ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา)
ชื่อผู้วิจัย นางสาว สุพิชญา ชูสกุล ตำแหน่ง : ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ชื่อหน่วยงาน: โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
ปีที่ทำวิจัย : ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยานมีประสิทธิภาพถึง 80/80 3) เพื่อทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน 4) เพื่อประเมินผลทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ด้านความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน กลุ่มประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ทักษะ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t test)
สรุปผลการวิจัย พบว่า
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) มีผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) พบว่า นักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) โดยให้มีรูปแบบที่เหมาะสม วิธีการทำที่หลากหลาย เวลาในการปฏิบัติกิจกรรม สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตร โดยเรียนรู้จากการปฏิบัติ โดยเรื่องที่นำมาพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) มีเนื้อหาจากความต้องการและความสนใจของนักเรียนเป็นสำคัญ ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายวิธี อาทิเช่น การใช้สื่อประกอบต่างไ เช่น วิดีทัศน์ ยูทูป เป็นต้น เพื่อดึงดูดความสนใจนักเรียนมากขึ้น โดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญและความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. ผลการพัฒนาและหาค่าประสิทธิภาพการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) พบว่า มีค่าประสิทธิภาพรายเดี่ยว (Individual Tryout) เท่ากับ 83.45/84.00 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 82.74/84.67 และแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในขั้นภาคสนาม (Field Tryout) คือ 83.94/84.85 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
3. ผลการเปรียบเทียบการทดลองใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยานพบว่า การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) ภาคเรียนที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 19.62 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 28.14 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตรงตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
4. ผลประเมินผลทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ด้านความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านบทอาขยาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( = 4.33, S.D. = 0.17) เมื่อพิจารณารายด้าน โดยมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของนักเรียน เรียงรายด้านจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับ มาก ( = 4.40, S.D. = 0.33) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ อยู่ในระดับ มาก ( = 4.40, S.D. = 0.33) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้