วิจัยในชั้นเรียน
เรื่อง: การพัฒนาทักษะการพูดโดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลทางการเรียนรู้ผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (Chat GPT) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย: นายอุปถัมภ์ ค้ำชู
ปีการศึกษา: 2568
________________________________________
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับนวัตกรรมดิจิทัล (Chat GPT) ที่มีต่อทักษะการพูดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยตั้งเกณฑ์ประสิทธิภาพไว้ที่ร้อยละ 80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจและประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนยูงทองพิทยาคม อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับ Chat GPT 2) แบบทดสอบทักษะการพูดก่อนและหลังเรียน (Pre-test/Post-test Speaking Tasks) ในสถานการณ์ "การสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัย" และ "การนำเสนอแฟ้มสะสมผลงาน" 3) แบบประเมินทักษะการพูดแบบรูบริก 5 มิติ (ความคล่องแคล่ว, ความถูกต้อง, การออกเสียง, เนื้อหาและโครงสร้าง, และปฏิสัมพันธ์) และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Likert Scale)
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานเพื่อทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test for dependent samples (Paired t-test)
________________________________________
ผลการวิจัย พบว่า
1. นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับ Chat GPT เพื่อพัฒนาทักษะการพูด มีประสิทธิภาพสูง โดยคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 80.95 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 สูงถึง 92.86% ของนักเรียนทั้งหมด
2. ผลสัมฤทธิ์ด้านทักษะการพูดของนักเรียนหลังเรียน (ค่าเฉลี่ย = 24.29, SD = 5.24) สูงกว่าก่อนเรียน (ค่าเฉลี่ย = 13.29, SD = 4.14) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 (t(27) = 17.64, p < .0001)
3. การจัดการเรียนรู้ดังกล่าวมีประสิทธิผลในการพัฒนานักเรียน โดยคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนเพิ่มขึ้น 11.00 คะแนน และมีขนาดอิทธิพล (Effect Size) ในระดับสูงมาก (Cohen’s dp = 3.33)
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับ Chat GPT อยู่ในระดับมาก โดยนักเรียนส่วนใหญ่สะท้อนว่ามีความมั่นใจและความคล่องแคล่วในการพูดเพิ่มขึ้น และเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้จากโจทย์ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง
โดยสรุป การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ร่วมกับนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Chat GPT) มีประสิทธิภาพสูงในการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีนัยสำคัญช่วยให้นักเรียนสามารถสร้างสรรค์และเรียบเรียงเนื้อหาการพูดในสถานการณ์จริงได้อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้นักเรียนมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และมีทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำสำคัญ: (1) การพัฒนาทักษะการพูด (2) ปัญญาประดิษฐ์ (Chat GPT) (3) การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) (4) ทักษะการพูดภาษาอังกฤษ