ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

กิจกรรม ส่งเสริมการรักการอ่าน การพัฒนาการอ่านสะกดคำ การอ่านออกเสียงคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้สื่อและกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning: BBL

กิจกรรม ส่งเสริมการรักการอ่าน

การพัฒนาการอ่านสะกดคำ การอ่านออกเสียงคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้สื่อและกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning: BBL

ว่าที่ ร.ต.หญิงบุญญาพร สุขใจดี

ที่มาและความสำคัญ

ในสังคมปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการอ่านมีความสำคัญและจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความจำเป็นที่ต้องใช้การอ่านตลอด ทั้งในเรื่องส่วนตัว หรือด้านการทำงานในแต่ละวัน ถ้าหากมีรากฐานการอ่านที่ดีก็จะทำให้สื่อความหมายและสื่อภาษาจากสิ่งที่อ่านได้เร็วและเข้าใจมากขึ้น ในสังคมที่มีความเจริญจะพบว่าสังคมนั้นมีการอ่านมากเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้จากการจัดการศึกษาภาคบังคับของประเทศไทย ก็ได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกคนอ่านออก เขียนได้เป็นสิ่งแรก เพราะขั้นตอนต่อไปของการเรียนการสอนต้องใช้การอ่านเป็นพื้นฐาน ถ้านักเรียนอ่านไม่ได้ก็ไม่สามารถที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนได้ โดยเฉพาะการเรียนการสอนในปัจจุบัน เน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมหรือค้นคว้าด้วยตนเองมากขึ้น ดังนั้นการส่งเสริมการอ่าน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 มีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาการอ่านของนักเรียน โดยมีการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถการอ่าน เขียนและคิดคำนวณของผู้เรียนทุกระดับชั้น และกำหนดจุดเน้นในการดำเนินงานเรื่องการอ่านนออกเขียนได้ จากผลรายงานการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test: RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564 พบว่า ผลการประเมินการอ่านออกเสียงร้อยละ 33.33 อยู่ในระดับดี ร้อยละ 46.66 อยู่ในระดับพอใช้ และร้อยละ 20 อยู่ในระดับปรับปรุง ซึ่งผลการเมินต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด อาจเป็นผลมาจากการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งนักเรียนบางส่วนเกิดการเรียนรู้ได้ช้า ไม่เป็นไปตามตัวชี้วัดที่หลักสูตรกำหนด ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำกิจกรรมการพัฒนาการอ่านสะกดคำ และการอ่านออกเสียงคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้สื่อและกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning: BBL

กระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning หรือ BBL เป็นการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัย เป็นการนำองค์ความรู้เรื่องสมองมาใช้เป็นฐานในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เป็นแนวการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามหลักการของสมองกับการเรียนรู้ การเรียนรู้ต้องใช้ทุกส่วนทั้งการคิด ความรู้สึก และการลงมือปฏิบัติไปพร้อมๆ กัน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของโครงสร้างและหน้าที่การทำงานของสมอง ซึ่งครูผู้สอนได้นำหลักการ BBL มาประยุกต์ใช้ในการจัดการจัดกิจกรรมพัฒนาการอ่านสะกดคำ การอ่านออกเสียงคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้สื่อและกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning: BBL

วัตถุประสงค์

1. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนมีนิสัยใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนทักษะการอ่าน

2. เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกอ่านคำให้คล่อง และเกิดการพัฒนาเป็นนิสัยรักการอ่าน

สื่อและอุปกรณ์

1. ไม้ไอศกรีม

2. ช้อนพลาสติก

3. ใบงาน

การจัดกิจกรรม

1. นักเรียนได้รับไม้ไอศกรีมคนละ 1 อัน เพื่อใช้ในการชี้คำ หรือ นักเรียนจะได้รับช้อนพลาสติกที่มีพยัญชนะ สระ และตัวสะกดสำหรับการประสมคำ

2. นักเรียนได้รับใบงานในหัวข้อเรื่องต่างๆ ครั้งละ 1 ใบงาน

3. นักเรียนใช้ช้อนในการประสมคำและฝึกอ่าน หรือนักเรียนลงมือทำใบงานและฝึกอ่านสะกดคำ อ่านออกเสียงคำในใบงานและสื่อการสอนและใช้ไม้ไอศกรีมในการชี้คำ จากนั้นอ่านให้เพื่อนๆ และครูฟังเพื่อเป็นการทบทวนเกี่ยวกับคำที่อ่าน

4. นักเรียนฝึกอ่านจนคล่องโดยมีครูคอยให้คำแนะนำหากนักเรียนออกเสียงไม่ถูกต้อง นักเรียนที่สามารถอ่านได้แล้วจะคอยช่วยเหลือเพื่อนที่ยังอ่านไม่คล่อง

5. นักเรียนทดสอบอ่านคำให้ครูฟังทีละคน

การวัดและประเมินผล

1. สังเกตความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน

2. ทดสอบการอ่านคำของนักเรียน

สรุปผล

กิจกรรมส่งเสริมการรักการอ่าน การพัฒนาการอ่านสะกดคำ การอ่านออกเสียงคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้สื่อและกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบ Brain-based learning: BBL จำนวน 19 คน เมื่อดำเนินกิจกรรมการรักการอ่านแล้ว นักเรียนร้อยละ 80 สามารถอ่านสะกดคำและอ่านออกเสียงคำได้คล่องแคล่วมากขึ้น และการอ่านของนักเรียนพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเรียนที่อ่านคล่องแล้วจะมีการขยายผลโดยการอ่านแบบฝึกหัดอ่าน และอ่านประโยคต่างๆ อ่านหนังสือเรียน หนังสือในห้องสมุดที่ตนเองสนใจ และอ่านบทความตามป้ายต่างๆได้ ส่วนนักเรียนที่เมื่อก่อนยังอ่านไม่คล่อง ก็จะสามารถอ่านได้คล่องขึ้นเพราะได้เกิดจากการฝึกฝนอยู่เป็นประจำ

ข้อเสนอแนะ

1. ควรออกแบบกิจกรรมย่อยเพิ่มขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียน

2. ควรออกแบบใบงานให้เหมาะสมกับนักเรียนเป็นรายบุคคล

3. ควรเพิ่มรูปแบบของสื่อการสอนให้หลากหลาย

โพสต์โดย บุญญาพร : [25 ก.ค. 2566 เวลา 04:03 น.]
อ่าน [64355] ไอพี : 49.237.45.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 69,737 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลถลอก
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลถลอก

เปิดอ่าน 38,945 ครั้ง
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)
การวิ่งเพื่อสุขภาพ (สุขศึกษา)

เปิดอ่าน 13,010 ครั้ง
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ช่วยลูกทำการบ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 22,269 ครั้ง
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF
การส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ส่งในย่าน VHF

เปิดอ่าน 11,607 ครั้ง
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย
คลิปชายอ้างเป็น"นายสิบ"เมากร่าง ขับรถกินเลน ปชช.คู่กรณีไม่พอ ยังด่าหยาบ-ทำร้ายร่างกาย

เปิดอ่าน 76,797 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)

เปิดอ่าน 27,399 ครั้ง
สรุปจำนวนผู้สมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560
สรุปจำนวนผู้สมัครสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 21,360 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 17,992 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 31,970 ครั้ง
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน

เปิดอ่าน 52,163 ครั้ง
การศึกษาไทย...ไปถึงไหนแล้ว?? ผู้เขียน สหัส แก้วยัง
การศึกษาไทย...ไปถึงไหนแล้ว?? ผู้เขียน สหัส แก้วยัง

เปิดอ่าน 11,646 ครั้ง
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 16,576 ครั้ง
ใบชะมวง ต้านมะเร็งและแบคทีเรีย
ใบชะมวง ต้านมะเร็งและแบคทีเรีย

เปิดอ่าน 64,234 ครั้ง
การอ่านแบบ  Skimming
การอ่านแบบ Skimming

เปิดอ่าน 12,463 ครั้ง
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"
คลิปซาบซึ้งความผูกพัน "ครูควรดู-นร.ควรชม"

เปิดอ่าน 736 ครั้ง
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า
เปิดอ่าน 2,118 ครั้ง
ติดฟิล์มกระจกบ้าน วิธีลดอุณหภูมิและปกป้องบ้านจากแสงแดด
ติดฟิล์มกระจกบ้าน วิธีลดอุณหภูมิและปกป้องบ้านจากแสงแดด
เปิดอ่าน 13,672 ครั้ง
ปรับลดเวลาเรียนเป็นสิ่งที่ดีมาก...ถ้าปรับหลักสูตรด้วย
ปรับลดเวลาเรียนเป็นสิ่งที่ดีมาก...ถ้าปรับหลักสูตรด้วย
เปิดอ่าน 11,035 ครั้ง
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
สร้างนวัตกรรมเพื่อคนไทย ใช้ "ปัญญา" แก้ "ปัญหา"
เปิดอ่าน 24,195 ครั้ง
ตำนานพระโกศ
ตำนานพระโกศ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ