ชื่อเรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ
ของนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา 2567
ผู้วิจัย นายจิระศักดิ์ ตั้งใจดี
ปีที่วิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2567 ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายโยงความรู้ และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาปรับปรุงโครงการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผู้วิจัยใช้วิธีการประเมินของ Danial L. Stufflebeam รูปแบบการประเมินแบบ CIPPIEST Model เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสอบถามความคิดเห็นและการสัมภาษณ์ความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องกับโครงการ 5 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน คณะกรรมการอำนวยการโครงการ จำนวน 5 คน ครู จำนวน 30 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 588 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2567จำนวน 588 คน และการตรวจสอบเอกสารโครงการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบตรวจเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2567 โดยภาพรวม พบว่า ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการอำนวยการโครงการ มีความคิดเห็นว่าเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2. ผลการประเมินด้านบริบท ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคลองกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครองและสังคม
3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือบุคลากรผู้รับผิดชอบโครงการมีความรู้ความสามารถเหมาะสม และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คืองบประมาณของโครงการเหมาะสมเพียงพอ
4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือมีการคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาเพื่อเป็นตัวแทนนักกีฬาของกลุ่ม ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือมีการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
5. ผลการประเมินด้านผลผลิต ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือครู นักเรียน และผู้ปกครอง ร้อยละ 80 เข้าร่วม/มีส่วนร่วม โครงการ/กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและเกิดการพัฒนาทักษะกีฬาที่ดีขึ้น
6. ผลการประเมินด้านผลกระทบ ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ สถานศึกษามีชื่อเสียงจากการเป็นต้นแบบการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือนักเรียน/ผู้ปกครองยอมรับ สนับสนุน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการอย่างต่อเนื่อง
7. ผลการประเมินด้านประสิทธิผล ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือการดำเนินงาน/กิจกรรม/โครงการมีความประหยัด ใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างคุ้มค่า และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือการดำเนินงาน/กิจกรรม/โครงการมีประสิทธิภาพจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
8. ผลการประเมินด้านความยั่งยืน ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือนักเรียนได้รับโอกาสคัดเลือกไปแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือนักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนการสอน การร่วมกิจกรรม โครงการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกายในเวลาว่าง การเป็นผู้นำกลุ่มเยาวชนในการเล่นกีฬาพื้นเมือง
9. ผลการประเมินด้านการถ่ายโยงความรู้ ในภาพรวมและรายข้อ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพัฒนาการกีฬาอย่างยั่งยืน สามารถถ่ายทอดความรู้ แนวคิด เกิดประโยชน์กับหน่วยงานต่างๆ เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างหน่วยงาน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้หรือขยายองค์ความรู้จากการร่วมกิจกรรม โครงการ ไปสู่ครอบครัวและชุมชนของนักเรียนได้อย่างเหมาะสม
ผลการศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาปรับปรุง โครงการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเนินสง่าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ปีการศึกษา 2567 พบว่า มีปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ ดังนี้
1. ด้านบริบท พบว่า ข้อมูลปัญหา ความต้องการของผู้ปกครองไม่เป็นปัจจุบัน เห็นควรให้ดำเนินการสำรวจข้อมูล ปัญหา ความต้องการของผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทุกปีการศึกษา
2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า งบประมาณของโครงการไม่เพียงพอ ควรเพิ่มงบประมาณของโครงการ รวมทั้ง สื่อ วัสดุ และอุปกรณ์กีฬาในการดำเนินงาน และขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต้นสังกัด
3. ด้านกระบวนการ พบว่า ครูฝึกทักษะทางด้านกีฬามีจำนวนน้อย และต้องรับผิดชอบภารกิจด้านอื่นๆของโรงเรียนควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมนักกีฬา แนวทางแก้ไขคือการพัฒนาทักษะด้านการฝึกซ้อมกีฬาให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 เพื่อให้เป็นผู้ช่วยครูฝึก และขอความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นจัดหาบุคลากรมาช่วยสนับสนุนการฝึกซ้อมกีฬา
4. ด้านผลผลิต พบว่า นักเรียนที่ต้องฝึกซ้อมกีฬามีเวลาเรียนในรายวิชาอื่นไม่เพียงพอโรงเรียนควรจัดตารางเรียนพิเศษให้กับนักเรียนที่เป็นนักกีฬาได้เรียนรู้เพิ่มเติม รวมทั้งนักเรียนที่มีภารกิจเกี่ยวข้องด้วย
5. ด้านผลกระทบ พบว่า ผู้ปกครองนักเรียนบางคนไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของโรงเรียน โรงเรียนควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ ชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับผู้ปกครองให้มากขึ้น
6. ด้านประสิทธิผล พบว่า การประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องไม่ชัดเจน ดังนั้นโรงเรียนควรจัดประชุมชี้แจงกับผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจนทุกครั้งก่อนที่จะมีการเข้าค่ายนักกีฬา
7. ด้านความยั่งยืน พบว่า การสรุปผลโครงการข้อมูลบางส่วนไม่ชัดเจน จึงควรมีคำสั่งมอบหมายผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสรุปโครงการจัดทำข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วนสมบูรณ์
8. ด้านการถ่ายโยงความรู้ พบว่า สถานที่ฝึกซ้อมกีฬาเปิดใช้บางช่วงเวลาเท่านั้น ดังนั้นโรงเรียนควรเปิดกว้างสำหรับให้มีสถานที่ออกกำลังกายภายในโรงเรียน สำหรับนักเรียนและเยาวชนที่สนใจการออกกำลังกายและเล่นกีฬา
คำสำคัญ : การประเมินโครงการ, การพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาสู่ความเป็นเลิศ, รูปแบบการประเมินแบบ CIPPIEST Model
The Title The Evaluation Report of Develop Potential to the Excellence of
Sports Project for the Students at Noen-Sa-nga Witthaya School
Under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization
B.E. 2567 academic year
The Author Mr. Jerasuk Thungjaidee
Year 2024
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ABSTRACT
The evaluation report of develop potential to the excellence of sports project for the students at Noen-Sa-nga Witthaya school, under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization, B.E. 2567 academic year. The purpose of this research were 1) to evaluate the develop potential to the excellence of sports project for the students at Noen-Sa-nga Witthaya school, under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization, B.E. 2567 academic year in context, input, process, product, impact, effectiveness, sustainable and transportability. 2) to study problems and guidelines for improve the the develop potential to the excellence of sports project for the students at Noen-Sa-nga Witthaya school. The researcher conducted a project evaluation by using the Danial L. Stufflebeam evaluation method and the CIPPIEST Model. The data were collected by using questionnaire and interview the people who involved in the project. There were five groups of people were involved in the project. They were executives, project director members, teachers, students and parent of Matayom Suksa 1-6. The instruments used in the study included the questionnaire, the interview form and the document check form. The collect data were analyzed by using percentage (%), mean ( X ), standard deviation (S.D.) and content analysis.
The results of the research were as follows:
1. The results of the develop potential to the excellence of sports project for the students at Noen-Sa-nga Witthaya school, under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization, B.E. 2567 academic year as a whole found, that the executives, project director members, teachers, students and parent of Matayom Suksa 1-6 showed their opinions appropriate at the high level.
2. The results of the context evaluation, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was the objectives of the project are in line with the policy of Under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization.
3. The results of the input, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was personnel responsible for the project have the right knowledge.
4. The results of the process, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was the selection of athlete representatives represent the athletes of the group.
5. The results of the product, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was teachers, students and students parents attended 80 % the develop potential to the excellence of sports project.
6. The results of the impact, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was schools have famous for their learning styles.
7. The results of the effectiveness, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was project implementation is economical and cost effective materials.
8. The results of the sustainable, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was the students are giver the opportunity to be selected to compete at a higher level.
9. The results of the transportability, as found that the project was appropriate at the high level. The highest mean was the learning center for the develop potential to the excellence of sports project, can transfer knowledge, ideas and benefits to the various agencies.
The results of the problem study and the guideline, improve of the develop potential to the excellence of sports project for the students at Noen-Sa-nga Witthaya school under Chaiyaphum Provincial Administrative Organization, found that there were problems and some suggestions as follows :-
1. The context aspect, found that the Information needs of the parents had not new, should be survey carried out issues related to the needs every year.
2. The input aspect, found that the budget of the project is not enough, should be increase the budget of the project as well as the media, materials and equipment in operation and propose projects to the municipal plan to request funding from the agency.
3. The process aspect, sports coaches are few in number and are responsible for other school duties alongside the training of athletes.
4. The product aspect, students who have to practice sports do not have enough time to study other subjects.
5. The impact aspect, found that some parents still do not accept or adapt to the environmental protection of the school. Should increase the publicity, clarify and ask for more cooperation with parents.
6. The effectiveness aspect, found that the coordination with the networks were not clear. Director should be meeting between the networks before the visit.
7. The results of the sustainable, the project summary : some data is unclear.
8. The results of the transportability, the sports training facility is open only during certain hours
Keyword : The Project Evaluation, Develop Potential to the Excellence of
Sports, the CIPPIEST Model