1. ความเป็นมาและความสำคัญ
โรงเรียนบ้านโป่งกะสัง เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ประสบกับปัญหาครูผู้สอนไม่ครบชั้นเรียน ทำให้ต้องมีการควบรวมการสอนในระดับชั้น ป.23 ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในด้านความรู้พื้นฐาน และทักษะการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำ เนื่องจากการจัดการเรียนรู้ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน แต่ละช่วงวัย ขาดกระบวนการนิเทศภายในที่เป็นระบบ ทำให้ครูไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับคำแนะนำเชิงประจักษ์ในการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขาดรูปแบบนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งจำเป็นต้องมีแนวทางที่ยืดหยุ่นและสามารถพัฒนาครูให้สามารถสอนควบชั้นอย่าง มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการนำนวัตกรรม PKSR To 3G Model มาปรับใช้ในการนิเทศภายในสถานศึกษาจึงเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการพัฒนาครู การจัดการเรียนรู้ และการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนโดยคำนึงถึงบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กอย่างแท้จริง ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดครูมืออาชีพที่สามารถพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และคุณธรรมอย่างสมดุลครบถ้วน
ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนบ้านโป่งกะสังจึงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภายใต้บริบทของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเน้นการเสริมสร้างสมรรถนะครูผ่านกระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยใช้กระบวนการ PKSR To 3G Model ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดที่บูรณาการการพัฒนาองค์ความรู้ (Knowledge Development) การเสริมสร้างทักษะ (Skill Enhancement) และการปลูกฝังคุณธรรม (Right Attitude) เพื่อส่งเสริมให้ครูสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ เหมาะสมกับลักษณะการควบชั้นเรียน และสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม
2. วัตถุประสงค์/เป้าหมายของการดำเนินงาน
2.1วัตถุประสงค์
1.เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น
2.เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของครูให้มีประสิทธิภาพ
3.เพื่อให้การนิเทศมีระบบ มีทิศทาง และสามารถสะท้อนผลการพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม
2.2 เป้าหมาย
เชิงปริมาณ
ครูโรงเรียนบ้านโป่งกะสัง จำนวน ๖ คน ได้รับการนิเทศและการจัดการเรียนรู้เชิงรุกด้วยนวัตกรรม PKSR To 3G Model ร้อยละ ๑๐๐
เชิงคุณภาพ
1.สถานศึกษามีระบบการนิเทศภายในที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
2.ครูสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการนิเทศไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นเป็นไปตามค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
3. หลักการและแนวคิดในการดำเนินการ
P: Planning (การวางแผน)
- วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของครู นักเรียน และบริบทโรงเรียน
- วางแผนการนิเทศร่วมกับทีมครู / PLC
- กำหนดประเด็นนิเทศ เป้าหมาย และเครื่องมือที่ใช้
K: Knowledge (การเสริมความรู้)
- จัดอบรม / เวิร์กช็อป / Coaching
- เสริมองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้และการปลูกฝังคุณธรรม
- แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านชุมชนวิชาชีพ (PLC)
S: Supervision (การนิเทศ)
- นิเทศในชั้นเรียนโดยใช้เทคนิคหลากหลาย
- ใช้แบบสังเกต วิเคราะห์แผนการสอน และชิ้นงานนักเรียน
- ให้ข้อเสนอแนะเชิงพัฒนา
R: Reflection (การสะท้อนผล)
- ครูและผู้บริหารร่วมกันสะท้อนผลจากการนิเทศ
- สรุปบทเรียน / บันทึกผลการพัฒนา
- นำข้อมูลไปวางแผนรอบถัดไป
ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
4. ผลสัมฤทธิ์ของงาน
1. เป็นข้อมูลสารสนเทศและแนวทางสำหรับผู้รายงาน เพื่อใช้ในการวางแผน พัฒนาและปรับปรุงการนิเทศภายในโรงเรียนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. เป็นข้อมูลและสารสนเทศสำหรับครูโรงเรียนบ้านโป่งกะสัง โดยเฉพาะผู้บริหารและคณะกรรมการนิเทศภายใน เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการพัฒนาการนิเทศภายในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. เป็นข้อมูลและสารสนเทศสำหรับผู้บริหารและครูโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขดพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 และโรงเรียนในสังกัดอื่น เป็นแนวทางในการวางแผนนิเทศภายในโรงเรียนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น
4. ชุมชนให้การยอมรับต่อการปฏิบัติงานของผู้บริหารคณะครูที่มีความเอาใจใส่ในการทำงานและโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนงบประมาณในการทำกิจกรรมต่างๆ
5. ผู้ปกครองให้การยอมรับส่งบุตรหลานเข้ามาเรียน นักเรียนที่จบไปศึกษาต่อมากขึ้นและทำงานประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพ
5. ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ผู้นิเทศการสอนและผู้รับการนิเทศการสอนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิควิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การนำองค์ความรู้ ข้อเสนอแนะไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
2. ผู้นิเทศการสอนและผู้รับการนิเทศการสอนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างกัลยาณมิตร
3. ผู้รับการนิเทศการสอนสามารถพัฒนาตนเองในวิชาชีพและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. ครูมีเจตคติที่ดีต่อการนิเทศการสอน และเกิดความมั่นใจว่า การนิเทศการสอนสามารถช่วยครูแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนได้
5. ครูเกิดความภาคภูมิใจในวิชาชีพ และมีความมุ่งมั่นพัฒนาตนเองเป็นครูมืออาชีพ อย่างมาตรฐาน และรักษาระดับคุณภาพไว้อย่างต่อเนื่อง
6. ปัจจัยความสำเร็จ
1. บุคลากรทุกระดับมีความเป็นผู้นำทางวิชาการ
2. การทำงานเป็นทีม
3. การบูรณาการในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง
4. การกระจายอำนาจ
5. การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน
6. การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร
7. ความต่อเนื่องของการดำเนินงานแต่ละระดับ
8. การมุ่งผลสัมฤทธิ์
7. บทเรียนที่ได้รับ
จากการคำเนินงานการนิเทศภายในโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 สามารถสรุปบทเรียนที่ได้รับดังนี้
1. การนิเทศการดำเนินงานของสถานศึกษาควรมีการทำความเข้าใจกับบุคลากรให้เข้าใจระบบการนิเทศภายในให้ชัดเจน เข้าใจบทบาทของตนเอง เข้าใจลักษณะของแต่ละบุคคล เข้าใจบริบทของโรงเรียน เข้าใจเปิดใจและขอมรับการนิเทศ เข้าใจธรรมชาติของแต่ละรายวิชา เข้าถึงการปฏิบัติงานของบุคลากรและบุคลากรพร้อมจะพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้การพัฒนาโรงเรียนไปในทิศทางเดียวกัน
2. การนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน หลังจากเสร็จสิ้นการสังเกตการสอนแล้วควรสรุปและรายงานแจ้งให้ผู้รับการนิเทศทราบในทันที และผู้ที่ได้รับนิเทศ ควรนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงพัฒนางานของตนเอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาในทางบวกได้ดียิ่งขึ้น