ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาความสามารถ การอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) โดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม

การอ่านและการเขียนเป็นทักษะที่จำเป็นที่ผู้เรียนใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ การอ่านเป็นกระบวนการรับสารที่ผู้อ่านแปลความหมายของสื่อระหว่างการอ่าน โดยการอ่านของคนส่วนใหญ่ มีวัตถุประสงค์การอ่านแตกต่างกันไป เช่น อ่านเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความบันเทิง สนองความต้องการ และอื่น ๆ เช่น ความมั่นคงในชีวิต แนวทางการแก้ไขปัญหา หาเหตุผลสนับสนุนความคิด เป็นต้น สำหรับ การเขียนเป็นกระบวนการส่งสารเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด เรื่องราว ประสบการณ์ โดยการสื่อสารอาจทำในลักษณะเป็นภาพ คำ ประโยค หรือข้อความ โดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น เพื่อเล่าเรื่อง สรุปความ อธิบายความ แสดงความคิดเห็น ปลุกใจ โฆษณา เป็นต้น

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (2565) กล่าวว่า การอ่านและการเขียนไม่ใช่ทักษะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ต้องเรียนและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จึงจะอ่านคล่องและเขียนคล่อง และมีนิสัยรักการอ่านและ การเขียน การอ่านกับการเขียนในเรื่องราวที่หลากหลาย สอดคล้องกับประสบการณ์ของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้เรียนอ่านและเขียนเรื่องราวได้เข้าใจมากขึ้น

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้กำหนดนโยบายและจุดเน้น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 – 2568 ไว้ทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่งข้อที่ 4 คือ ส่งเสริมการอ่านเพื่อเป็นวิถีในการค้นหาความรู้และ ต่อยอดองค์ความรู้ที่สูงขึ้น (4.1) ส่งเสริมการอ่านเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต แสดงให้เห็นว่าการอ่านและ การเขียนมีความสำคัญอย่างมากต่อการจัดการเรียนรู้ และการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน

ทั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม “ท้าประลองการอ่านออกอ่านคล่อง ๑๐๐% ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการศึกษา ตามนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้อที่ ๔ ส่งเสริมการอ่านเพื่อเป็นวิถีในการค้นหาความรู้และต่อยอดองค์ความรู้ที่สูงขึ้น (๔.๑) ส่งเสริมการอ่าน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่มุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีการแก้ไขปัญหาด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สู่การปฏิบัติจริงให้เกิดขึ้นได้

จากความสำคัญของการอ่านและการเขียนข้างต้น ผู้จัดทำจึงได้ศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูล แนวทาง การพัฒนาและส่งเสริมการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต พบว่า มีผู้ดำเนินการวิจัยและกล่าวถึง การใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาและส่งเสริมพฤติกรรมการอ่าน และนิสัยรักการอ่าน เช่น เพียงแข ภูผายาง และคณะ (2558) รุ่งฤดี อาจวิชัย (2558) วรรณประภา ภูดวงจิตร (2561) จักรพันธ์ หลงสุข และสิรินาถ จงกลกลาง (2561) ได้กล่าวถึง ลักษณะของการใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม เป็นการเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน แม้ว่าแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันในด้านพื้นฐาน ทักษะ และโครงสร้างทางสังคม แต่มีความเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน กำหนดแนวทางและรับผิดชอบร่วมกัน จึงไม่มีการกำหนดกรอบตายตัว สามารถยืดยืดหยุ่นได้ตามลักษณะของชุมชน หรือบริบทแวดล้อมได้ โดยใช้วิธีการดำเนินการที่เรียบง่ายที่คนในชุมชนรู้จัก คุ้นเคย และมีทางเลือกหลากหลาย ในงานด้านการศึกษา ครูจะทำการแก้ไขปัญหาในชั้นเรียนหรือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน รวมไปถึงการพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียน การใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมต้องมีการทำความเข้าใจที่ชัดเจน กับทุกฝ่ายที่เข้ามามีส่วนร่วม มีจุดเน้นในการแก้ไข พัฒนา หรือส่งเสริมให้คนในชุมชนมามีส่วนร่วมกับทางโรงเรียน โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแสวงหารูปแบบหรือวิธีการแก้ปัญหา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และรูปแบบการมีส่วนร่วมยังมีประโยชน์ต่อการส่งเสริมการอ่านและการเขียน คือ ผู้ปกครอง ชุมชน โรงเรียน ได้ร่วมกันหาแนวทางในการส่งเสริมการอ่านและการเขียน อีกทั้งทุกฝ่ายยังได้ร่วมกันพัฒนาการอ่านและการเขียนของนักเรียน สามารถทราบพัฒนาการในการอ่านและการเขียนของบุตรหลานตนเองได้อีกด้วย และสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย

จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวกับการพัฒนาหรือส่งเสริมการอ่านและการเขียนโดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมของเพียงแข ภูผายาง และคณะ (2558) รุ่งฤดี อาจวิชัย (2558) วรรณประภา ภูดวงจิตร (2561) จักรพันธ์ หลงสุข และสิรินาถ จงกลกลาง (2561) พบว่า มีวิธีการหรือกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเขียนอย่างหลากหลาย โดยความร่วมมือของโรงเรียน ครูผู้สอนและผู้ปกครอง คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการอ่านและการเขียน การเป็นแบบอย่างด้านการอ่านและการเขียน การร่วมปลูกฝังเรื่องการอ่านอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมการอ่านหน้าเสาธง กิจกรรมอ่านวันละคำ กิจกรรมผู้ปกครองร่วมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมรักการอ่าน กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบหรือกิจกรรมดังกล่าว มีความน่าสนใจ มีความหลากหลาย และสามารถพัฒนาส่งเสริมการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากความสำคัญข้างต้น ผู้จัดทำมีความตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการอ่านและการเขียน เพราะเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงได้ศึกษาผลงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้อง และได้นำผลจากการสังเคราะห์รูปแบบ แนวทาง วิธีการ มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ทุกคน ซึ่งรูปแบบในการจัดกิจกรรมที่โรงเรียนจะนำมาใช้เป็นรูปแบบหลัก คือ รูปแบบการมีส่วนร่วม โดยจะช่วยสามารถพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนอย่างเป็นรูปธรรมได้ ทำใหผู้ที่มีส่วนเกี่ยวของเขามา มีบทบาทและช่วยกันหาแนวทางแกปญหาและเรียนรูไปพรอมกัน ซึ่งจะกอใหเกิดชุมชนแหงการเรียนรูที่แท้จริง

2) วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) ได้กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน ดังนี้

2.1 วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน

2.1.1 เพื่อพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) โดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม

2.1.2 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) ให้สูงขึ้น

2.1.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) โดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม

2.2 เป้าหมายของการดำเนินงาน

2.2.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ

2.2.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) ร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม

2.2.1.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่สูงขึ้น

2.2.1.3 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) ร้อยละ 80 ผ่านการประเมินกิจกรรมท้าประลอง “การอ่านออก อ่านคล่อง 100%” ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1

2.2.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ

2.2.2.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) มีความสามารถการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงขึ้น

2.2.2.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงขึ้น

2.2.2.3 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) และมีที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้รูปแบบการมีส่วนร่วม ค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ขึ้นไป

2.2.2.4 โรงเรียนบ้านวังตะคร้อ (ธนาคารกรุงเทพ 5) มีรูปแบบการดำเนินงาน ในการพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนของนักเรียน เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพ โดยผ่านการพิจารณาคุณภาพความเหมาะสมระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ชูศักดิ์ เข็มมงคลศิริ : [29 มี.ค. 2568 (23:02 น.)]
อ่าน [58571] ไอพี : 223.207.238.58
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,012 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 463,708 ครั้ง
     กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ

เปิดอ่าน 8,938 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ

เปิดอ่าน 49,675 ครั้ง
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน

เปิดอ่าน 15,144 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53

เปิดอ่าน 15,774 ครั้ง
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 33,506 ครั้ง
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

เปิดอ่าน 41,344 ครั้ง
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด

เปิดอ่าน 59,741 ครั้ง
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน

เปิดอ่าน 34,255 ครั้ง
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง.. นมไหนดีกว่ากัน

เปิดอ่าน 13,313 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM

เปิดอ่าน 42,620 ครั้ง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง

เปิดอ่าน 11,571 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์

เปิดอ่าน 43,583 ครั้ง
วิธีตั้งชื่อมิให้เป็นกาลกิณี
วิธีตั้งชื่อมิให้เป็นกาลกิณี

เปิดอ่าน 14,117 ครั้ง
หวิดโดนรถทับ สาวลืมดึงเบรคมือ
หวิดโดนรถทับ สาวลืมดึงเบรคมือ

เปิดอ่าน 36,008 ครั้ง
ฝึกอ่านอังกฤษกับนิทานโดยครูเชอรี่ English Bright
ฝึกอ่านอังกฤษกับนิทานโดยครูเชอรี่ English Bright
เปิดอ่าน 77,401 ครั้ง
World Wide Web คืออะไร
World Wide Web คืออะไร
เปิดอ่าน 18,333 ครั้ง
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
เปิดอ่าน 16,449 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
เปิดอ่าน 21,103 ครั้ง
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?
เรื่องจริงของสังคมโลก "สังคมก้มหน้า" ดูกันเลยว่าจริงไหม?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ