ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ค่ากลางของข้อมูล โดยใช้รูปแบบห้องเรียนกลับด้าน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ค่ากลางของข้อมูล โดยใช้รูปแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา

อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ค่ากลางของข้อมูล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) โดยกลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 ห้อง นักเรียน 40 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 จำนวน 6 แผน แผนละ 50 นาที แบ่งเป็นเวลาในการสอน จำนวน 6 คาบ และเวลาในการทดสอบ 2 คาบ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องค่ากลางของข้อมลูแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล มีดังนี้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ค่ากลางของข้อมูล แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ใช้สำหรับวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังจัดการเรียนรู้

ผลการวิจัย พบว่า

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องค่ากลางของข้อมูล โดยจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom พบว่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน การเปรียบเทยบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องค่ากลางของข้อมลู โดยจัดการเรียนรู้ด้วย รูปแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้เป็นเพราะว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ได้ผ่านการตรวจสอบพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาคุณภาพของเครื่องมือที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และจุดประสงค์ของงานวิจัยเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยที่ผู้เรียนแต่ละคนไปสืบค้นข้อมลูที่ได้รับมอบหมายจากครูอย่างอิสระจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ แล้วนำมาอภิปรายในชั้นเรียน

โพสต์โดย katae : [15 มี.ค. 2566 เวลา 11:34 น.]
อ่าน [65367] ไอพี : 61.19.30.69
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,426 ครั้ง
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009
ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009

เปิดอ่าน 11,946 ครั้ง
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค
เปิดเว็บ"ยากับคุณ" ช่วยคนไทยห่างไกลโรค

เปิดอ่าน 16,284 ครั้ง
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

เปิดอ่าน 11,242 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม

เปิดอ่าน 41,180 ครั้ง
ภาษาน่ารู้ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์ ภาษาอิตาเลียน
ภาษาน่ารู้ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์ ภาษาอิตาเลียน

เปิดอ่าน 27,880 ครั้ง
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542

เปิดอ่าน 65,096 ครั้ง
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 19,284 ครั้ง
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’

เปิดอ่าน 36,626 ครั้ง
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า
ค้นพบคุณประโยชน์ของพวกผลไม้หลังสุด มีคุณมากกว่าเก่า 5 เท่า

เปิดอ่าน 16,103 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 13,090 ครั้ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง

เปิดอ่าน 104,340 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 30,026 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง

เปิดอ่าน 123,332 ครั้ง
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!

เปิดอ่าน 2,424 ครั้ง
เปิดตัวระบบย่อลิงก์ "dg.th" ลดปัญหาคุกคามทางไซเบอร์
เปิดตัวระบบย่อลิงก์ "dg.th" ลดปัญหาคุกคามทางไซเบอร์

เปิดอ่าน 31,387 ครั้ง
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 36,151 ครั้ง
โรคพยาธิตัวจี๊ด
โรคพยาธิตัวจี๊ด
เปิดอ่าน 16,453 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
เปิดอ่าน 17,497 ครั้ง
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เปิดอ่าน 4,843 ครั้ง
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ