การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียน-หลังเรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป
2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเมืองปาน
กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเมืองปาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 23 คน
เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้ประกอบการจัดการ เรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็น แบบทดสอบออนไลน์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ โดยให้คะแนน 0,1 คือ ตอบถูกให้ 1 คะแนน ตอบผิด ให้ 0 คะแนน
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของ คะแนนสอบก่อนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยใช้ค่าสถิติที(t-test) แล้วสรุปเป็นความเรียงและแบบประเมินความพึงพอใจ ในการจัดการ เรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยใช้เกณฑ์มาตราประมาณค่า 5 ระดับ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเมืองาน โดยใช้การ จัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ มีคะแนนเฉลี่ยจากการ ทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ 6.26 และคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนเท่ากับ 9.21 ตามลำดับ โดยเฉลี่ย แล้วมีความก้าวหน้าเท่ากับ 2.95 ซึ่ง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ 0.01
2. ผลการวิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดย ใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก