ชื่อเรื่อง การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนถนนหักพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์
ผู้วิจัย นายสุบิน ฝ่ายเทศ
ปีที่วิจัย 2568
คำสำคัญ ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (descriptive analysis) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนถนนหักพิทยาคม 2) แนวทางการพัฒนาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนถนนหักพิทยาคม เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนถนนหักพิทยาคม ตามขอบข่ายงานของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม โดยมีบุคลากรของโรงเรียนถนนหักพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา บุรีรัมย์ จำนวน 25 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ (f) ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (μ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) และวิเคราะห์สถิติโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการวิจัยพบว่า
1. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนถนนหักพิทยาคมโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงค่ามัชฌิมเลขคณิตจากมากไปน้อย ได้แก่ การส่งเสริมและพัฒนานักเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหา การคัดกรองนักเรียน ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล และการส่งต่อ
2. แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนถนนหักพิทยาคมพบว่า
2.1. ควรมีการทำความรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยใช้เทคโนโลยี หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อ ความสะดวกและความรวดเร็วในการรวบรวมข้อมูล เช่น Google form, Google classroom, Messenger, Line หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดเก็บข้อมูลนักเรียนเป็นระบบอย่างเป็นปัจจุบันให้พร้อมใช้อยู่เสมอ
2.2. ควรจัดทำระบบการคัดกรองและแบบประเมินต่าง ๆ เพื่อจัดกลุ่มนักเรียนในรูปแบบออนไลน์ ส่งเสริมให้นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าถึงเครื่องมือที่ใช้ในการคัดกรองได้สะดวก และง่ายขึ้น
2.3. ควรมีการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน โดยมีการบูรณาการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนัดของตัวผู้เรียนในทุกกลุ่ม โดยใช้เทคนิค กระบวนการ และวิธีการที่หลากหลายอย่างเหมาะสมทั้งกิจกรรมในรูปแบบ On-line และรูปแบบ on-site
2.4. ควรมีการสร้างระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียน โดยให้การช่วยเหลือนักเรียนอย่างรอบด้าน ผสมผสานความร่วมมือบ้านกับโรงเรียน เช่น การให้คำปรึกษานักเรียนจาก พ่อแม่ ครูที่ปรึกษาและครูแนะแนวในรูปแบบ On-line และรูปแบบ on-site
2.5. ควรมีแบบแผนการและขั้นตอนในส่งต่อนักเรียนทั้งภายในและภายนอกที่ชัดเจนอย่างเป็น
รูปธรรม เพื่อส่งเสริมให้ครูหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถดำเนินการส่งต่อได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วอย่างมี
ประสิทธิภาพ