ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การบริหารจัดการชั้นเรียน ด้วย “S A V E R Model” เรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต” รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนหนองทะเลวิทยา

ชื่อผลงาน การบริหารจัดการชั้นเรียน ด้วย “S A V E R Model” เรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต” รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนหนองทะเลวิทยา

1. ความสำคัญของผลงาน

1.1 ความสำคัญสภาพปัญหา

การออมเงินเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันมีความผันผวนสูง ทั้งค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่านิยมการใช้จ่ายที่เน้นความสะดวกและความพึงพอใจเฉพาะหน้า รวมถึงอิทธิพลของสื่อออนไลน์ที่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมบริโภคตามกระแสอย่างรวดเร็ว ทำให้เยาวชนจำนวนมากขาดความตระหนักในการวางแผนการเงินและไม่เห็นคุณค่าของการออม ส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้เงินเกินตัว ไม่มีเงินสำรองยามจำเป็น และขาดทักษะการบริหารจัดการทางการเงิน ขั้นพื้นฐาน ซึ่งล้วนเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในอนาคต สอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หมวดสิทธิและเสรีภาพของปวงชน มาตรา 54 กำหนดว่า รัฐต้องจัดการศึกษาให้ประชาชนได้รับอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ การศึกษาภาคบังคับต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2–4) พ.ศ.2562 มาตรา 23 แนวทางการจัดการเรียนรู้การเรียนรู้ต้องเน้นทักษะ กระบวนการคิด การแก้ปัญหา การบูรณาการความรู้ การฝึกปฏิบัติจริง การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ดังนั้น ผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพตามความถนัด ความสนใจ และความแตกต่างระหว่างบุคคลการจัดการเรียนการสอนเรื่องการออมในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมที่ผ่านมายังเน้นการถ่ายทอดเนื้อหาทางทฤษฎีเป็นส่วนใหญ่ ทำให้นักเรียนเข้าใจว่า “การออม” เป็นเพียงเนื้อหาที่ต้องเรียน ไม่ใช่ “พฤติกรรมที่ต้องปฏิบัติจริง” ส่งผลให้เกิดช่องว่างระหว่างความรู้และการลงมือทำ อีกทั้งบรรยากาศภายในชั้นเรียนขาดแรงกระตุ้นที่ช่วยสร้างนิสัยการออมอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ไม่มีระบบติดตามพฤติกรรมการออมของนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม และครูไม่สามารถตรวจสอบหรือประเมินความก้าวหน้าของนักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง

จากสภาพปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องมีรูปแบบการบริหารจัดการชั้นเรียนที่ช่วยให้การเรียนรู้เรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต” เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและเกิดผลลัพธ์จริงในพฤติกรรมของนักเรียน ครูจึงนำแนวคิด SAVER Model (S–Set Environment, A–Active Learning, V–Value Awareness, E–Evaluate & Encourage, R–Reflection & Responsibility) มาใช้เป็นกรอบเพื่อพัฒนาบรรยากาศการเรียนรู้และส่งเสริมพฤติกรรมการออมให้เกิดขึ้นจริง โมเดลนี้มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อม การจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติจริง การสร้างแรงจูงใจ การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการสะท้อนคิดของผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการออม เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนเกิดเป็นนิสัยการออมที่ยั่งยืน สอดคล้องกัลป์ผลการวิจัยของ (ภาคีพันธ์, อ. และคณะ 2562) กล่าวไว้ว่า การสอนเรื่องการออมโดยใช้กิจกรรมการมีส่วนร่วม ทำให้นักเรียนมีทักษะการวางแผนการเงินดีขึ้น และมีนิสัยการออมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสอดคล้องกับหน่วย “ออมเป็น เห็นอนาคต” ที่เน้นการลงมือปฏิบัติและสะท้อนคิด รวมทั้งผลการวิจัยของ (แสงเดือน , พ.ศ. 2564) วิจัยเรื่อง การสร้างวินัยทางการเงินในวัยเรียน พบว่า การทำสมุดบันทึกรายรับ–รายจ่าย และสะท้อนพฤติกรรมผ่านกิจกรรมกลุ่ม ทำให้เด็กเกิดวินัยการออมอย่างต่อเนื่อง

ตรงกับขั้น V – Value Reflection ของ SAVE R Model ทั้งนี้พบได้จากงานวิจัยด้านการสอนสังคมศึกษา/เศรษฐศาสตร์พื้นฐานสมาคมครูสังคมศึกษาแห่งประเทศไทย (2563) เสนอว่า การสอนเศรษฐศาสตร์ในระดับ ม.ต้น ควรเน้น การคิดก่อนใช้ การเห็นคุณค่าการออม การแก้ปัญหาทางการเงินในชีวิตประจำวัน เชื่อมโยงโดยตรงกับเนื้อหา “ออมเป็น เห็นอนาคต” รวมทั้งผลการวิจัยของ (ศศิธร, ค. 2564) การสอนเศรษฐศาสตร์ผ่านสถานการณ์จำลอง พบว่า การเรียนรู้แบบจำลองสถานการณ์ทำให้นักเรียนเกิดการคิดวิเคราะห์-คิดเชิงระบบ และมีทัศนคติด้านการออมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นำมาใช้ในขั้น A – Active Learning

ดังนั้น การนำ SAVER Model มาใช้ในการบริหารจัดการชั้นเรียนเรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการออมเท่านั้น แต่ยังช่วยปลูกฝังความรับผิดชอบ ความมีวินัย การวางแผนชีวิต และทักษะการจัดการทรัพยากรทางการเงิน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดีในปัจจุบันและอนาคตของนักเรียนทุกคน

จากสภาพปัญหาดังกล่าวทำให้ครูผู้สอนได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการบริหารจัดการชั้นเรียน ด้วย “S A V E R Model” เรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต” สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนหนองทะเลวิทยา พบว่า แม้นักเรียนส่วนหนึ่งจะเข้าใจแนวคิดของการออมในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่ยังไม่มีวินัยทางการเงิน ขาดความต่อเนื่องในการออม และมักใช้เงินค่าขนมไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น ขนม น้ำหวาน ของเล่นชั่วครั้งคราว หรือสินค้าออนไลน์ตามเพื่อน โดยไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบหรือความจำเป็น ทำให้ไม่เหลือเงินออมเพียงพอในแต่ละสัปดาห์ บางคนถึงขั้นขอยืมเพื่อนหรือขอเงินเพิ่มจากผู้ปกครองเพื่อใช้จ่ายเกินความจำเป็น

1.2 แนวทางแก้ปัญหาและพัฒนา

จากการศึกษาสภาพปัญหาดังกล่าวครูผู้สอนมีการนำความรู้ จากการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาปรับใช้กับ SAVER Model ดังนี้

1. ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีทฤษฎีความมีวินัยในตนเอง,ทฤษฎีพัฒนาการเด็กของเพียเจต์ (Piaget) งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการออม (Saving Concept)

2. สังเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี ในการบริหารจัดการชั้นเรียน

3. ออกแบบโมเดลในการบริหารจัดการชั้นเรียน

1. S – Set Environment จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมให้ส่งเสริมการออม

1.1 จัดมุม “ออมวันละนิด” ในห้องเรียน

1.2 ติดโปสเตอร์ เป้าหมายการออม

1.3 จัดโต๊ะให้เห็นกระปุกออมทรัพย์ประจำห้อง

2. A – Active Learning ใช้กิจกรรมกระตุ้นความสนใจและลงมือปฏิบัติจริง

2.1 เล่นเกมการออมเป็น เห็นอนาคต

2.2 ให้แต่ละกลุ่มวางแผน “วางแผนวิธีการออมในชีวิตประจำวัน”

3. V – Value Awareness สร้างความตระหนักและคุณค่าของการออม

3.1 สนทนากลุ่ม : ถ้าไม่ออมจะเกิดอะไรขึ้น

3.2 วิดีทัศน์ 3 นาที “ฝันของคุณเป็นจริงได้ เริ่มต้นที่การออม”

3.3 เชื่อมโยงกับชีวิตจริง เช่น ค่าเดินทาง ค่าเรียนพิเศษ

4. E – Evaluate & Encourage ติดตามประเมินผลและให้กำลังใจ

4.1 ชมเชยเฉพาะพฤติกรรมที่ดี เช่น ออมต่อเนื่อง

4.2 จัดกิจกรรมออมแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อสร้างแรงจูงใจเชิงกลุ่ม

5. R – Reflection & Responsibility สะท้อนผลและสร้างความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมการออม

5.1 ให้นักเรียนเขียนสะท้อนคิด “ฉันเรียนรู้อะไรจากการออม”

5.2 การนำเสนอผลงานออมเป็นรายบุคคล/รายกลุ่ม

5.3 ตั้งเป้าการออมระยะยาวของนักเรียนแต่ละคน

5.4 ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อเงินของตนเอง

๔. นำไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอน เรื่อง “ออมเป็น เห็นอนาคต”

๕. เผยแพร่ผลงานในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและ website ของโรงเรียนหนองทะเลวิทยา

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

2.1 วัตถุประสงค์

1. เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการออม

2. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักเรียนผ่านกิจกรรมที่สนุก เข้าใจง่าย และเชื่อมโยงชีวิตจริง

3. เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการออมในระดับครอบครัวและชุมชน

2.2 เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

1. นักเรียน 80 % ได้เรียนรู้ในห้องเรียนที่มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้

2. นักเรียน 80 % เข้าร่วมในการทำกิจกรรมตาม SAVER Model ผ่านกิจกรรมที่สนุก ได้ลงมือปฏิบัติจริง

3. นักเรียนอย่างน้อย 80 % มีทัศนคติที่ดีต่อการออมในระดับครอบครัวและชุมชนตาม SAVER Model

เชิงคุณภาพ

1. นักเรียนมีห้องเรียนมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้

2. นักเรียนมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมที่สนุก ได้ลงมือปฏิบัติจริงเข้าใจง่าย และเชื่อมโยงชีวิตจริง

3. นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการออมในระดับครอบครัวและชุมชนตาม SAVER Model

โพสต์โดย ครูลูกไก่ : [16 ธ.ค. 2568 (13:28 น.)]
อ่าน [2361] ไอพี : 118.173.201.136
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,537 ครั้ง
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด

เปิดอ่าน 18,151 ครั้ง
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เปิดอ่าน 34,169 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"

เปิดอ่าน 11,562 ครั้ง
10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน
10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน

เปิดอ่าน 13,589 ครั้ง
8 วิธีคลายเครียดทันใจ
8 วิธีคลายเครียดทันใจ

เปิดอ่าน 27,137 ครั้ง
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?

เปิดอ่าน 22,297 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม

เปิดอ่าน 24,792 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 27,677 ครั้ง
การเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ
การเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 13,006 ครั้ง
รูดซิป"กูเกิล ดูเดิล" เปิดประวัติ "กิเดียน ซุนด์แบกด์" ผู้ให้กำเนิด"ซิป"คนแรกของโลก
รูดซิป"กูเกิล ดูเดิล" เปิดประวัติ "กิเดียน ซุนด์แบกด์" ผู้ให้กำเนิด"ซิป"คนแรกของโลก

เปิดอ่าน 21,131 ครั้ง
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"

เปิดอ่าน 19,501 ครั้ง
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป

เปิดอ่าน 38,064 ครั้ง
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.

เปิดอ่าน 486,149 ครั้ง
สมรรถนะของครู
สมรรถนะของครู

เปิดอ่าน 212,945 ครั้ง
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์
สูตรลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว...เพื่อหุ่นเป๊ะในไม่กี่สัปดาห์

เปิดอ่าน 144,176 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบ
องค์ประกอบของระบบ
เปิดอ่าน 14,343 ครั้ง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
ย่านางแดง พืชน่าสนใจ มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง
เปิดอ่าน 8,987 ครั้ง
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เปิดอ่าน 11,091 ครั้ง
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
เปิดอ่าน 20,237 ครั้ง
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว
พลังบำบัดจากน้ำมะพร้าว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ