ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 เรื่อง การเขียนโปรแกรมเพื่อประยุกต์ใช้งาน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้การจัดการเรียนรู้

จากผลการวิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 เรื่อง การเขียนโปรแกรมเพื่อประยุกต์ใช้งาน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) อภิปรายผล ได้ดังนี้

1. การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) โดยหลังจากผู้เรียนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีผลการเรียนเมื่อหาค่าประสิทธิภาพ E1/E2 โดยกำหนดเกณฑ์ 80/80 พบว่าประสิทธิภาพ E1/E2 ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.29/87.33 แสดงว่า หลังจากผู้เรียน เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ค่าเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 18.92 ค่าเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 34.58 มีค่าสถิติทดสอบที (t-test) เท่ากับ 38.01 ทั้งนี้เนื่องจากเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้เริ่มต้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสร้างความรู้จากกระบวนการทำงานกลุ่ม ตัวปัญหาจะเป็นจุดตั้งต้นของกระบวนการเรียนรู้ และเป็นตัวกระตุ้นการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยเหตุผล และการสืบค้นหาข้อมูลเพื่อเข้าใจกลไกของตัวปัญหา รวมทั้งวิธีการแก้ปัญหา โดยแต่ละขั้นตอนเน้นให้นักเรียนใช้สื่อบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เพื่อค้นหาคำตอบของปัญหาด้วยตนเอง โดยการเรียนการสอนจะมีการบูรณาการสื่อสังคมออนไลน์ ในการเรียนรู้ สอบถามปัญหาข้อสงสัย สืบค้นข้อมูล สร้างองค์ความรู้และบันทึกองค์ความรู้ที่นักเรียนสร้างขึ้น นอกจากนี้ยังพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพของตนเอง

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นข้อ พบว่า นักเรียนพึงพอใจมากที่สุดในการใช้สื่อบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้นและมีความสุขในการเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.92 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.13 เท่ากับพึงพอใจในระดับมากที่สุด ในด้านการวัดและประเมินครูมีเกณฑ์ประเมินที่เหมาะสม ชัดเจน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.16 ด้านที่นักเรียนพึงพอใจน้อยสุดคือ ในเรื่องความพร้อมและความเหมาะสมของอุปกรณ์และสื่อการสอน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.45 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.5 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของคมดาว พุทธโคตร (2549 : 88) ได้วิจัยเปรียบเทียบผลของการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนตามปกติที่มีต่อผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.00/80.33 และมีดัชนีประสิทธิผล 0.76 คิดเป็นร้อยละ 76.22 นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังการเรียนผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์สูญเสียความทรงจำร้อยละ 6.87 ส่วนนักเรียนที่เรียนตามปกติสูญเสียความทรงจำร้อยละ 12.25 โดยกลุ่มที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีความคงทนความรู้ได้มากกว่ากลุ่มที่เรียนปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย Kru Noosanee : [13 ก.ค. 2566 เวลา 10:35 น.]
อ่าน [1994] ไอพี : 113.53.4.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,737 ครั้ง
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ
สารอาหาร ที่เซลล์มะเร็งต้องการ

เปิดอ่าน 38,901 ครั้ง
ผลึกความรู้นิทรรศการวันครูสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา : เดชาพัชร  สมหมาย
ผลึกความรู้นิทรรศการวันครูสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา : เดชาพัชร สมหมาย

เปิดอ่าน 16,054 ครั้ง
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559
ปฏิทินการรับสมัครนักเรียน ปี 2559

เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง

เปิดอ่าน 8,794 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 9,159 ครั้ง
Windows 7 RC พร้อมให้ทดสอบแล้ว
Windows 7 RC พร้อมให้ทดสอบแล้ว

เปิดอ่าน 12,079 ครั้ง
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?
ลูกขี้อาย ... ทำอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 76,654 ครั้ง
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด

เปิดอ่าน 18,117 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
จดหมายฉบับที่ 54 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 28,913 ครั้ง
ลอยกระทง วันลอยกระทง ประเพณีลอยกระทง
ลอยกระทง วันลอยกระทง ประเพณีลอยกระทง

เปิดอ่าน 27,113 ครั้ง
ระบบสี Subtractive
ระบบสี Subtractive

เปิดอ่าน 31,011 ครั้ง
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

เปิดอ่าน 10,338 ครั้ง
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ
เที่ยวมหกรรมนวดนานาชาติ ในงานแฟร์สุขภาพ

เปิดอ่าน 23,686 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบกราฟิก
องค์ประกอบของระบบกราฟิก

เปิดอ่าน 19,332 ครั้ง
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
ดูทีวีเวลานอน...ผู้ใหญ่เสี่ยงโรค-เด็กเสี่ยงโง่
เปิดอ่าน 10,059 ครั้ง
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
เปิดอ่าน 12,226 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
เปิดอ่าน 42,094 ครั้ง
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร
6 ขั้นตอนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กร เพื่อรักษาคนเก่งขององค์กร
เปิดอ่าน 16,911 ครั้ง
วิธีการลบบาง URL ออกจากช่อง Address
วิธีการลบบาง URL ออกจากช่อง Address

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ