ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย


ความรู้ทั่วไป 2 พ.ค. 2566 เวลา 04:07 น. เปิดอ่าน : 1,855 ครั้ง
Advertisement

กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

Advertisement

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย ไข่เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนคุณภาพดีและวิตามิน แร่ธาตุ เหมาะกับคนทุกกลุ่มวัย แต่ไม่ควรบริโภคไข่อย่างเดียว โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนควรกินอาหารให้ได้สัดส่วนตามธงโภชนาการ ครบกลุ่มหลากหลายเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน เพียงพอ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีข่าวเกี่ยวกับการกินไข่ต้มกับน้ำปลา เพื่อให้กินกับและข้าวได้อย่างพอดีกัน และกินคลุกกับน้ำราดผักบุ้ง นั้น กรมอนามัยขอแนะนำว่า

การกินลักษณะนี้ไม่เหมาะสมตามหลักโภชนาการ เพราะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลากหลายชนิดในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับการเจริญเติบโต การกินข้าวไข่ต้มคลุกน้ำปลา และราดน้ำผัดผักบุ้ง จะส่งผลให้เด็กได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนโดยเฉพาะโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารจากการกินไข่และผักไม่เพียงพอ ได้รับโซเดียมมากเกินไปจากน้ำปลา และน้ำราดผักบุ้ง รวมทั้งอาจได้รับพลังงานจากการกินข้าวมากเกินไป เพราะกินผักและไข่น้อย ไม่อิ่มท้อง

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แม้ไข่จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่การบริโภคไข่อย่างเดียว เป็นประจำ ทำให้เด็กวัยเรียนได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต เด็กวัยเรียนควรกินไข่ร่วมกับอาหารอื่นให้ได้สัดส่วนตามธงโภชนาการ โดยเด็กวัยนี้ ควรกินไข่วันละ 1 ฟอง ควบคู่กับการดื่มนมจืด กินข้าว เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้อย่างหลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสมตามธงโภชนาการ เด็กอายุ 6 -14 ปี ควรได้รับพลังงานเฉลี่ยประมาณวันละ 1,600 กิโลแคลอรี โดยเฉลี่ยใน 1 มื้อควรกินข้าวหรือแป้ง 2-3 ทัพพี เนื้อสัตว์ 3-4 ช้อนกินข้าว ผัก 3-4 ช้อนกินข้าว ผลไม้ 6 – 8 ชิ้นพอดีคำทุกมื้อ ร่วมกับนม 2 แก้วต่อวัน ควรฝึกให้เด็กกินอาหารที่ลดหวาน มัน เค็ม ลดการเติมเครื่องปรุงรส ลดเครื่องดื่มรสหวาน ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ควบคุมการซื้อขนมกรุบกรอบ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น จัดให้มีนมรสจืด และผลไม้ติดตู้เย็น ติดบ้าน อยู่เสมอ รวมทั้งดื่มน้ำเปล่าสะอาด 6 – 8 แก้วต่อวัน

“ที่สำคัญ พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเด็ก มีบทบาทมากที่จะช่วยให้เด็กห่างไกลจากภาวะผอม เตี้ย น้ำหนักเกิน และอ้วน โดยการลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง ให้เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น ชวนเด็กกระโดด โลดเต้น เล่นให้สนุก จนรู้สึกเหนื่อย อย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน ฝึกขับถ่ายเป็นประจำ และนอนหลับให้เพียงพอวันละ 9- 11 ชั่วโมง ควรเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรใช้ห้องนอน และเตียงนอนเป็นที่เล่นคอมพิวเตอร์ แท็ปเลต โทรศัพท์มือถือ และรับประทานอาหาร ทั้งนี้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรติดตามเฝ้าระวังการเจริญเติบโต โดยสามารถประเมินภาวะโภชนาการของบุตรหลานตนเองได้ด้วยกราฟแสดงเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6 – 19 ปี เพื่อให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เด็กมีปัญหาโภชนาการขาดและเกิน ทำให้เด็กรอดพ้นจากผลเสียของภาวะเตี้ย ภาวะผอม และภาวะอ้วน ส่งผลให้ปัญหาทุพโภชนาการลดลงด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

ที่มา กรมอนามัย / 27 เมษายน 2566

 


กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลายกรมอนามัยเผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอเด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สำรวจบ้าน-พิชิตโรค

สำรวจบ้าน-พิชิตโรค


เปิดอ่าน 9,069 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

โรงงานผลิตครีม รับผลิตครีมได้มาตรฐาน อย. มีความปลอดภัย

โรงงานผลิตครีม รับผลิตครีมได้มาตรฐาน อย. มีความปลอดภัย

เปิดอ่าน 612 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง
เปิดอ่าน 8,482 ☕ คลิกอ่านเลย

กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
เปิดอ่าน 17,431 ☕ คลิกอ่านเลย

"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?
"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?
เปิดอ่าน 920 ☕ คลิกอ่านเลย

 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?
เปิดอ่าน 16,349 ☕ คลิกอ่านเลย

9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
9 หนทางสู่การลดน้ำหนักแบบทันใจ
เปิดอ่าน 12,577 ☕ คลิกอ่านเลย

สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค
สวมแหวนนิ้วไหนถึงจะมีโชค
เปิดอ่าน 17,378 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไงดีหนอ…กับอาการแพ้ท้อง?
ทำไงดีหนอ…กับอาการแพ้ท้อง?
เปิดอ่าน 12,914 ครั้ง

15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
เปิดอ่าน 170,966 ครั้ง

นางสงกรานต์ ปี 2552
นางสงกรานต์ ปี 2552
เปิดอ่าน 13,618 ครั้ง

ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป
ค้นพบโลกใบที่ 2 มีอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนมากเกินไป
เปิดอ่าน 12,857 ครั้ง

จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน
จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน
เปิดอ่าน 10,965 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ