ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การกำกับติดตาม แก้ปัญหาผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 ร มส และ มผ โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC)

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ ที่มีความสมดุล ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย และพลเมืองโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข มีความรู้ทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จ าเป็นต่อการศึกษาต่อประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ มีความรู้และทักษะพื้นฐานรวมทั้งเจตนาที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ บนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองตามศักยภาพ

เป้าหมายสำคัญของการประเมินผลการเรียนหลักสูตรสถานศึกษาตามแนวทางหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 คือ เพื่อนำผลการประเมินไปพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ โดยการนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของผู้เรียนโดยตรง นำผลไปปรับปรุงแก้ไขผลการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินความสำเร็จทางการศึกษาของผู้เรียน ตลอดจนความสำเร็จของผู้สอนอีกด้วย

การบริหารงานวิชาการ เป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการพัฒนาองค์กร เพราะงานวิชาการถือเป็นงานหลักของโรงเรียน ซึ่งปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์ (2553),กาญจน์ เรืองมนตร และธรินธร นามวรรณ (2554) กล่าวว่า งานวิชาการถือเป็นหัวใจของการบริหารการศึกษาเพราะจุดมุ่งหมายของสถานศึกษา คือการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพซึ่งขึ้นอยู่กับวิชาการทั้งสิ้น งานวิชาการเป็นกิจกรรมการจัดการเกี่ยวกับงานด้านหลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้ งานการเรียนการสอน งานสื่อการเรียนการสอน งานวัดและประเมินผล งานห้องสมุด งานนิเทศการสอน งานวางแผนการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพของโรงเรียน

เนื่องจากในแต่ละภาคเรียนมีผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 , ร , มส และ มผ จำนวนมาก โรงเรียนได้จัดสอบแก้ตัว 2 ครั้ง แต่ยังมีผู้เรียนจำนวนมากมีผลการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ หรือไม่ดำเนินการสอบแก้ตัว จึงทำ

ให้ผู้เรียนเหล่านั้นไม่สามารถจบหลักสูตรได้ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว งานวัดผลจึงกำหนดขั้นตอนและแนวทางการสอบแก้ตัวของผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 , ร , มส และ มผ ตามแนวทางของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง 2533) และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายพุทธศักราช 2524 (ฉบับปรับปรุง2533) แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในการแก้ไขผลการเรียน 0 , ร , มส และ มผ มีดังนี้ 1) การแก้ไข “0” โดยให้สถานศึกษาจัดสอนซ่อมเสริมในจุดประสงค์ที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแก้ตัวและให้สอบแก้ตัวได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นในภาคเรียนถัดไป ถ้าผู้เรียนไม่สามารถมาดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาแก้ “0” ออกไปอีกหนึ่งภาคเรียน เพื่อให้วิธีการดังกล่าวปฏิบัติได้จริง มีผลดีต่อผู้เรียนช่วยลดจำนวนติด “0” ให้น้อยลง 2) การแก้ไข “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุ เมื่อผู้เรียนแก้ไขปัญหาเสร็จแล้วให้ได้รับผลการเรียนปกติ (ตั้งแต่ 0-4) ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการแก้ไข “ร” กรณีส่งงานไม่ครบแต่มีผลการประเมินระหว่างภาคเรียนและปลายภาค ให้ผู้สอนนำข้อมูลที่มีอยู่ตัดสินผลการเรียน 3) การแก้ไข “มส” มี 2 กรณี คือ มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 แต่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ให้สถานศึกษาจัดเรียนเพิ่มเติมโดย ใช้ชั่วโมงสอนซ่อมเสริม หรือใช้เวลาว่าง ใช้วันหยุดหรือมอบหมายงานจนมีเวลาเรียนครบ จึงให้วัดผลปลายภาคผลการแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “1” กรณีที่สองมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียนทั้งหมด ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐานให้เรียนซ้ำในรายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษา ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ 4) การแก้ไข “มผ” สถานศึกษาต้องจัดสอนซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมในส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทำจนครบ แล้วจึงเปลี่ยนผลจาก “มผ” เป็น “ผ”

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 ส่งผลให้สถานศึกษาต้องจัดรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาหลักสูตรให้รองรับการจัดการเรียนการสอน 4 วิธี หรือ 4 ON คือ Online, On Air, On Hand และ On Site โดยนักเรียนที่มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนแบบ Online ก็จะเข้าเรียนผ่านโปรแกรม Zoom และสามารถเข้าไปศึกษาด้วยตนเองผ่านสื่อดิจิทัล หรือเรียน On Air ผ่านทางโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมและช่องทีวีดิจิทัลของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเติมได้ สำหรับนักเรียนที่ไม่พร้อมเรียน Online จะใช้วิธีการ On Air และ On Hand ควบคู่กันไป โดยโรงเรียนจะจัดส่งหนังสือแบบเรียน ใบงานการบ้านและกิจกรรม ให้นักเรียนทุกคนสำหรับกลุ่มนักเรียนที่ไม่มีความพร้อมทั้ง Online และ On Air จะใช้วิธีการ On Site นัดหมายมาเรียนรู้เป็นกลุ่มเล็กๆ ที่โรงเรียนเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งทางโรงเรียนบางสวรรค์วิทยาคมได้ดำเนินการในงานวัดและประเมินผลการเรียน ซึ่งมีจำนวนผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 ร มส และ มผ ที่สะสมเป็นจำนวนมาก โดยมีร้อยละของผู้เรียนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) ย้อนหลัง 3 ปีการศึกษา ดังนี้ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 91.30 ปีการศึกษา 2564 ร้อยละ 84.35 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 92.52 และ ร้อยละของผู้เรียนสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรภาคบังคับ (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) ย้อนหลัง 3 ปีการศึกษา ดังนี้ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 86.52 ปีการศึกษา 2564 ร้อยละ 62.78 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 86.71

จากสภาพปัญหาและเหตุผลที่ได้กล่าวข้างต้น คณะผู้วิจัยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารงานวิชาการ ในส่วนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 ร มส และ มผ อย่างเร่งด่วนจึงได้ดำเนินการกำกับติดตาม แก้ปัญหาผู้เรียนที่มีผลการเรียน 0 ร มส และ มผ โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) เนื่องจากกระบวนนี้สามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณภาพการศึกษาสอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา และการกำกับ ติดตามผลการเรียนเหมาะสมกับบริบทของผู้เรียนโรงเรียนบางสวรรค์วิทยาคม ในปีการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย ภทรธ แช่มวัฒนชัย : [30 ก.ย. 2567 (12:32 น.)]
อ่าน [1942] ไอพี : 118.173.131.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 47,205 ครั้ง
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
อักษรไทยสมัยสุโขทัย

เปิดอ่าน 12,116 ครั้ง
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี

เปิดอ่าน 277,154 ครั้ง
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)
ความถี่และความบ่อย(ภาษาอังกฤษ)

เปิดอ่าน 39,903 ครั้ง
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19

เปิดอ่าน 20,276 ครั้ง
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม

เปิดอ่าน 9,255 ครั้ง
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์
ประเทศไทยได้อะไร... จากการรอใช้ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์

เปิดอ่าน 23,887 ครั้ง
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น
13 แอพพลิเคชั่น อันตราย ที่ "Google" แบน ใครลงแล้วต้องแฟลชโอเอสใหม่เท่านั้น

เปิดอ่าน 15,676 ครั้ง
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที

เปิดอ่าน 15,261 ครั้ง
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna
หน้าตา Windows se7en หรือ Windows Vienna

เปิดอ่าน 15,819 ครั้ง
มะเร็งเน็ต...ภัยร้ายชนิดใหม่ เสี่ยงตายไม่รู้ตัว
มะเร็งเน็ต...ภัยร้ายชนิดใหม่ เสี่ยงตายไม่รู้ตัว

เปิดอ่าน 1,931 ครั้ง
ทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เปิดอ่าน 13,434 ครั้ง
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
เปลี่ยนผิวหน้าพังให้กลับมาสวยปังกับ 4 การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี

เปิดอ่าน 12,188 ครั้ง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง
คลิปเทคนิคการลดคาง 2 ชั้น ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

เปิดอ่าน 13,436 ครั้ง
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร

เปิดอ่าน 2,750 ครั้ง
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด

เปิดอ่าน 19,629 ครั้ง
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เกร็ดความรู้ เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก
เปิดอ่าน 25,699 ครั้ง
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
นางสงกรานต์ปี 2556 นามว่า "มโหธรเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว มีนกยูงเป็นพาหนะ
เปิดอ่าน 8,773 ครั้ง
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
เปิดอ่าน 11,781 ครั้ง
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด
5 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ทำก็หายเครียด
เปิดอ่าน 19,156 ครั้ง
ปลูก"ไผ่นานาพันธุ์" ฟันธง…ปลูกแล้วสร้างรายได้ดีแน่นอน!!
ปลูก"ไผ่นานาพันธุ์" ฟันธง…ปลูกแล้วสร้างรายได้ดีแน่นอน!!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
แปลงหน่วยวัด
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ