ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์
ผู้วิจัย ภาวิณี ทุ่งไธสง
ปีที่วิจัย 2566
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทางการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ 2) เพื่อสร้างและพัฒนาการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น การวิจัยใช้วิธีดำเนินการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน (1) การศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทางการพัฒนาครู กลุ่มตัวอย่างการสนทนากลุ่มผู้มีส่วนร่วมจำนวน 20 คน การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน และสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษาและหัวหน้าวิชาการสถานศึกษาต้นแบบ จำนวน 6 คน (2) การสร้างและพัฒนารูปแบบ โดยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน (3) การทดลองใช้รูปแบบกับกลุ่มตัวอย่างคือครูผู้รับการพัฒนา จำนวน 12 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 179 คน รวม 191 คน ปีการศึกษา 2566 ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (4) การประเมินรูปแบบโดยกลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 226 คน เครื่องมือ ได้แก่ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ และความถูกต้อง และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการวิเคราะห์เนื้อหา และการวิเคราะห์ความแปรปรวน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทางการพัฒนาครู พบว่าครูประสบปัญหาด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่ขาดความชัดเจนและการวิเคราะห์สาระการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ การจัดกระบวนการเรียนรู้ยังเน้นการบรรยาย ขาดการกระตุ้นให้นักเรียนลงมือปฏิบัติหรืออภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การใช้สื่อเทคโนโลยีไม่ทันสมัยและครูขาดทักษะการใช้งาน รวมถึงการวัดและประเมินผลที่มุ่งวัดความจำมากกว่าทักษะของผู้เรียน ผู้มีส่วนร่วมมีความต้องการให้พัฒนาแนวทางหรือรูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ ประกอบด้วย หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ กระบวนการของรูปแบบ และการประเมินรูปแบบ และเงื่อนไขความสำเร็จ กระบวนการดำเนินงานของรูปแบบ SPLC Model (Strategy School Professional Learning Community Model) ดังนี้ 1) การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (Environment Analysis) 2) การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) 3) การนำไปสู่การปฏิบัติ (Implementation) โดยใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามขั้นตอนดังนี้ 3.1) การสร้างวิสัยทัศน์ละวางแผนการทำงานร่วมกัน (Plan) 3.2) การปฏิบัติการเรียนรู้ร่วมกัน (Do) 3.3) การสะท้อนคิดและปรับปรุงร่วมกัน (Reflect) และ 4) การประเมินผล (Evaluation)
3. ผลทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ พบว่า
3.1 ครูผู้รับการพัฒนามีความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ ในวงรอบที่ 1 ครูมีความสามารถอยู่ในระดับปานกลางทุกคน วงรอบที่ 2 ครูมีความสามารถอยู่ในระดับสูงทุกคน และวงรอบที่ 3 ครูมีความสามารถอยู่ในระดับสูงมากทุกคน ภาพรวมพบว่า ความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้รับการพัฒนา ตามรูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ มีแนวโน้มสูงขึ้น ผลการทดสอบสมมติฐานทั้ง 3 วงรอบ พบว่ามีความแตกต่างกันของอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ปีการศึกษา 2566 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่าค่าเป้าหมายที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 87.75 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ในปีการศึกษา 2566 ผลการประเมินสูงกว่าปีการศึกษา 2565 ทุกระดับชั้น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test: RT) ปีการศึกษา 2566 รวม 2 ด้าน ได้แก่ เฉลี่ยร้อยละ 91.05 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 ที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.21 โดยมีค่าร้อยละที่เพิ่มขึ้น 3.12 การทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ National Test (NT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 เฉลี่ยร้อยละ 66.18 สูงกว่าปีการศึกษา 2565 โดยมีคะแนนร้อยละ 52.98 เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 19.15 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 มีคะแนนเฉลี่ย 4 รายวิชา (37.87) สูงกว่าปีการศึกษา 2565 คะแนน (33.65) ทั้งนี้คะแนนเฉลี่ยปี 2566 สูงกว่า ปี 2565 จำนวน 3 รายวิชา
3.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการพัฒนาที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅=4.59, S.D.=0.55)
3.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของครูโรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅=4.51, S.D.=0.21)
4. ผลการประเมินรูปแบบ ผลการประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ และความถูกต้องของรูปแบบการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนบ้านป่าไม้สหกรณ์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด