อการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่อไป

โพสต์โดย สุ : [27 ก.พ. 2566 เวลา 20:31 น.]
อ่าน [1683] ไอพี : 1.20.187.90
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,928 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 22,010 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์

เปิดอ่าน 1,402 ครั้ง
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย

เปิดอ่าน 191,036 ครั้ง
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน

เปิดอ่าน 392,546 ครั้ง
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก
เทคนิคการใส่เลขหน้าใน MS Word แบบไม่เริ่มต้นที่หน้าแรก

เปิดอ่าน 58,008 ครั้ง
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive

เปิดอ่าน 105,979 ครั้ง
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม
ทฤษฎีกลุ่มพุทธิปัญญานิยม

เปิดอ่าน 11,748 ครั้ง
อาหารที่ทำให้ดูสวย
อาหารที่ทำให้ดูสวย

เปิดอ่าน 16,165 ครั้ง
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม

เปิดอ่าน 41,001 ครั้ง
ศึก เอล กลาซิโก้ คืออะไร
ศึก เอล กลาซิโก้ คืออะไร

เปิดอ่าน 14,351 ครั้ง
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna

เปิดอ่าน 36,474 ครั้ง
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 21,675 ครั้ง
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 31,671 ครั้ง
ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี

เปิดอ่าน 13,290 ครั้ง
เหรียญราชนิยม
เหรียญราชนิยม

เปิดอ่าน 16,597 ครั้ง
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
เปิดอ่าน 76,189 ครั้ง
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เกณฑ์วิทยฐานะใหม่
เปิดอ่าน 21,443 ครั้ง
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
เปิดอ่าน 14,846 ครั้ง
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน
เปิดอ่าน 129,963 ครั้ง
แบบคำขอรับการประเมิน(ก.ค.ศ.1-ก.ค.ศ.1/1) และแบบรายงานฯ(ก.ค.ศ.2-ก.ค.ศ.3)
แบบคำขอรับการประเมิน(ก.ค.ศ.1-ก.ค.ศ.1/1) และแบบรายงานฯ(ก.ค.ศ.2-ก.ค.ศ.3)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ