ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องแรงลัพธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านตาปรก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านตาปรก

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก สื่อ Sorting แรงลัพธ์ ใบงานเชิงสร้างสรรค์ และเกมกระดานหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง โดยนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมเชิงรุกเพื่อเรียนรู้เรื่องแรงลัพธ์ หลังจากจบการเรียนการสอนสรุปความรู้ด้วยการใช้ผัง Sorting และทดสอบความรู้ความเข้าใจด้วยการตอบคำถามในเกมหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง จากนั้นผู้วิจัยจึงประเมินวิเคราะห์ความเหมาะสมของการจัดการเรียนรู้ และประเมินวิเคราะห์ความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน

ผลการวิจัยปรากฏว่า หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แล้ว ผู้วิจัยพบว่าการใช้กระบวนการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ดังงานวิจัยนี้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี และควรปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้จากบันทึกหลังสอนต่อไป ส่วนความรู้ความเข้าใจนั้นผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้และประเมินผลการตอบคำถามจากเกมหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับที่ดีมาก สามารถตอบคำถามได้ถูกต้องร้อยละ 95

บทที่ 4

ผลการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โดยเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นลำดับ ในลักษณะตารางประกอบคำบรรยายดังนี้

1. การวิเคราะห์ผลการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน

2. การวิเคราะห์ผลการใช้ผัง Sorting แรงลัพธ์

3. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมกระดานหาแรงลัพธ์ส่งผึ้งกลับรัง

4. การวิเคราะห์หาความเหมาะสมของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting จากบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้

1. การวิเคราะห์ผลการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน

ในระหว่างการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ได้จัดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ทำแบบฝึกหัด/ใบงาน ผลการประเมินระดับคุณภาพแสดงดังตารางที่ 1

ตารางที่ 1 แสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน

ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนนักเรียนที่ได้ (คน) คิดเป็นร้อยละ

ดีมาก 4 27

ดี 8 53

พอใช้ 3 20

จากตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในการทำแบบฝึกหัด/ใบงานของนักเรียนรายบุคคลนั้น พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน สามารถทำแบบฝึกหัด/ใบงานเรื่องแรงลัพธ์ มีระดับคุณภาพดีมาก ร้อยละ 27 คุณภาพดี ร้อยละ 53 และ คุณภาพพอใช้ ร้อยละ 20

2. การวิเคราะห์ผลการใช้ผัง Sorting

ในระหว่างการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ได้จัดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ได้แบ่งนักเรียนทำกิจกรรม Sorting แรงลัพธ์ เป็น 3 กลุ่ม และสังเกตการทำกิจกรรมกลุ่ม ผลการประเมินระดับคุณภาพแสดงดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 แสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในกิจกรรมผัง Sorting แรงลัพธ์

ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนกลุ่มที่ได้ (กลุ่ม) คิดเป็นร้อยละ

ดีมาก 1 33.33

ดี 2 66.67

พอใช้ - -

จากตารางที่ 2 ผลแสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในกิจกรรมผัง Sorting แรงลัพธ์ของนักเรียนรายกลุ่มนั้น พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 กลุ่ม สามารถทำกิจกรรมผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ มีระดับคุณภาพดีมาก ร้อยละ 33.33 คุณภาพดี ร้อยละ 66.67

3. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกม

หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียน โดยการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกม เรื่องแรงลัพธ์ โดยแบบทดสอบผู้วิจัยสร้างขึ้นให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดในเรื่องแรงลัพธ์ นักเรียนจะต้องตอบคำถามผ่านการเล่นเกม ผลการทดสอบแสดงดังตารางที่ 3

ตารางที่ 3 แสดงผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมเรื่องแรงลัพธ์

ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนนักเรียนที่ผ่าน (คน) คิดเป็นร้อยละ

ผ่าน 15 100

ไม่ผ่าน - -

จากตารางที่ 3 ผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมเรื่องแรงลัพธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน สามารถเล่นเกมและตอบคำถามผ่าน คิดเป็นร้อยละ 100

4. การวิเคราะห์หาความเหมาะสมของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์จากบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้

หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ทำการบันทึกหลังการสอน โดยผลจากการสอนแสดงดังต่อไปนี้

ผลการสอน

นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับแรงลัพธ์ สามารถอธิบายความหมาย และหาแรงลัพธ์ได้ ตลอดจนสามารถเขียนแผนภาพแสดงแรงต่างๆได้

นักเรียนเกิดทักษะใดบ้าง ทำเครื่องหมาย  ในช่องว่างที่ตรงกับสิ่งที่ทำได้

 การสังเกต  การวัด  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท

 การหาความสัมพันธ์ระหว่าง สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา

 การจัดกระทำและการสื่อความหมายข้อมูล  การพยากรณ์

 การลงความเห็นจากข้อมูล  การตั้งสมมติฐาน  การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ

 การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตีความหมายและลงข้อสรุป

 การสร้างแบบจำลอง

นักเรียนเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทำเครื่องหมาย  ในช่องว่างที่ตรงกับทักษะที่เกิด

 การสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปัญหา

 การสื่อสาร  ความร่วมมือ  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ปัญหาและอุปสรรค

นักเรียนชั้น ชั้น ป.5 จำนวน 4 คน (จิรวัฒน์ ,วีรพงค์,อนุชา, ปริยากร) เป็นเด็กที่เรียนรู้ช้า มีสมาธิในการเรียนน้อย ทำให้ไม่สามารถเขียนแผนภาพแรงได้ถูก

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

ซ่อมเสริมนักเรียนทั้ง 4 คน นอกเวลา (ไม่จำกัดเวลาเหมือนการจัดการเรียนการสอนปกติ)

การวิจัยครั้งนี้มีคำถามการวิจัยสองข้อคือ ข้อที่หนึ่ง การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ที่เหมาะสมกับเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นอย่างไร ผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้พบว่าการใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ดังงานวิจัยนี้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี และควรปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้จากบันทึกหลังสอนต่อไป จึงจักมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

และคำถามการวิจัยข้อที่สองคือ การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้หรือไม่อย่างไร ผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้และประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน การทำกิจกรรม Sorting แรงลัพธ์ และการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านการเล่นเกม นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับที่ดีมาก

บทที่ 5

สรุปผลและข้อเสนอแนะ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

วัตถุประสงค์ของงานวิจัย

1. เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์

2. เพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

คำถามการวิจัย

1. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ที่เหมาะสมกับเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นอย่างไร

2. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้หรือไม่อย่างไร

ขอบเขตการวิจัย

1. กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2564 ในโรงเรียนบ้านตาปรก

2. เนื้อหาวิชาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องแรงลัพธ์

3. ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใช้เวลารวม 2 สัปดาห์

4. ตัวแปรที่ศึกษา

4.1 ตัวจัดกระทำ คือการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting

4.2 ตัวแปรที่ศึกษา คือ

4.2.1 การจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting

4.2.2 ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting

ด้านความรู้ความเข้าใจ

สรุปผลการวิจัย

จากการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านตาปรก จำนวน 15 คน ผลการวิจัยซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่า

1. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting มีความเหมาะสมกับ เรื่องแรงลัพธ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื่องจากนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามจุดประสงค์ มีความรู้ความเข้าใจสามารถนำไปใช้ได้

2. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ โดยหลังจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด/ใบงาน , ทำกิจกรรม Sorting ได้ระดับดีมาก และทดสอบผลสัมฤทธิ์ผ่านคำถามจากเกม ร้อยละ 100

ดังนั้นสรุปได้ว่า การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์เหมาะสมกับวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียนได้

อภิปรายผล

จากผลที่ผู้วิจัยได้จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและเกมการศึกษา เรื่องแรงลัพธ์พบประเด็นที่สามารถนำมาอภิปรายผลได้ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ออกมาได้ผลลัพธ์ที่สูงถึงร้อยละ 100 นั้น ทั้งนี้เพราะว่าในกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ อีกทั้งการปลูกจิตวิทยาศาสตร์ยังทำให้นักเรียนเกิดความสนใจและชอบในวิชาวิทยาศาสตร์ จนเกิดเป็นความเข้าใจดังผลการประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน และผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ ซึ่งผู้วิจัยได้พัฒนางานวิจัยมากจากวิจัยของผู้วิจัยเองเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเชิงรุก และการใช้เกมการศึกษา

ข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านตาปรก ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในด้านต่างๆดังนี้

1. ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้

1.1 ประสิทธิภาพของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์นี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแผนการจัดการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับผู้สอนด้วย ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องเข้าใจเนื้อหาและวิธีการใช้สื่อประกอบการสอนเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำได้โดย ครูผู้สอนจะต้องศึกษาคู่มือครูให้เข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้

1.2 การจัดการเรียนรู้ในขั้นการสร้างความสนใจนั้น ควรเป็นเรื่องที่หาสิ่งเร้าความสนใจได้ง่าย ควรใช้เป็นสื่อที่ตื่นตาตื่นใจ

2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป

ควรศึกษากระบวนการและเทคนิคการสอนในรูปแบบต่างๆ หรือนำนวัตกรรมที่เหมาะสมมาใช้เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ต่อไป

โพสต์โดย H2O : [16 ก.ค. 2567 (13:16 น.)]
อ่าน [60372] ไอพี : 1.1.241.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,353 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด
ตัวอย่างหลักสูตรปฐมวัย (ฉบับปรับปรุง2560) โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง ไฟล์เวิร์ด

เปิดอ่าน 15,583 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 67,795 ครั้ง
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก

เปิดอ่าน 17,322 ครั้ง
คำแนะนำช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 8 วิธีการเตรียมปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คำแนะนำช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 8 วิธีการเตรียมปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เปิดอ่าน 9,250 ครั้ง
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม

เปิดอ่าน 14,818 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 20,925 ครั้ง
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?

เปิดอ่าน 20,898 ครั้ง
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 165,565 ครั้ง
หลักการสอนโดย โรเบิร์ต กาเย่ (Robert Gange)
หลักการสอนโดย โรเบิร์ต กาเย่ (Robert Gange)

เปิดอ่าน 11,891 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ

เปิดอ่าน 13,915 ครั้ง
แรงบิดและแรงม้า
แรงบิดและแรงม้า

เปิดอ่าน 32,025 ครั้ง
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก
สัมภาษณ์ "น้องเรนนี่" เด็กไทยอัจฉริยะ สอบได้คะแนนอันดับที่ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 124,318 ครั้ง
จินตคณิต สูตรคิดเร็ว สูตรคณิต คิดเร็ว
จินตคณิต สูตรคิดเร็ว สูตรคณิต คิดเร็ว

เปิดอ่าน 14,207 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย

เปิดอ่าน 17,744 ครั้ง
เผย 10 อันดับงาน คนอยากทำ-องค์กรอยากได้
เผย 10 อันดับงาน คนอยากทำ-องค์กรอยากได้

เปิดอ่าน 407 ครั้ง
บริษัทรับทำ SEO ให้ติดหน้าแรกจ้างแล้วคุ้มจริงไหม เลือกเจ้าไหนดี?
บริษัทรับทำ SEO ให้ติดหน้าแรกจ้างแล้วคุ้มจริงไหม เลือกเจ้าไหนดี?
เปิดอ่าน 37,838 ครั้ง
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ
มาฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานกันเถอะ
เปิดอ่าน 11,240 ครั้ง
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
การศึกษา สู่สนามแข่งขันเวทีอาเซียน ให้จับตาเวียดนาม
เปิดอ่าน 75,807 ครั้ง
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เปิดอ่าน 14,228 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ