|
Advertisement
|
จากผลการวิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 เรื่อง การเขียนโปรแกรมเพื่อประยุกต์ใช้งาน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) อภิปรายผล ได้ดังนี้
1. การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) โดยหลังจากผู้เรียนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีผลการเรียนเมื่อหาค่าประสิทธิภาพ E1/E2 โดยกำหนดเกณฑ์ 80/80 พบว่าประสิทธิภาพ E1/E2 ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 86.29/87.33 แสดงว่า หลังจากผู้เรียน เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ค่าเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 18.92 ค่าเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 34.58 มีค่าสถิติทดสอบที (t-test) เท่ากับ 38.01 ทั้งนี้เนื่องจากเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้เริ่มต้นจากปัญหาที่เกิดขึ้นโดยสร้างความรู้จากกระบวนการทำงานกลุ่ม ตัวปัญหาจะเป็นจุดตั้งต้นของกระบวนการเรียนรู้ และเป็นตัวกระตุ้นการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาด้วยเหตุผล และการสืบค้นหาข้อมูลเพื่อเข้าใจกลไกของตัวปัญหา รวมทั้งวิธีการแก้ปัญหา โดยแต่ละขั้นตอนเน้นให้นักเรียนใช้สื่อบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจะเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ เพื่อค้นหาคำตอบของปัญหาด้วยตนเอง โดยการเรียนการสอนจะมีการบูรณาการสื่อสังคมออนไลน์ ในการเรียนรู้ สอบถามปัญหาข้อสงสัย สืบค้นข้อมูล สร้างองค์ความรู้และบันทึกองค์ความรู้ที่นักเรียนสร้างขึ้น นอกจากนี้ยังพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพของตนเอง
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ร่วมกับการใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ด้วยบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นข้อ พบว่า นักเรียนพึงพอใจมากที่สุดในการใช้สื่อบทเรียนออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้นและมีความสุขในการเรียน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.92 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.13 เท่ากับพึงพอใจในระดับมากที่สุด ในด้านการวัดและประเมินครูมีเกณฑ์ประเมินที่เหมาะสม ชัดเจน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.16 ด้านที่นักเรียนพึงพอใจน้อยสุดคือ ในเรื่องความพร้อมและความเหมาะสมของอุปกรณ์และสื่อการสอน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.45 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.5 ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของคมดาว พุทธโคตร (2549 : 88) ได้วิจัยเปรียบเทียบผลของการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนตามปกติที่มีต่อผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 84.00/80.33 และมีดัชนีประสิทธิผล 0.76 คิดเป็นร้อยละ 76.22 นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังการเรียนผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์สูญเสียความทรงจำร้อยละ 6.87 ส่วนนักเรียนที่เรียนตามปกติสูญเสียความทรงจำร้อยละ 12.25 โดยกลุ่มที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีความคงทนความรู้ได้มากกว่ากลุ่มที่เรียนปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์มีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย Kru Noosanee : [13 ก.ค. 2566 เวลา 10:35 น.] อ่าน [61708] ไอพี : 113.53.4.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 7,873 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 26,293 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,877 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,024 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,667 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,830 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 30,907 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,102 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 51,499 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 98,273 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 966 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 48,469 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,886 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 42,836 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,759 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 802 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 67,793 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,949 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 31,307 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 35,630 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|