การคัดเลือกนวัตกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุข
ภายใต้โครงการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้
แบบรายงานผลการดำเนินงาน
การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
ชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน
1. ความสำคัญของนวัตกรรมการศึกษา
ในสภาวะปัจจุบันโลกอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกันอย่างสูงซึ่งนับวัน จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศไทยในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่รุนแรง โดยได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ทำให้ประชาชนขาดความรู้เท่าทันในการดำเนินชีวิต ขาดวินัยในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพคนและสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญา และการเรียนรู้ ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาคนให้มีคุณธรรมนำความรู้เกิดภูมิคุ้มกัน โดยพัฒนาจิตใจควบคู่กับการพัฒนาทักษะชีวิตของคน ทุกกลุ่มทุกวัยตลอดชีวิต (กระทรวงศึกษาธิการ 2554 : 8) กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านวิทยาการ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้แต่ละประเทศไม่สามารถปิดตัวอยู่ โดยลำพัง ต้องร่วมมือและพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน มีการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ ในสังคมปัจจุบัน นอกจากนั้นยังต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ในเรื่องความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและ สภาพแวดล้อม อุบัติภัยต่าง ๆ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อมนุษย์โดยทั่วไป ทำให้แต่ละประเทศต้องเตรียมคนรุ่น ใหม่ที่มีทักษะและความสามารถในการปรับตัว มีคุณลักษณะสำคัญในการดำรงชีวิตในโลกยุคใหม่ได้อย่าง เท่าทัน มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสมและพอเพียง สอดคล้องกับ ปฏิญญาว่าด้วยการจัดการศึกษา UNESCO คือ การจัดการศึกษาให้คนในชาติเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข และสอดคล้องกับ พ.ร.บ. การศึกษา แห่งชาติ มาตราที่ 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทย ให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม คุณธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างมีความสุข ทำให้หลายประเทศต้องปฏิรูปการศึกษา พัฒนาบุคลากรในประเทศ (กระทรวงศึกษาธิการ. 2553 : 3-8)
จากการรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ปีการศึกษา 256๗ และจากการวิเคราะห์สถานภาพ SWOT การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน แบบ 7S และปัจจัยภายนอก แบบ C-PEST โรงเรียนบ้านวังชะโอน พบว่า ด้านการบริหารจัดการ เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ 1) นโยบายการจัดการศึกษามีภาระงานมาก ทำให้การจัดการเรียนการสอนของครู ไม่บรรลุตามเป้าหมายและ 2) กิจกรรมที่ต้องสนองนโยบายมีจำนวนมาก ด้านผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา 1) บุคลากรบางส่วนขาดประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และ 2) บุคลากรมีภาระงานที่ได้รับมอบหมายจำนวนมาก ส่งผลให้การบริหารจัดการด้านบุคลากรขาดความคล่องตัวและต่อเนื่อง ในการปฏิบัติงาน และครูมีภาระงานรับผิดชอบนอกเหนือจากงานสอนเพิ่มขึ้น ขาดทักษะและประสบการณ์ ในการปฏิบัติงานตามหน้าที่พิเศษได้รับมอบหมาย และขาดโอกาสในการพัฒนาความรู้ความสามารถทาง วิชาชีพที่ต่อเนื่องและสูงขึ้น รวมทั้งมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ส่วนด้านผู้เรียน นักเรียนขาดความกระตือรือร้น รับผิดชอบในหน้าที่และวินัยของโรงเรียน ขาดวิจารณญาณในการใช้สื่อเทคโนโลยีที่เหมาะสมและผู้ปกครอง ขาดความรู้ทักษะความสามารถในการแนะนำบุตรหลาน โรงเรียนขาดแหล่งสืบค้นข้อมูลแหล่งเรียนรู้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่หลากหลายในองค์การต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้โรงเรียน ชุมชนขาดการควบคุมการให้บริการ ด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตทำให้นักเรียนบางส่วนใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด จึงเป็นแนวทางในการหาวิธี เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ให้กับนักเรียนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนปัจจัยการบริหารด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านการบริหารจัดการ จึงมีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างผู้บริหาร ครู บุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน และ ผู้ปกครอง พร้อมนำผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกโรงเรียน เพื่อหาแนวทาง ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน บนพื้นฐานความรู้คู่คุณธรรม และมีความสุข เพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ ในตนเอง และสังคม จึงร่วมกันพัฒนารูปแบบกิจกรรม ชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน ขึ้น การบริหารเป็นกระบวนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องมีการวางแผน การปฏิบัติการประเมินผลและ นำผลไปปรับปรุงพัฒนา เพื่อนำไปสู่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน การบริหารงาน 4 กลุ่มงานของการบริหารสถานศึกษา ถือเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารการศึกษา ซึ่งเป็นภารกิจหลักให้ เกิดการปรับปรุง พัฒนา และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน กระบวนการดังกล่าว ได้แก่ การวางแผนการจัดระบบโครงสร้าง การกำหนดบทบาทหน้าที่ การจัดดำเนินงาน การวัดผล ประเมินผล การจัดระบบ นิเทศเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพงานให้มีความเข้มแข็ง
จากแนวคิด หลักการสำคัญของการศึกษาในการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถดำรงตนอยู่ ในสังคมได้อย่างมีความสุข สถานศึกษาจำเป็นต้องหารูปแบบ วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะ ความสามารถให้เกิดกับผู้เรียน เพื่อเป็นพื้นฐานที่จะเติบโตเป็นคนไทยที่มีความรู้ ความสามารถ รู้เท่าทันสังคมโลกปัจจุบัน การดำเนินการการพัฒนารูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน จะทำให้ทราบว่ากิจกรรมบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงใด ผลที่ได้จากการ ประเมินกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นข้อสารสนเทศในการพิจารณาปรับปรุง และวางแผนพัฒนากิจกรรมนี้ให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดคุณค่าและประโยชน์ต่อการบริหารจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ทำให้นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคมมีเจตคติที่ดีต่อโรงเรียน และเชื่อมั่นว่าโรงเรียนสามารถพัฒนานักเรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข เป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งของชาติอันจะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต
โรงเรียนบ้านวังชะโอน ตำบลวังชะโอน อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 เปิดทำการเรียนการสอนในระดับชั้นปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 3 เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ปัจจุบันปีการศึกษา 2567 มีครูและบุคลากร รวมทั้งผู้บริหาร จำนวน 19 คน และมีนักเรียน จำนวน 176 คน มีเขตบริการ 5 หมู่บ้าน โรงเรียนบ้านวังชะโอนมีโครงสร้างการบริหารตามกฎหมาย แล้วยังประกอบไปด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 9 คน คณะกรรมการโรงเรียน และมีคณะกรรมการที่ปรึกษาโรงเรียน ซึ่งแต่ละคณะประกอบไปด้วยผู้นำชุมชน ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนผู้ปกครอง ศิษย์เก่า อีก 5 หมู่บ้านในเขตบริการ อีกหมู่ละ 5-8 คน รวม 30 คน ดังนั้นการบริหารจัดการของโรงเรียนบ้านวังชะโอน มีการบริหารแบบมีส่วนร่วม เป็นโรงเรียนมีคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เข้มแข็ง และเอาใส่ใจต่อการบริหารจัดการศึกษาคุณครูเอาใจใส่การเรียนการสอนทำให้นักเรียนมีคุณภาพ และเป็นโรงเรียนที่เคยมีผู้บริหารโรงเรียนที่มีความรู้ความสามารถ และได้พัฒนาโรงเรียนจนเป็นที่ยอมรับของชุมชนได้รับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างดี เช่น การระดมทรัพยากร การมีส่วนร่วมในการปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน การระดมความคิด การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียน หรือกิจกรรมสัมพันธ์ชุมขน. (แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านวังชะโอน,2566 - 2570)
จากความสำคัญดังกล่าว ข้าพเจ้าในฐานะ ผู้บริหารสถานศึกษาซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนและพัฒนาการจัดการศึกษา และมองเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมรูปแบบชุมชนเป็นฐาน สู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา จึงได้พัฒนานวัตกรรมการศึกษาการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข ของโรงเรียนบ้านวังชะโอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 เพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
ระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมที่ประสบผลสำเร็จ
2.1 วัตถุประสงค์
1) เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข โดยใช้ทรัพยากร ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้และ
วัฒนธรรมของชุมชนเป็นสื่อและฐานการเรียนรู้
2) เพื่อส่งเสริมให้ครูและบุคลากรสร้างบรรยากาศการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
3) เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการ
เรียนการสอนและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน
2.2 เป้าหมาย
2.2.1 เชิงปริมาณ
1) ผู้เรียนร้อยละ 90 เรียนรู้อย่างมีความสุขโดยใช้ทรัพยากร ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้และ
วัฒนธรรมของชุมชนเป็นสื่อและฐานการเรียนรู้
2) ครูและบุคลากรร้อยละ 90 สร้างบรรยากาศจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
3) โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน อย่างน้อย 10 เครือข่าย
2.2.2 เชิงคุณภาพ
1) ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยใช้ทรัพยากร ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้และวัฒนธรรมของชุมชน
เป็นสื่อและฐานการเรียนรู้
2) ครูและบุคลากรสร้างบรรยากาศการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
3) โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน อย่างน้อย 10 เครือข่าย
3. ขั้นตอนการดำเนินงาน
ขั้นตอนการดำเนินงานส่งเสริมการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข การพัฒนารูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่
สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข โดยใช้ทรัพยากร ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้และวัฒนธรรมของชุมชนเป็นสื่อและฐานการเรียนรู้ 2) เพื่อส่งเสริมให้ครูและบุคลากรสร้างบรรยากาศการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข 3) เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมที่กำหนดเป้าหมายคุณภาพผู้เรียน และดำเนินงานการบริหารจัดการให้ สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์พันธกิจ ของโรงเรียน และสอดคล้องกับนโยบาย สพฐ. โดยใช้เทคนิคกระบวนการ วงจรคุณภาพเดมมิ่ง P-D-C-A และทฤษฎีระบบ (System Theory) มาพัฒนารูปแบบนวัตกรรมพร้อม กับการพัฒนาองค์กร โดยมีขั้นตอนการพัฒนา ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ใช้ทฤษฎีระบบในการสำรวจและวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการเกี่ยวกับ การบริหารจัดการด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนโดยใช้เทคนิค SWOT Analysis จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำให้ ทราบถึงสภาพแวดล้อมบริบทและความต้องการจำเป็นของโรงเรียนว่าขณะนี้อยู่ ณ จุดใด เพื่อจัดลำดับ ความสำคัญ และกำหนดกรอบในการพัฒนานวัตกรรมให้ได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 การวางแผน (Plan) เป็นการออกแบบนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และคุณภาพการบริหารจัดการ ไปสู่โรงเรียนแห่งความสุขที่มี5เป้าหมาย คือ นักเรียนเป็นสุข ครูเป็นสุข สภาพแวดล้อมเป็นสุข ผู้ปกครองเป็นสุข และชุมชนเป็นสุข โดยใช้รูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนบ้านวังชะโอน จากผลสรุปของการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคการพัฒนาโรงเรียนในขั้นตอนที่ 1 โรงเรียนแห่งความสุขจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานในอนาคตที่ชัดเจน จึงต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ให้มองเห็นภาพแห่ง ความสำเร็จที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ที่มีความท้าทายต่อโรงเรียนด้วยปัจจัยที่มีอิทธิพลทั้ง ภายในและภายนอก
ขั้นตอนที่ 3 ปฏิบัติตามแผน (Do) เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจกับบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อพัฒนา นวัตกรรมรูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model นำไปใช้ดำเนินงานการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน คุณภาพครู และคุณภาพการบริหารจัดการ ไปสู่โรงเรียนแห่งความสุขที่มี 5 เป้าหมาย คือ นักเรียนเป็นสุข ครูเป็นสุข ผู้ปกครองเป็นสุข เครือข่ายชุมชนเป็นสุข และโรงเรียนแห่งความสุข เกิดเป็นสถานศึกษาแห่งความสุข โดยการกำหนดแนววิธีดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคต เน้นการเติมเต็มศักยภาพ ของผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีการทำงานเป็นทีม เพื่อสร้างคุณค่าให้กับโรงเรียนผ่านกระบวนการ การจัดการความรู้ในโรงเรียนอย่างเป็นระบบ
ขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบ (Check) โรงเรียนมีระบบนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมิน และรายงานผล การดำเนินงานอย่างเป็นระบบ สะท้อนผลสำเร็จในการดำเนินงานตามตัวชี้วัด แผนงานกิจกรรมที่กำหนด ไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน การตรวจสอบคุณภาพเป็นการประเมินสภาพแวดล้อม ปัจจัย กระบวนการ และผลผลิต สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ในด้านต่าง ๆ ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อผู้เรียน และโรงเรียน ตามกระบวนการของทฤษฎีระบบ (System theory) จากนั้นจัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในระดับปฏิบัติงาน และสร้างเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ทั้งโรงเรียน
ขั้นตอนที่ 5 การสะท้อนผล (Act) การนำนวัตกรรมรูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model ไปใช้ในโรงเรียนบ้านวังชะโอน นั้น เป็นการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปีที่มีโครงการ/กิจกรรม ระบุขั้นตอนการดำเนินงานแบบ P-D-C-A อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรูปแบบของนวัตกรรมที่กำหนดไว้ โดยมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์มีการประเมินผล นิเทศ กำกับ ติดตาม เพื่อนำผล การปฏิบัติมาปรับปรุงพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขั้น มีการให้รางวัลยกย่องเชิดชูคนดี มีคุณธรรม และ พัฒนาต่อยอดรูปแบบกิจกรรมให้ต่อเนื่องและยั่งยืน
สร้างและพัฒนารูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าสร้างรูปแบบโดยพิจารณาถึงความสอดคล้องกับการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน โดยผ่านกระบวนการ P-D-C-A ดังนี้
โดยการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาโรงเรียนบ้านวังชะโอนได้นำกระบวนการเชิงระบบมาเป็นกรอบในการดำเนิน โดยมี ปัจจัยนำเข้า (Input) ดังนี้
1. นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ การเมือง สังคม นโยบาย สพฐ.และนโยบายหน่วยงานต้นสังกัด
2. จำนวนครูและบุคลากร ผู้รับนโยบายสู่การปฏิบัติ
3. งบประมาณเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การนำนโยบายสู่การปฏิบัติได้อย่างชัดเจนขึ้น
4. การมีส่วนร่วมของเครือข่ายไตรภาคี ชุมชน บ้านวัดและโรงเรียน
โดยผ่านกระบวนการดำเนินงาน (Process) ดังนี้
ขั้นที่ ๑ P = การวางแผน (P : PLAN)
มีการคิดเค้นปรับเปลี่ยน รูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
1. SWOT Analysis สำรวจและวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการเกี่ยวกับการบริหาร จัดการด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนร่วมกับครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และชุมชน (Plan)
2. การสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบการบริหารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างคุณภาพผู้เรียนของโรงเรียนบ้านวังชะโอน โดยใช้ COMMUNITY Model (Plan)
3. ใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน ภายใต้วงจร P-D-C-A (Do) ดังนี้
C : Coordination ความร่วมมือ ขั้นตอนการส่งเสริมความร่วมมือ มีดังนี้
1) กำหนดเป้าหมายร่วมกัน ทุกฝ่ายควรร่วมกันกำหนดเป้าหมายหรือผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อให้ทุกคนมี
ทิศทางเดียวกันและรู้สึกเป็นเจ้าของงาน
2) สร้างความเข้าใจและความไว้วางใจ ใช้การสื่อสารที่โปร่งใส เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น และ
เคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
3) แบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ให้แต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มมีบทบาทที่เหมาะสมกับ
ความสามารถ เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและความสับสน
4) สนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จัดให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ หรือทรัพยากรระหว่างกัน
5) ติดตามและประเมินผลร่วมกัน ทบทวนความก้าวหน้า ปรับปรุงแนวทาง และฉลองความสำเร็จร่วมกัน
เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ความร่วมมือดำเนินต่อไป
O : Opportunity การสร้างโอกาส ขั้นตอนการสร้างโอกาส มีดังนี้
1) วิเคราะห์สถานการณ์และความต้องการ สำรวจปัญหา ความต้องการ และศักยภาพที่มีอยู่ เพื่อมองห
ช่องทางใหม่ ๆ
2) ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนกำหนดว่าต้องการสร้างโอกาสในด้านใด และผลลัพธ์ที่คาดหวังคืออะไร
3) ใช้ทรัพยากรและเครือข่ายที่มีนำความรู้ ทักษะ หรือความสัมพันธ์ที่มีมาเชื่อมโยงเพื่อเปิดทางไปสู่โอกาส
4) สร้างนวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาเชิงรุกเพื่อสร้างทางเลือกที่
แตกต่าง
5) ลงมือทำและปรับปรุงต่อเนื่อง เริ่มทดลอง ลงมือปฏิบัติ และปรับแผนตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่ม
โอกาสความสำเร็จ
M : Management การบริหารจัดการ มีดังนี้
1) การวางแผน (Planning) กำหนดเป้าหมาย วางกลยุทธ์ และจัดทำแผนงานให้ชัดเจน
2) การจัดองค์กร (Organizing) จัดโครงสร้าง แบ่งหน้าที่ และมอบหมายความรับผิดชอบอย่างเหมาะสม
3) การสั่งการและประสานงาน (Directing & Coordinating) ชี้แจงแนวทาง กระตุ้นการทำงาน และ
สร้างการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
4) การควบคุมและติดตาม (Controlling)ตรวจสอบความก้าวหน้า เปรียบเทียบกับแผน และแก้ไข
ปัญหาทันทีเมื่อพบ
6) การประเมินผลและปรับปรุง (Evaluating & Improving)ประเมินผลงาน วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน
และพัฒนาวิธีการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
M : Moral การมีคุณธรรม มีดังนี้
1) สร้างความตระหนักรู้ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม ผ่านกิจกรรม สื่อ หรือการอบรม
เพื่อให้เข้าใจคุณค่าที่แท้จริง
2) เป็นแบบอย่างที่ดีผู้บริหาร ครู หรือผู้นำ ควรปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างด้านคุณธรรมให้ผู้อื่นเห็นอย่างชัดเจน
3) จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมเช่น การทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น การบำเพ็ญประโยชน์ หรือโครงการ
จิตอาสา
4) สร้างระบบจูงใจและยกย่องให้รางวัลหรือคำชื่นชมแก่ผู้ที่ปฏิบัติตามหลักคุณธรรม เพื่อสร้างแรง
บันดาลใจ
5) ติดตามและประเมินผลต่อเนื่องสังเกตพฤติกรรม ปรับปรุงแนวทาง และรักษาบรรยากาศแห่ง
คุณธรรมให้ยั่งยืน
U : Unity ความเป็นหนึ่งเดียว แนวทางการส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวในองค์กร มีดังนี้
1) กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกัน ให้ทุกคนเข้าใจและยึดถือทิศทางเดียวกัน เพื่อลดความ
ขัดแย้งและเพิ่มความสามัคคี
2) สร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่เปิดกว้างส่งเสริมให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และเคารพในมุมมองที่แตกต่าง
2) จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์เช่น กิจกรรมสันทนาการ ฝึกอบรม หรือโครงการร่วมมือ เพื่อให้คน
ในองค์กรรู้จักและไว้วางใจกันมากขึ้น
3) ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมมอบหมายงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือ และให้ทุกคนมีบทบาทสำคัญต่อ
ความสำเร็จของทีม
4) ยกย่องและเฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกันแสดงการชื่นชมทั้งในระดับบุคคลและทีม เพื่อสร้างความ
ภาคภูมิใจและความผูกพันกับองค์กร
N : Network การสร้างเครือข่าย แนวทางการสร้างเครือข่ายมีดังนี้
1) วิเคราะห์ความต้องการและเป้าหมายของเครือข่ายระบุว่าต้องการสร้างเครือข่ายเพื่ออะไร เช่น
แลกเปลี่ยนความรู้ สนับสนุนกิจกรรม หรือพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2) ระบุกลุ่มเป้าหมายและพันธมิตร เลือกบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องและสามารถ
ร่วมมือกันได้ เช่น โรงเรียนใกล้เคียง ชุมชน หน่วยงานรัฐ หรือเอกชน
3) วางแผนและกำหนดรูปแบบความร่วมมือสรุปแนวทางการทำงานร่วมกัน บทบาทหน้าที่ และ
ช่องทางการติดต่อสื่อสาร
4) ดำเนินกิจกรรมร่วมกันจัดโครงการ อบรม หรือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพื่อสร้าง
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
5) ติดตาม ประเมิน และพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่องตรวจสอบความก้าวหน้า แก้ไขปัญหา และขยาย
ความร่วมมือให้ครอบคลุมมากขึ้น
I : Integration การบูรณาการ แนวทางการบูรณาการกิจกรรมสร้างเครือข่ายชุมชนมีดังนี้
1) จัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างโรงเรียนและชุมชนหรือกิจกรรสัมพันธ์ชุมชน เช่น งานประเพณีท้องถิ่น
หรือกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาโรงเรียน พัฒนาหมู่บ้าน กิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ การให้บริการทางการศึกษา เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร การปริ้นงานต่าง ๆ เป็นต้น
2) เปิดพื้นที่โรงเรียนให้ชุมชนใช้ประโยชน์ เช่น การให้บริการอาคารสถานที่ จัดอบรม ออกกำลังกาย
หรือใช้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ การจัดงานมงคลต่าง ๆ
3) เชิญผู้ปกครองและผู้นำชุมชนร่วมเป็นวิทยากรหรือที่ปรึกษา เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่
ผู้เรียน เช่น เป็นวิทยากรท้องถิ่น การเป็นปราชญ์ชาวบ้าน
4) มีช่องทางสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างครู ผู้ปกครอง และผู้นำชุมชน เช่นการ
ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา การประชุมผู้ปกครอง การเข้าร่วมประชุมหมู่บ้าน มีไลน์คณะกรรมการสถานศึกษา ไลน์ผู้ปกครอง เพื่อรายงานข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน เป็นต้น อีกทั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวทางโรงเรียนผ่าน เพจ เฟสบุ๊คให้ผู้ปกครองหรือเครือข่ายได้รับทราบ
5) สนับสนุนการทำโครงการร่วมกัน ที่ตอบโจทย์ทั้งการพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
T : Team การทำงานเป็นทีม แนวทางการทำงานเป็นทีม ดังนี้
1) กำหนดเป้าหมายร่วมกันให้ทีมเข้าใจทิศทางและผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างชัดเจน
2) แบ่งบทบาทและหน้าที่อย่างเหมาะสมจัดสรรงานให้สอดคล้องกับความถนัดและความเชี่ยวชาญของ
สมาชิก
3) สื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่องใช้ช่องทางที่ทุกคนเข้าถึงได้ และเปิดโอกาสให้แสดงความ
คิดเห็น
4) สนับสนุนและช่วยเหลือกันในทีมแบ่งปันความรู้ แก้ไขปัญหาร่วมกัน และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
5) ติดตาม ประเมิน และปรับปรุงการทำงานตรวจสอบความก้าวหน้า รับฟังข้อเสนอแนะ และปรับวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Y : Yield to None มุ่งสู่คุณภาพ แนวทางการกำหนดเป้าหมายองค์กรแห่งความสุข ดังนี้
1) กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ชัดเจนเพื่อสร้างทิศทางและเป้าหมายที่ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าใจ
และร่วมกันมุ่งมั่น
2) วางแผนกลยุทธ์และเป้าหมายคุณภาพกำหนดมาตรฐาน คุณลักษณะ และตัวชี้วัดความสำเร็จที่
ชัดเจนและวัดผลได้
3) พัฒนาศักยภาพบุคลากรและสร้างวัฒนธรรมคุณภาพฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้ความสามารถ
พร้อมสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการทำงานคุณภาพ
4) ดำเนินงานตามแผนและมาตรฐานที่กำหนดใช้กระบวนการและวิธีการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมการ
บริหารจัดการที่ดี
5) ติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตรวจสอบผลงาน วิเคราะห์ปัญหา นำผลประเมินไ
ปปรับปรุงพัฒนาองค์กรให้ดียิ่งขึ้น
4 กระบวนการดำเนินงานตามรูปแบบมีส่วนร่วม (Do)
1) ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนผู้นำชุมชน ส.อบต.ของทุกหมูบ้านในเขตบริการ
2) วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาและการบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน
3) จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และกำหนดนโยบาย และนำแผนสู่การปฏิบัติ และตั้งเป้าหมายความสำเร็จที่ชัดเจนโดยกำหนดแนวทางการพัฒนาไว้
4) สร้างเครือข่ายครู ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ผู้ปกครอง ชุมชนเพื่อการมีส่วนร่วม
5) ตั้งเป้าหมายของการพัฒนาสถานศึกษาเพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
6) ระดมความคิด ระดมพลัง และระดมทรัพยากร เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
7) ดำเนินการตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการพัฒนา เช่น โครงการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนพระราชทาน สนามเด็กเล่นอนุบาล ห้องสมุด และอื่นๆ
5. สรุปผลการดำเนินงาน รายงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเครือข่ายครูผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ผู้ปกครอง ชุมชน
6. ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม โดยใช้รูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน
7. นำผลที่ได้จากการดำเนินงานมาวิเคราะห์ด้วยกระบวนการ AAR : After Action
Review เพื่อหาจุดที่ควรพัฒนาเพื่อปรับปรุงและจุดเด่นเพื่อพัฒนาต่อยอด ทบทวนและพัฒนา สานต่อให้มีคุณภาพและยั่งยืนต่อไป
ผลผลิต (OUTPUT) ซึ่งเป็นจุดเน้นของโรงเรียน 5 ด้าน ดังนี้
1. นักเรียนมีความสุข
2. ครูมีความสุข
3. ผู้ปกครองมีความสุข
4. ชุมชนมีความสุข
5. เครือข่ายมีความสุข
ผลลัพทธ์ (Outcome) ที่คาดหวัง ชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข
4. ผลสำเร็จของการดำเนินงาน
4.1 ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย
จากผลการโดยใช้รูปแบบชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุข ด้วย : COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ดังนี้
1) ผู้เรียนร้อยละ 90 เรียนรู้อย่างมีความสุขโดยใช้ทรัพยากร ภูมิปัญญา แหล่งเรียนรู้และ
วัฒนธรรมของชุมชนเป็นสื่อและฐานการเรียนรู้
จากผลการพัฒนารูปแบบนวัตกรรม การส่งเสริมการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
ประเมินคุณภาพภายในปีการศึกษา 2567 มาตรฐานที่ 1 ด้านคุณภาพผู้เรียน ผู้เรียนร้อยละ 88.45 มีคุณภาพตามมาตรฐาน ทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการและด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับดีเลิศ โดยทางโรงเรียนได้มุ่งเน้นการดำเนินการและการจัดกิจกรรมที่เน้นในเรื่องของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบ้าน วัด และโรงเรียนเป็นหลัก โดยสนับสนุนให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานในโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนโครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียน โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โครงการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งทุกโครงการได้เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการจัดหาและสนับสนุนด้านวัสดุ อุปกรณ์ เช่น สจ.วันชัย ศิริพันธ์ บริจาคคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 5 เครื่อง ศิษย์เก่าและผู้ปกครอง บริจาคเครื่องทำน้ำเย็นและพัดลมติดผนังห้องเรียน จำนวนเงิน 30,000 บาท การระดมทุนเพื่อการศึกษา จัดทำผ้าป่าเพื่อการศึกษาเพื่อซื้อรถรับ-ส่งนักเรียน จำนวนเงิน 786,000 บาท และคณะกรรมการสร้างโรงจอดรถรับส่งนักเรียนจากเงินผ้าป่าเพื่อการศึกษา ด้านแรงงาน คณะกรรมการ ผู้ปกครองจิตอาสาพัฒนาอาคารสถานที่ในโรงเรียน หรือการประสานงานกันและการดำเนินการทางด้านวิชาการที่หลายท่านเสียสละเวลาเข้ามาเป็นครูภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือเปิดโอกาสให้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรม เพื่อศึกษาดูงานในแหล่งเรียนรู้ภายในท้องถิ่นหรือกิจการของคณะกรรมการสถานศึกษา เช่น โรงงานลูกชิ้นวังชะโอน โคกหนองนาผู้ใหญ่จิตติพงษ์ ศูนย์ทอผ้าบ้านวังชะโอนน้อย และการเข้ามาเป็นครูพระสอนธรรมะให้กับนักเรียนและการเปิดสถานที่ต่าง ๆ ในบริเวณวัด เช่น โบสถ์ วิหาร ให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าศึกษาหาความรู้ในเรื่องราวของพระพุทธศาสนาสอดคล้องกับ งานวิจัยของภูวณัฐสร์ หนูมาก ที่ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง กระบวนการการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) ต่อการพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธ มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาระดับการปฏิบัติและ ระดับปัญหาอุปสรรคของกระบวนการมีส่วนร่วมของกระบวนการการมีส่วนร่วมของ บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) ต่อการพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธผลการศึกษาพบว่า ระดับการปฏิบัติของกระบวนการมี ส่วนร่วมของ บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) ต่อการพัฒนาโรงเรียนวิถีพุทธในภาพรวม อยู่ในระดับปาน กลาง โดยการพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการดำเนินการมีระดับการปฏิบัติในกระบวนการมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมากโดยเฉพาะด้านการพัฒนาผู้เรียนในประเด็นการร่วมปลุกจิตสำนึกให้ผู้เรียนมีวินัยใน ตนเองอยู่เสมอ นักเรียนของโรงเรียนบ้านวังชะโอน มีพัฒนาการด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม ด้านคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ด้านสุขนิสัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี ความสนใจร่วมกิจกรรม และแสดงออกด้านศิลปะ ดนตรี กีฬา ความสามารถด้านคิดวิเคราะห์ ความรู้และทักษะตามหลักสูตร ทักษะในการแสวงหาความรู้ รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ทักษะการท างานเป็นทีม การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติ ตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามผู้ปกครองชุมชนต้องการเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4.2 ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ศิษย์เก่า และชุมชน มีส่วนร่วมและมีความพึงพอใจในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ภาคผนวก 2)
ครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ศิษย์เก่า และชุมชน มีส่วนร่วมและมีความพึงพอใจในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ร้อยละ 95.88 ในการบริหารงานและการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านวังชะโอนนั้น เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับและนโยบาย ของกระทรวงศึกษาธิการและ สพฐ. อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ทางโรงเรียนและผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนได้รับรางวัลจากการจัดการบริหารแบบมีส่วนร่วมของสถานศึกษาทั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัดและระดับสำนักงานเขตพื้นที่ ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับทางโรงเรียน คณะครู รวมทั้งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นอันมากเพราะเป็นความสำเร็จที่ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นทั้งบ้าน วัด และโรงเรียน ในเรื่องของการค้นหาปัญหา การวางแผนและการตัดสินใจ การดำเนินการและการประเมินผลการจัดการศึกษาของโรงเรียน โดยทุกฝ่ายมีความรู้สึกภาคภูมิใจ และมีความยินดีร่วมกัน นับเป็นความสำเร็จ ของการจัดการศึกษาของโรงเรียนที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียน แต่ใช่ว่าความสำเร็จที่ทางโรงเรียนที่ได้มาจะราบรื่นเสียทีเดียว เพราะในระหว่างทางนั้นมีอุปสรรคและขวากหนามมากมายที่ท้าทาย เพราะมีเรื่องที่ต้องได้รับการวางแผน การปฏิบัติการตรวจสอบและการปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลาตามวงจรคุณภาพ P D C A เพื่อที่จะรักษาคุณภาพของการแบบมีส่วนร่วม บ้าน วัด โรงเรียน ให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืนต่อไปให้นานที่สุด ทั้งนี้ได้มีผู้ให้ความคิดเห็นย้อนกลับถึงผลที่ได้รับและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและและที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม รวมทั้งการเสนอแนะและให้คำแนะนำกับโรงเรียนให้สามารถดำเนินการจัดการศึกษาตามแนวทางการมีส่วนร่วมในการบริหารแบบบ้าน วัด โรงเรียน ให้ประสบความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับของชุมชนและได้รับความร่วมมือด้วยดีตลอดมา
3) โรงเรียนมีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและชุมชนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอย่างยั่งยืน อย่างน้อย 6 เครือข่าย
จากการพัฒนารูปแบบนวัตกรรม ชุมชนเป็นฐานสู่สถานศึกษาแห่งความสุขด้วย COMMUNITY Model โรงเรียนบ้านวังชะโอน เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ทำให้ได้รับความร่วมมือ