ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้บัตรภาพ

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

เรื่อง การพัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ โดยใช้บัตรภาพ

ผู้วิจัย นางสาวกชกร เอี้ยงกุญชร

ความสำคัญและที่มาของปัญหา

วิทยาศาสตร์เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้หลักในโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง 2560) หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนแต่ละระดับชั้นให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 กระบวนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์จำเป็นต้องจัดลำดับความยากง่ายของเนื้อหาสาระแต่ละระดับชั้น เริ่มตั้งแต่การเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนพัฒนาความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและองค์ประกอบความรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลาย และประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ รวมถึงมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลและการจัดการ ผู้วิจัยเป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าหน่วยการเรียนรู้บางหน่วยนักเรียนเรียนไม่เข้าใจ ทำให้ไม่สามารถทำแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ ผู้วิจัยได้นำคะแนนแต่ละหน่วย การเรียนรู้มาพิจารณา และด้วยการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์นั้น เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีประสิทธิภาพ ผู้เรียนต้องมีการเรียนรู้เพื่อหาคำตอบด้วยการลงมือปฏิบัติจริง รู้จักการสังเกต การตั้งปัญหา และวิธีการทดลอง จึงจะสามารถเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้เรียน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะนำวิธีการจัดการเรียนรู้แบบกิจกรรมโดยใช้บัตรภาพ ที่สามารถทำให้ผู้เรียนได้มีการเห็นภาพจริง เข้าใจเนื้อหามากขึ้น และสนุกสนาน กับกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเนื้อหาสาระที่ผู้วิจัยนำมาจัดทำเป็นแบบกิจกรรมการใช้บัตรภาพ คือ บทเรียน เรื่อง การจัดจำแนกประเภทของสัตว์ในท้องถิ่น ซึ่งผู้เรียนจะได้ทำกิจกรรมโดยการทำกิจกรรมจากบัตรภาพ ทำให้ผู้เรียนมีความสามารถในการจัดจำแนกประเภทของสัตว์ออกเป็นหมวดหมู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและฝึกการคิดวิเคราะห์ ของผู้เรียน จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้เรียน

แนวความคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการวิจัย

ในการวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์ดังมีสาระสำคัญที่สามารถสรุปได้ ดังนี้

เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทดลองวิทยาศาสตร์

การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science experiment) หมายถึง การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ ความคิดรวบยอดในเรื่องที่เรียนรู้ ด้วยการเปิดโอกาสให้เด็กได้ค้นหาคำตอบจากการปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ผ่านประสบการณ์ตรงที่เป็นรูปธรรม เน้นขั้นตอนการคิด การค้นคว้า การทดลอง และการสรุปผล จากการเรียนรู้ การใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างเป็นกระบวนการจนพบความรู้ทำให้เด็กได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นทักษะที่มีความจำเป็นในการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คือ มีพฤติกรรมที่แสดงถึงความสามารถหรือความชำนาญที่เกิดจากการปฏิบัติหรือฝึกฝนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการรับรู้ การค้นหาความรู้และแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นทักษะเบื้องต้นที่มี ความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันเหมาะสมกับเด็กปฐมวัย ได้แก่ ทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการวัด ทักษะการสื่อสาร ทักษะการลงความเห็น และทักษะการพยากรณ์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science experiment) เป็นกิจกรรมที่ตอบสนองต่อธรรมชาติการเรียนรู้ ของเด็กปฐมวัย ทั้งนี้เนื่องจากเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้จากการเล่น การปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง การมีปฏิสัมพันธ์กับ สิ่งแวดล้อม และจากการได้ใช้ประสาทสัมผัสในการเรียนรู้ เช่น การฟัง การเห็น การชิมรส การดมกลิ่น การสัมผัส จับต้องสิ่งต่างๆ กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เป็นการจัดกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาทักษะ พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เป็น ความสามารถทางด้านสติปัญญาที่สามารถฝึกฝนให้กับเด็กปฐมวัยได้ด้วยการจัดประสบการณ์ให้เด็กได้โอกาส ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ดังที่ ฌอง เพียเจท์ (Jean Piaget) กล่าวว่า พัฒนาการทางสติปัญญาเป็นผลมาจากการ ที่เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม เด็กจะเรียนรู้สิ่งที่เป็นรูปธรรมก่อนเข้าสู่การเรียนรู้ที่เป็นนามธรรม และ พัฒนาการทางสติปัญญาจะเป็นไปตามลำดับขั้น และสอดคล้องกับแนวคิดของ จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) ที่ กล่าวว่า ประสบการณ์สำหรับเด็กเกิดขึ้นได้ต้องใช้ความคิดและการลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ การทดลอง และการค้นพบด้วยตนเอง ดังนั้น รูปแบบการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงคำนึงถึง พัฒนาและธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก โดยเฉพาะวุฒิภาวะ ความพร้อม และการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ ความสามารถทางสมองของเด็ก เป็นสิ่งที่มีความ สำคัญที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก สำหรับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์หรือทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นความสามารถในการปฏิบัติและฝึกฝนกระบวนการคิดในการแสวงหาความรู้ ตลอดจนการแก้ ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญ ทักษะพื้นฐานทาง วิทยาศาสตร์ (Basic Science skills) ที่ควรฝึกฝนให้เกิดกับเด็กปฐมวัยสามารถแยกได้เป็น 6 ประเภทดังนี้

• ทักษะการสังเกต (Observing) หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่างรวมกันเข้าสัมผัสโดยตรงกับวัตถุหรือปรากฏการณ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหารายละเอียดนั้นๆ เช่น

o การให้เด็กสังเกตสีของผลไม้และบอกครูว่ามีสีอะไรบ้าง

o การให้เด็กฟังเสียงร้องของนกชนิดต่างๆแล้วบอกว่าเป็นเสียงนกอะไรบ้าง

o หรือการให้เด็กชิมรสชาติของน้ำผลไม้และบอกว่าเป็นรสชาติของผลไม้ใดบ้าง เป็นต้น

• ทักษะการวัด (Measuring) หมายถึง ความสามารถในการใช้เครื่องมือวัดหาปริมาณของสิ่งต่างๆได้อย่าง ถูกต้องโดยมีหน่วยกำกับและรวมไปถึงการใช้เครื่องมืออย่างถูกต้อง เช่น การวัดความยาวของโต๊ะเรียน การวัดความสูงของเก้าอี้ การวัดความหนาของหนังสือ สำหรับเด็กปฐมวัยหน่วยการวัดเด็กอาจจะเลือก เอง เช่น เด็กอาจจะวัดความยาวของโต๊ะโดยใช้เชือกผูกรองเท้าแล้วบอกว่า โต๊ะเรียนตัวนี้ยาวเท่ากับเชือก ผูกรองเท้า 2 เส้น เป็นต้น

• ทักษะการจำแนกประเภท (Classifying) หมายถึง ความสามารถในการจัดจำแนกหรือเรียงลำดับวัตถุ หรือสิ่งที่อยู่ในปรากฏการณ์ต่างๆออกมาเป็นหมวดหมู่โดยมีเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา 3 ประการ คือ ความเหมือน ความต่าง และความ สัมพันธ์ เช่น การให้เด็กจำแนกผักด้วยเกณฑ์ต่างๆ เช่น ใช้สีเป็นเกณฑ์ ใช้รูปร่างเป็นเกณฑ์ หรือใช้ผิวสัมผัสเป็นเกณฑ์ เป็นต้น

• ทักษะการสื่อสาร (Communicating) หมายถึง ความสามารถในการแสดงผลข้อมูลจากการสังเกต การทดลองนำมาจำแนก เรียงลำดับ และนำเสนอด้วยการเขียน แผนภาพ แผนผัง แผนที่ เช่น การให้เด็ก ปฐมวัยสำรวจจำนวนผักชนิดต่างๆที่อยู่ในตะกร้า และเด็กอาจจะสื่อสารด้วยการนำเสนอออกมาเป็น ภาพวาดผักที่แสดงจำนวนผักแต่ละชนิด เด็กอาจจะวาดรูปมะเขือ 5 ผล แตงกวา 7 ผล ผักชี 4 ต้น ลักษณะของการ นำเสนอจะขึ้นอยู่กับระดับความสามารถและความต้องการของเด็ก ทักษะการสื่อสารและ วิธีการนำเสนอจะมีความซับซ้อนมากขึ้นตามระดับอายุและสติปัญญาของเด็ก

• ทักษะการลงความเห็น (Inferring) หมายถึง ความสามารถในการนำเสนออธิบายข้อมูลที่มีอยู่ซึ่งได้มา จากการสังเกต การวัด การทดลอง โดยเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือประสบการณ์เดิมเพื่อสรุปลงความเห็น เกี่ยวกับข้อมูลนั้นๆ เช่น การจัดกิจกรรมให้เด็กสำรวจพืชน้ำ จากการที่เด็กได้ไปสังเกตลักษณะของพืชน้ำ แล้วสรุปลงความเห็นว่า พืชน้ำมีลักษณะต้นกลวง นิ่ม มีท่ออยู่ในลำต้น มีรากเป็นกระจุก เช่น ผักตบชวา ผักกะเฉด ผักบุ้ง จอก แหน เป็นต้น

• ทักษะการพยากรณ์ (Predicting) หมายถึง ความสามารถในการทำนายหรือคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้น ล่วงหน้า โดยอาศัยการสังเกตปรากฏการณ์ช้าๆ และนำความรู้ที่เป็นหลักการ กฎ หรือทฤษฎีในเรื่องนั้นๆ มาช่วยในการทำนายภายในขอบเขตของข้อมูล (Interpolating) และภายนอกขอบเขตของข้อมูล (Extrapolating) เช่น จากการที่เด็กสังเกตว่าก่อนฝนตกจะมีเมฆมากและท้องฟ้ามืดครึ้ม มีลมพัดและ เสียงฟ้าร้อง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เด็กรับรู้มาก่อน ดังนั้น เมื่อมีปรากฏการณ์ดังกล่าวร่วมกันในครั้งต่อมา เด็กจะพยากรณ์ได้ว่าถ้ามีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อมาคือฝนตก เป็นต้น สำหรับ ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อื่นๆที่มีความยากและซับซ้อนจะนำไปสอนในระดับที่สูงขึ้น เช่น ทักษะการ ตั้งสมมติฐาน ทักษะการคิดคำนวณ ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1

สมมุติฐานการวิจัย

กิจกรรมการใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต ส่งผลให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ มีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนสูงขึ้น

วิธีการดำเนินการวิจัย

ในการดำเนินการวิจัยได้มีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้

1. ขั้นเตรียมการ

1.1 ศึกษาปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

1.2 วิเคราะห์ปัญหาและสร้างทางเลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการสร้างนวัตกรรมการเรียนคือ กิจกรรม การใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนกประเภทของสัตว์ในท้องถิ่น

1.3 สร้างแบบกิจกรรมการใช้บัตรภาพ โดย

1.3.1 ศึกษาวิธีการสร้าง

1.3.2 เลือกหน่วยการเรียนรู้ที่จะเขียน

1.3.3 ศึกษาลักษณะของนักเรียนได้แก่ อายุ ระดับชั้นเรียน พื้นฐานความรู้เดิม

1.3.4 ตั้งจุดมุ่งหมายสำหรับแบบกิจกรรมการทดลองที่จะเขียน

1.3.5 วางโครงเรื่องที่จะเขียนเป็นลำดับก่อนหลัง

1.3.6 ลงมือสร้างแบบกิจกรรมการใช้บัตรภาพตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้

2. ขั้นดำเนินการ

2.1 ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์

จำนวน 20 คน ดำเนินการรวบรวมคะแนนทั้งคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน คะแนนแบบฝึก และแบบทดสอบหลังเรียน

3. ขั้นประเมินผล

3.1 นำข้อมูลที่ได้มาหาผลการพัฒนาความแตกต่างระหว่างการทดสอบก่อนเรียนและ หลังเรียนด้วยสถิติร้อยละ

3.2 นำผลที่ได้มาวิเคราะห์และรายงานผล

กลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่าง คือนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 จำนวน 20 คน โดยใช้วิธีแบบเจาะจง

ตัวแปรต้น คือ แบบกิจกรรมการใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต

ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

เครื่องมือในการวิจัย

1. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต

2. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

3. บัตรภาพ

การรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูลมีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้

1. ทดสอบก่อนเรียน

2. ดำเนินการใช้แบบกิจกรรมการทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์

3. ทดสอบหลังเรียน

การวิเคราะห์ข้อมูล

นำคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนที่นักเรียนในกลุ่มตัวอย่างที่ได้มาหาผลการพัฒนาโดยการใช้ ค่าสถิติร้อยละ สรุปผลการวิจัย จากการวิจัยพบว่าแบบกิจกรรมการใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ สิ่งมีชีวิต สามารถพัฒนาการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ ดังหลักฐานจากผลวิเคราะห์การ ทดสอบความแตกต่างของเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ ซึ่งค่าคะแนนการทดสอบก่อนเรียนอยู่ที่ร้อยละ 45.15และผลทดสอบหลังเรียนอยู่ที่ร้อยละ 83.33 ผลการ ประเมินก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าผลการประเมินหลังเรียนโดยแท้จริง อภิปรายผล จากผลการวิจัยที่พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ ที่เรียน ด้วยกิจกรรมการใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งมีชีวิต มีการพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ตามผลการวิเคราะห์ค่าคะแนนด้วยค่าร้อยละ ปรากฏว่ามีผลการ พัฒนาการร้อยละ 38.18 ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงอาจกล่าวได้ว่า กิจกรรมการใช้บัตรภาพ เรื่อง การจัดจำแนก ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งมีชีวิต เป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่าในการพัฒนาการเรียนรู้

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในด้านกิจกรรมการเรียนรู้

1.1 ครูผู้สอนควรทำความเข้าใจในการเรียนด้วยกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีการที่ ถูกต้อง

1.2 ครูผู้สอนควรมีการพัฒนาสื่อ / นวัตกรรมในรูปแบบต่างๆ อยู่เสมอเพื่อให้ทันกับการ เปลี่ยนแปลงของการจัดกระบวนการเรียนรู้ในยุคโลกาวิวัฒน์

2. ข้อเสนอแนะเพื่อทำวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรมีการวิจัยเพื่อพัฒนาสื่อและนวัตกรรมในรูปแบบอื่น ๆ

2.2 ควรมีการวิจัยเรื่องการเรียนด้วยกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับเนื้อหาอื่น ๆ หรือ ระดับชั้นอื่น ๆ

โพสต์โดย Kotchakorn.ke : [8 ก.ค. 2568 (13:32 น.)]
อ่าน [57441] ไอพี : 203.172.252.41
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 37,166 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 11,497 ครั้ง
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิตามินอี ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 14,911 ครั้ง
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน
1 เมษายน วันข้าราชการพลเรือน

เปิดอ่าน 102,136 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 28,132 ครั้ง
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ

เปิดอ่าน 55,439 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม

เปิดอ่าน 92,575 ครั้ง
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์
เทคนิคการสอบสัมภาษณ์

เปิดอ่าน 18,673 ครั้ง
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา
ภัยร้ายความเค็มสะสมจากพริกน้ำปลา

เปิดอ่าน 16,455 ครั้ง
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้
กินผักผลไม้เหลืองๆ ป้องกันโรคมะเร็งได้

เปิดอ่าน 13,208 ครั้ง
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"
ภัยร้ายหน้าร้อน-สาวๆ ไม่อยากหมดสวยต้องอ่าน 6 กลเม็ดสู้ "ผิวไหม้แดด"

เปิดอ่าน 191,508 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด

เปิดอ่าน 9,039 ครั้ง
กูเกิลทำแว่นวิเศษ
กูเกิลทำแว่นวิเศษ

เปิดอ่าน 22,606 ครั้ง
จิตรกรรม
จิตรกรรม

เปิดอ่าน 12,832 ครั้ง
สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว8.9ริคเตอร์
สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหว8.9ริคเตอร์

เปิดอ่าน 11,865 ครั้ง
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)
การหยุดหายใจในขณะหลับ (Sleep apnoea)

เปิดอ่าน 11,693 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
เปิดอ่าน 23,651 ครั้ง
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
เปิดอ่าน 71,223 ครั้ง
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
วิธีตอนกิ่งมะละกอ ให้ผลผลิตเร็ว ต้นเตี้ยไม่กลัวลม
เปิดอ่าน 35,996 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง "แนวทางใหม่การให้วิทยฐานะครู" ยุค นพ.ธีระเกียรติ จากรายการ เผชิญหน้า FaceTime  (7 ก.พ. 2560)
รับชมย้อนหลัง "แนวทางใหม่การให้วิทยฐานะครู" ยุค นพ.ธีระเกียรติ จากรายการ เผชิญหน้า FaceTime (7 ก.พ. 2560)
เปิดอ่าน 49,201 ครั้ง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา
เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ