ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E)ร่วมกับบอร์ดเกม เรื่องการถ่ายทอดพลังงานในระบบ นิเวศ ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1)เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง

การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการได้รับการจัดการเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม 2) เพื่อศึกษาความ

พึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) วิชาวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยเทคนิคการเรียนรู้

แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกมกลุ่มเป้าหมายของงานวิจัยในครั้งนี้คือ นักเรียนโรงเรียนวัดตะพงนอกชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวม

ข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) เรื่องการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ

(Collaborative learning group) ร่วมกับบอร์ดเกม แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

เชิงปริมาณโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบทีเทส

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ผลการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการทดสอบก่อนเรียนและหลัง

เรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 9.07 คะแนนและ 14.67 คะแนนตามลำดับและ

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนตารางเรียนพบว่าคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2) ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม พบว่านักเรียนที่ได้เรียนด้วย

การจัดการเรียนการสอนโดยใช้บอร์ดเกม เรื่อง สัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี

ที่ 3 โรงเรียนวัดตะพงนอก มีความพึงพอใจอยู ่ในระดับมาก (𝑋̅= 4.48, S.D. = 0.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน

โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านผู้เรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด(𝑋̅ = 4.55, S.D.

= 0.54) ด้านเนื้อหามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (𝑋̅= 4.52, S.D. = 0.56) ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน

(𝑋̅ = 4.51, S.D. = 0.57) และด้านคุณภาพของบอร์ดเกม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (𝑋̅ = 3.82, S.D. =0.48)

ความเป็นมาและความสำคัญ

วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลก ปัจจุบันและอนาคต เพราะความรู้ทางวิทยาศาสตร์

สามารถใช้ผลิตเครื่องมือเครื่องใช้เพื่ออำนวย ความสะดวกในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งในการ ดำรง

ชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่าง ๆ โดย ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่นๆ ความรู้ ทาง

วิทยาศาสตร์ช่วยให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก แต่ในทางกลับกันเทคโนโลยี ก็มีส่วนสำคัญมากที่่

จะทำให้การศึกษาค้นคว้า ความรู ้ ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งวิทยาศาสตร์ทำให้คนได้พัฒนาวิธีคิด

ทั้งความคิด เป็นเหตุเป็นผล คิด สร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญ ในการค้นคว้าหาความรู ้ มี

ความสามารถในการแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลาย และประจักษ์พยานที่

ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสังคมแห่งความรู ้ (Knowledge-based

society) ทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ (Scientific literacy for all) เพื่อที่จะมี

ความรู้ความเข้าใจโลกธรรมชาติ และเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น สามารถนำความรู ้ ไปใช้อย่างมีเหตุผล

สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม ความรู้วิทยาศาสตร์ไม่เพียงแต่นำมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตที่ดี แต่ยังช่วยให้คน

มีความรู้้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ การดูแลรักษา ตลอดจน การพัฒนาสิ่งแวดล้อมและ

ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างสมดุลและยั่งยืน

วิธีการสอนโดยใช้บอร์ดเกมเป็นสื่อการสอน คือ กระบวนการที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตาม

วัตถุประสงค์ โดยการให้ผู ้เรียนเล่นบอร์ดเกมตามกติกา และนำเนื้อหาและข้อมูล ของบอร์ดเกม พฤติกรรมการ

เล่น วิธีการเล่น และผลการเล่นบอร์ดเกมของผู้เรียนมาใช้ในการอภิปรายเพื่อสรุปการ เรียนรู้ สุคนธ์ สินธพา

นนท์ (2551, หน้า 129) ได้กล่าวถึง บอร์ดเกมเป็นกิจกรรมที ่สร้างความสนใจและความ สนุกสนานให้แก่ผู ้ ้เรียน

ผู้เล่นต้องเล่นตามกฎกติกาที่กำหนดไว้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ เข้าใจและจดจำ บทเรียนได้ง่ายและ

พัฒนาทักษะต่าง ๆ รวดเร็วได้รู้จักทำงานร่วมกัน มีกระบวนการในการทำงานและอยู่ร่วมกัน การ ประเมิน

ผลสำเร็จของผู้เล่น อาจมีการแข่งขันแพ้ ชนะ หรือไม่มีก็ได้ และอาจมีแรงจูงใจเชิงบวกในการเล่นเป็น รางวัล

เช่น คะแนน ลูกอม เป็นต้น บอร์ดเกมสามารถนำมาใช้ประกอบการสอนในขั้นตอนการนำเข้าสู่บทเรียน การ

สอน หรือการสรุปบทเรียนก็ได้ นอกจากนั้นการใช้บอร์ดเกมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้

ประสิทธิภาพ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดีขึ้นสร้างความรู้สึกที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ เพิ่มพูนทักษะ

ความสามารถในการคิดหา เหตุผลมีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน บอร์ดเกมสามารถส่งเสริม

การเรียนรู้โดยการคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหาและเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งทักษะกระบวนคิดทางวิทยาศาสตร์เป็น

พื้นฐานที่สำคัญในการเรียนรู้เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ผู้วิจัยจึงพัฒนาบอร์ดเกมเพื่อเป็นสื่อการ

เรียนการสอน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการจัดกระบวนการเรียน การสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพในวง

การศึกษาวิทยาศาสตร์ต่อไป จากสภาพปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาผลสัมฤทธิ ์ทางการ

เรียนด้วยบอร์ดเกม เรื่อง ระบบนิเวศ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะพงนอก อำเภอเมือง

ระยอง จังหวัดสระยอง เพื่อนำผลวิจัยมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพ เรียนรู้ด้วยตนเอง ฝึกการคิดวิเคราะห์ในการเล่นเกมเมื่อนักเรียนได้เรียนหรือเล่น

บอร์ดเกม ทำกิจกรรมด้วยตนเอง จะทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงสามารถพัฒนาผู้เรียนได้เต็มศักยภาพ

ผู้วิจัยเห็นว่าการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีความเหมาะสมในการที่จะนำมาพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนรู้และการมีส่วนร่วมในห้องเรียน เนื่องจากการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning) คือกลยุทธ์

การเรียนที่ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่มย่อยเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน เน้นการพึ่งพาอาศัยกันเชิงบวก การช่วยเหลือ

2

กัน และความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อพัฒนาความเข้าใจเนื้อหา ทักษะการคิด การสื่อสาร และทักษะทาง

สังคม ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่กระตือรือร้น (Active Learning) และสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกในกลุ่ม

ขณะเดียวกันนักเรียนทุกคนต้องพัฒนาและช่วยเหลือตนเอง โดยใช้ศักยภาพให้มากที่สุด จากสภาพปัญหาและ

ความสำคัญข้างต้น ผู้วิจัยได้สนใจศึกษาการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ร่วมกับ

บอร์ดเกม เรื่องการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative

learning group) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะพงนอก เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

โดยหวังให้เป็นแนวทางในการพัฒนาการมีส่วนร่วมในห้องเรียนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา

วิทยาศาสตร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหลักสูตร

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานใน

ระบบนิเวศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

5 ขั้นตอน (5E) ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม

2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E)

วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วย

เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม

สมมติฐานของการวิจัย

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ด้วยเทคนิค

การเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกมหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู ้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ด้วยเทคนิค

การเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม สูงกว่าการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E)

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศต่อการ

จัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E) ร่วมกับการใช้บอร์ดเกม อยู่ในระดับมากขึ้นไป

ขอบเขตการวิจัย

ขอบเขตด้านกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ที่กำลังศึกษา ปีการศึกษา

2568 โรงเรียนวัดตะพงนอก อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จำนวน 27 คน ซึ ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง

จากนักเรียนในห้องที่ผู้วิจัยเป็นผู้สอน

ขอบเขตด้านเนื้อหา

1. การวิจัยนี ้มุ ่งแก้ปัญหาการเรียนรู ้ของนักเรียนในกลุ ่มเป้าหมายในการวิจัยครั ้งนี ้คือ นักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดตะพงนอกที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ห้องม.3/2 จำนวน

27 คนและได้ร่วมกิจกรรมการจัดกระบวนการเรียนรู ้แบบกลุ ่ม ตลอดกระบวนการพัฒนาซึ ่งได้มาด้วยการสุ่ม

ตัวอย่างอย่างง่าย (Simple random sampling)

2. เนื ้อหาสาระที ่ใช้ในการพัฒนานักเรียนคือสาระการเรียนรู ้วิทยาศาสตร์มีทั ้งหมด 1 หน่วยคือ

หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ระบบนิเวศ จำนวน 12 ชั่วโมง โดยมีแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งหมด 3 แผน

ขอบเขตด้านตัวแปร

3

ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั ้นตอน (5E) ด้วยเทคนิคการเรียนรู้

แบบร่วมมือร่วมกับบอร์ดเกม

ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี

ที่ 3 อยู่ในระดับมากขึ้นไป

ขอบเขตด้านระยะเวลา

ช่วงเวลาที ่ใช้ในการพัฒนานักเรียนที ่เป็นกลุ ่มตัวอย่างในการวิจัยคือภาคเรียนที ่ 1 ปีการศึกษา 2568 ระหว่าง

เดือน พฤษภาคม – กรกฎาคม

นิยามศัพท์เฉพาะ

การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) หมายถึง กิจกรรมการเรียนการสอนที่แบ่ง

นักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกันโดยในกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความสามารถ

แตกต่างกัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกัน

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง เป็นความสามารถของนักเรียนในด้านต่างๆ ซึ่งเกิดจากนักเรียนได้รับ

ประสบการณ์จากกระบวนการเรียนการสอนของครู โดยครูต้องศึกษาแนวทางในการวัดและประเมินผล

บอร์ดเกม (Board Game) หรือเกมกระดาน คือ เกมที่ต้องใช้อุปกรณ์และกติกาที่ออกแบบมา

โดยเฉพาะ ในการเล่น ซึ่งจะมีแผ่นกระดาน ตัวหมาก หรือลูกเต๋าประกอบ โดยบอร์ดเกมเป็นเกมที่ต้องมีการเล่น

โดยมีปฏิสัมพันธ์อย่างเผชิญหน้า มีอุปกรณ์การเล่นที่ออกแบบสวยงามตามรูปแบบเฉพาะเกมนั้น (รักชน พุทธ

รังสี, 2560)

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E (The 5Es of Inquiry-Based Learning) หมายถึง

แผนการหรือกำหนดการที่ผู้วิจัย จัดทำขึ้นสำหรับเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนบรรลุ

จุดประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามขั้นตอนการสอนแบบสืบเสาะหา

ความรู้ สถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้สรุปไว้ 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) เป็นการน่าเข้าสู่บทเรียนซึ่งอาจเกิดความ สนใจ ความ

สงสัย จากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจใคร่รู้ นำไปสู่ประเด็น ที่จะศึกษาค้นคว้าให้

ชัดเจนยิ่งขึ้น

ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (exploration) เป็นการทำความเข้าใจในประเด็นที่ศึกษา วิธี การศึกษาอาจ

เป็นการตรวจสอบ การทดลอง การปฏิบัติ การสืบค้นความรู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลอย่าง พอเพียงในการที่จะใช้ใน

ขั้นต่อไป

ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) เป็นการนำข้อมูลข้อสนเทศที่ได้มา วิเคราะห์ แปลผล

สรุปผล และนำเสนอในรูปของภาพวาด ตาราง แผนภูมิ การค้นพบในขั้นนี้อาจเป็น การสนับสนุนหรือโต้แย้ง

สมมติฐานก็ได้ ผลที่ได้สามารถสร้างความรู้และช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้

ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) เป็นการนำความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับความรู้ เดิม หรือ

แนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือนำข้อสรุปไปอธิบายสถานการณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้เกิด ความรู้ที่กว้างขึ้น

ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ว่ามี ความรู้

อะไรบ้าง รู้มากน้อยเพียงใดและนำไปประยุกต์ความรู้สู่เรื่องอื่น ๆ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active leaning (5E) รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังได้รับการพัฒนาด้วยกระบวนการ

จัดการเรียนรู้ร่วมกับบอร์ดเกม เรื่องการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ

(Collaborative learning group) ของ

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนโดยการจัดการ

เรียนการสอนแบบ5E ที่สูงขึ้นตามลำดับ

4. นักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องระบบ

นิเวศ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถด้านการคิด วิเคราะห์ สำหรับ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (5E)ธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา

2568

โพสต์โดย ฟ้ามุ่ย : [26 พ.ย. 2568 (10:23 น.)]
อ่าน [31385] ไอพี : 125.24.18.48
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,352 ครั้ง
เด็กกับ"ดนตรี"และ"ศิลปะ"
เด็กกับ"ดนตรี"และ"ศิลปะ"

เปิดอ่าน 19,263 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 212,904 ครั้ง
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์

เปิดอ่าน 43,957 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 11,213 ครั้ง
"เรียกเหงื่อลดโรค" คุณก็ทำได้ ทุกวัย มาดูแลใส่ใจสุขภาพกันนะ
"เรียกเหงื่อลดโรค" คุณก็ทำได้ ทุกวัย มาดูแลใส่ใจสุขภาพกันนะ

เปิดอ่าน 24,301 ครั้ง
เราสอบไปเพื่ออะไร?
เราสอบไปเพื่ออะไร?

เปิดอ่าน 15,972 ครั้ง
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร

เปิดอ่าน 22,735 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)

เปิดอ่าน 1,080 ครั้ง
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย
วิธีการลงทุนทองคำสำหรับมือใหม่: เริ่มต้นอย่างไรให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 23,382 ครั้ง
ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"
ข้อคิดดีๆ จากละคร "แรงเงา"

เปิดอ่าน 10,995 ครั้ง
เคล็ดของการมีอายุครบ 100 ปี ต้องมีคู่ออกกำลังและหมั่นล้างมือ
เคล็ดของการมีอายุครบ 100 ปี ต้องมีคู่ออกกำลังและหมั่นล้างมือ

เปิดอ่าน 44,216 ครั้ง
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?

เปิดอ่าน 13,202 ครั้ง
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?

เปิดอ่าน 14,315 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 9,667 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 13,598 ครั้ง
อัลมอนด์และน้ำผึ้ง แก้เจ็บคอ
อัลมอนด์และน้ำผึ้ง แก้เจ็บคอ
เปิดอ่าน 45,125 ครั้ง
เทคนิคการพับกล่องแบบมีฝา จากกระดาษไว้สอนนักเรียนครับ
เทคนิคการพับกล่องแบบมีฝา จากกระดาษไว้สอนนักเรียนครับ
เปิดอ่าน 35,318 ครั้ง
PPT ประกอบการอบรมการนำกระบวนการ PLC เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของโรงเรียนขยายโอกาสในเขตภาคเหนือ
PPT ประกอบการอบรมการนำกระบวนการ PLC เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของโรงเรียนขยายโอกาสในเขตภาคเหนือ
เปิดอ่าน 66,888 ครั้ง
ค่าการศึกษาของบุตร ของข้าราชการครูฯ
ค่าการศึกษาของบุตร ของข้าราชการครูฯ
เปิดอ่าน 31,968 ครั้ง
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ