ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย จังหวัดกระบี่

ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย จังหวัดกระบี่

ชื่อผู้วิจัย นายคำนึง รุ่งเรือง

ชื่อโรงเรียน โรงเรียนบ้านไสไทย สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย อำเภอเมือง

จังหวัดกระบี่

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย จังหวัดกระบี่

มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้

ของโรงเรียนบ้านไสไทยที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของคนไทย 4.0 ตามที่กำหนด

ไว้ในมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 2) พัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย

ให้เอื้อต่อการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของคนไทย 4.0 ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการศึกษา

ของชาติ พ.ศ. 2561 และ 3) จัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้

ของโรงเรียนบ้านไสไทย และโรงเรียนเครือข่ายให้เอื้อต่อการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของคนไทย

4.0 ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 และสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา

งานวิจัยชิ้นนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นหลัก เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเครื่องมือ จำนวน 3 ชุด ได้แก่

แบบสอบถามการจัดระบบนิเวศ แบบสังเกตการณ์ระดับพื้นที่ และแบบสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ

ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครู บุคลากร และเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษา จำนวน 13 คน ตัวแทนผู้ปกครอง

จำนวน 21 คน ตัวแทนชุมชน จำนวน 6 คน ตัวแทนหน่วยงานต้นสังกัด จำนวน 3 คน และตัวแทน

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเครือข่าย จำนวน 2 คน ได้ผลการศึกษาวิจัย ดังนี้

1. สภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ การจัดระบบนิเวศการเรียนรู้โรงเรียนบ้านไสไทย พบว่า

ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า การจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย เกือบทุกด้านสภาพปัจจุบัน

ที่กำลังดำเนินการและสภาพที่พึงประสงค์มีคะแนนอยู่ในระดับมาก โดยด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี

ยุคใหม่ เป็นด้านเดียวที่สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ได้รับคะแนนมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่อง

การมีอาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้ การส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ และบริเวณโรงเรียนมีต้นไม้

ร่มรื่น รองลงมา คือ ด้านการเปลี่ยนกรอบความคิดของชุมชน หน่วยงานต้นสังกัด ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนา

รูปแบบหรือแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลายในโรงเรียน และด้านความพร้อมขององค์กรและบุคลากร

สถานศึกษาและบุคลากรในสถานศึกษาได้รับความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอจากทุกภาคส่วน ทั้ง 3 ด้าน

ถือเป็นจุดแข็งของสถานศึกษาที่มีพลังในการเป็นต้นแบบสำหรับการขยายผลไปสู่โรงเรียนเครือข่ายฯ

ที่มีบริบทใกล้เคียง

2. การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย พบว่า โรงเรียนบ้านไสไทย

ควรดำเนินการใน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเสริมจุดแข็ง ระยะปรับจุดอ่อน และระยะขยายผลสู่โรงเรียน

เครือข่าย โดยทั้ง 3 ระยะ สามารถดำเนินการไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ในช่วงแรกเริ่มอาจใช้กลไกความร่วมมือ

ระหว่างสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และคณะผู้บริหารสถานศึกษาเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน

และควรพัฒนาการบริหารสถานศึกษา 4 ฝ่ายของโรงเรียนบ้านไสไทยให้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน

การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

3. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย

และโรงเรียนเครือข่าย ได้แก่

3.1 การพัฒนาการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนบ้านไสไทย โดยองค์ประกอบ

สำคัญที่จะต้องดำเนินการให้เชื่อมโยงกัน คือ 1) ความพร้อมของคนหรือสมาชิก 2) สภาพแวดล้อม

การเรียนรู้ (ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต) และ 3) กระบวนการและแนวทางทำงานร่วมกันของคนหรือสมาชิก

ภายใต้ระบบนิเวศการเรียนรู้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จ

ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดังนั้น ในอนาคตโรงเรียนบ้านไสไทย สามารถใช้โรงเรียน

สาธิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นต้นแบบของการพัฒนาได้

3.2 การพัฒนาการบริหารสถานศึกษา 4 ฝ่าย ให้สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้

อย่างมีประสิทธิภาพและเอื้อต่อการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ ควรเริ่มต้นจากการทบทวนแนวคิด

การกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาใหม่ และดำเนินการปรับประยุกต์ให้สอดคล้อง

กับบริบทโรงเรียนบ้านไสไทย

3.3 การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้ของโรงเรียนเครือข่ายฯ เป็นการนำแนวคิด

และจุดแข็งของโรงเรียนบ้านไสไทยไปปรับใช้ในการจัดระบบนิเวศการเรียนรู้ฯ ของโรงเรียนตน ได้แก่

1) การพัฒนาสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยียุคใหม่ให้มีอาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้ ที่ส่งเสริมให้เกิด

บรรยากาศน่าเรียนรู้ มีต้นไม้ร่มรื่น และกำหนดให้การพัฒนาระบบนิเวศการเรียนรู้เป็นนโยบายสำคัญ

ของสถานศึกษา 2) การส่งเสริมให้ชุมชน หน่วยงานต้นสังกัด และคณะผู้บริหารสถานศึกษาให้สนับสนุน

หรือเอื้ออำนวยให้เกิดรูปแบบและแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลายขึ้นในสถานศึกษา โดยการเปิดโอกาส

ให้ชุมชน หน่วยงานต้นสังกัด และคณะผู้บริหารมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการทำงาน เป็นผู้แสดงบทบาทหลัก

3) การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้สอน สถานศึกษา และภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสมำ่เสมอ

โพสต์โดย คำนึง : [20 เม.ย. 2566 เวลา 17:00 น.]
อ่าน [63023] ไอพี : 58.11.90.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,043 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?

เปิดอ่าน 7,756 ครั้ง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง

เปิดอ่าน 11,753 ครั้ง
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก
ชายวัย 70 ปี เหยียบไข่ 108 ฟองไม่แตก

เปิดอ่าน 21,167 ครั้ง
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี
หยุดผมร่วงด้วยบรั่นดี

เปิดอ่าน 1,332 ครั้ง
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี

เปิดอ่าน 30,807 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล
การปฏิรูปการศึกษา การศึกษายุค 4.0 : โดย ประเสริฐ ตันสกุล

เปิดอ่าน 25,133 ครั้ง
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา

เปิดอ่าน 15,640 ครั้ง
หลังออกกำลังกาย กินอะไรให้ร่างกายฟื้นตัวดี
หลังออกกำลังกาย กินอะไรให้ร่างกายฟื้นตัวดี

เปิดอ่าน 6,593 ครั้ง
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เปิดอ่าน 382,629 ครั้ง
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก
คำศัพท์ที่มีการใช้มากที่สุดในภาษาอังกฤษ 500 อันดับแรก

เปิดอ่าน 5,374 ครั้ง
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?
พกมือถือในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหรือหันหน้าออกดี?

เปิดอ่าน 29,928 ครั้ง
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด

เปิดอ่าน 4,942 ครั้ง
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก มีอะไรบ้างนะ
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก มีอะไรบ้างนะ

เปิดอ่าน 25,076 ครั้ง
"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน
"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน

เปิดอ่าน 15,690 ครั้ง
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน

เปิดอ่าน 12,115 ครั้ง
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
เปิดอ่าน 22,764 ครั้ง
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู
การศึกษาความสัมพันธ์ของประสบการณ์การทำงานฯ ต่อวัฒนธรรมการทำงานของครู
เปิดอ่าน 25,817 ครั้ง

'ฟ้าทะลายโจร' สุดยอดสมุนไพรแห่งปี
เปิดอ่าน 751 ครั้ง
8 เมืองน่าเรียนต่อ 2025 เรียนดี ชีวิตดี ครบจบในเมืองเดียว
8 เมืองน่าเรียนต่อ 2025 เรียนดี ชีวิตดี ครบจบในเมืองเดียว
เปิดอ่าน 12,782 ครั้ง
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ