ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E PLUS

ชื่องานวิจัย : การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E PLUS ชุด แรงในชีวิต

ประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย : นิตยา สุวรรณมณี

ปีที่วิจัย : 2564

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) สร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาล 1 (แตงอ่อนเผดิมวิทยา) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Objective Congruence : IOC) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ การทดสอบค่าที (t – test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีดังนี้ 1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ด้านความคิดสร้างสรรค์ต่ำมาก 2) ศักยภาพของครูในการจัดการเรียนรู้ 3) การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ชิ้นงาน 4) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 5) การพัฒนาสื่อและแหล่งเรียนรู้ 6) การส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม 7) เทคนิคการตั้งคำถาม และคำถาม จำนวน 10 ข้อ และผลจากการสังเคราะห์แนวคิดทฤษฎี พบว่า แนวทางในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ซึ่งผู้เรียนสร้างความรู้ได้ด้วยตัวเอง และวิเคราะห์ข้อมูลสรุปผลและเตรียมนำเสนอข้อมูลด้วยการทำแผนผังความคิด โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุดของการสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus คือ “คำถาม” จะเป็นตัวกระตุ้นการเรียนรู้การแสวงหาความรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ

2.ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 มีประสิทธิภาพ 83.04/84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus มีดังนี้ ขั้นที่ 1 การสร้างความสนใจ ขั้นที่ 2 การสำรวจและค้นหา ขั้นที่ 3 การอธิบายและลงข้อสรุป ขั้นที่ 4 การขยายความรู้ ขั้นที่ 5 การประเมินผล + Plus 5.1) เครื่องมือทดสอบความคิด/แผนผังความคิด 5.2) การนำเสนอผลงาน

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ชุด แรงในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ในภาพรวม นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 3.75 SD. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจระดับมากทุกด้านเรียงตามลำดับ ดังนี้ ด้านกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E Plus ( = 3.79 SD. = 0.44) ด้านการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ( = 3.76 SD. = 0.56) ด้านเนื้อหา ( = 3.74 SD. = 0.51) และด้านครูผู้สอน ( = 3.74 SD. = 0.46)

โพสต์โดย somjit : [21 ก.ย. 2566 เวลา 17:37 น.]
อ่าน [2940] ไอพี : 184.22.173.135
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,567 ครั้ง
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี

เปิดอ่าน 20,345 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

เปิดอ่าน 9,112 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 41,236 ครั้ง
Public Domain คืออะไร?
Public Domain คืออะไร?

เปิดอ่าน 24,144 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 33,833 ครั้ง
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า

เปิดอ่าน 27,097 ครั้ง
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาส

เปิดอ่าน 11,410 ครั้ง
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย

เปิดอ่าน 20,474 ครั้ง
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ

เปิดอ่าน 119,560 ครั้ง
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้

เปิดอ่าน 15,765 ครั้ง
เสียงสะท้อนจากเยาวชน ต่อนโยบายลดเวลาเรียน
เสียงสะท้อนจากเยาวชน ต่อนโยบายลดเวลาเรียน

เปิดอ่าน 11,146 ครั้ง
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

เปิดอ่าน 22,257 ครั้ง
ทำไมจึงเรียกขนมจีน
ทำไมจึงเรียกขนมจีน

เปิดอ่าน 38,452 ครั้ง
เบกกิ้งโซดา กับ 10 คุณประโยชน์ที่คนรักสุขภาพต้องร้องว้าว
เบกกิ้งโซดา กับ 10 คุณประโยชน์ที่คนรักสุขภาพต้องร้องว้าว

เปิดอ่าน 12,828 ครั้ง
ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล
ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี และ การกำหนดให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันฉัตรมงคล

เปิดอ่าน 36,564 ครั้ง
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้
เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมไอเดียเด็ดเด็กใต้
เปิดอ่าน 13,635 ครั้ง
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข
เปิดอ่าน 16,119 ครั้ง
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
เปิดอ่าน 27,763 ครั้ง
วิธีการปลูกผักชี
วิธีการปลูกผักชี
เปิดอ่าน 17,601 ครั้ง
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ