บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพความต้องการรูปแบบ
การบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร
2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21
ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร ประชากร
ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 34 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน ครูผู้สอนโรงเรียนไตรมิตร จำนวน 33 คน 2) กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 33 คน 3) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 36 คน ประกอบด้วย 3.1) ศึกษานิเทศก์พี่เลี้ยง
ที่ร่วมกำกับ ติดตาม ให้คำปรึกษาและนิเทศในการดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริมครูในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพและชีวิตในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนไตรมิตร จำนวน 2 คน 3.2) ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 1 คน และ 3.3) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม แบบสังเกต แบบบันทึกประเด็นสนทนากลุ่มและแบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ค่า Wilcoxon Signed Ranks Test และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการการบริหารด้วยรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษ ที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร พบว่า
1.1 สภาพปัจจุบันการบริหารด้วยรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร พบว่า โรงเรียนมีการวางแผนการดำเนินงาน
ไว้ในแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ จัดทำประกาศนโยบายและข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงาน แต่ยังขาดแผนการดำเนินงานตามโครงการ ในด้านของการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรมในระดับสถานศึกษา โรงเรียนมีการพัฒนาบุคลกร โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพ
ในศตวรรษที่ 21 ไม่ต่อเนื่องและไม่ทั่วถึง รวมทั้งยังขาดการนิเทศ กำกับ ติดตาม และให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ครูผู้สอนออกแบบการจัดการเรียนรู้ไม่สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการจัด
การเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับบริบทและสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริง
1.2 ความต้องการรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพ
ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร พบว่า ความต้องการการพัฒนา โดยรวมและรายด้าน
ทุกด้าน อยู่ในระดับมาก โดยเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจาก มากไปหาน้อย ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการนิเทศ ติดตามประเมินผล ด้านการพัฒนาหลักสูตร และด้านการวิจัย
ในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ตามลำดับ
2. การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
2) การออกแบบและการพัฒนา 3) การทดลองใช้รูปแบบ และ 4) การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ
ซึ่งองค์ประกอบของรูปแบบ ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพ 4) ทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน และ 5) ปัจจัยสู่ความสำเร็จ โดยกระบวนการส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพ มีองค์ประกอบหลัก 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 (Data analysis (D) : ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 2 Design an approach (D) : ออกแบบแนวทาง ขั้นที่ 3 Take action (T) : ลงมือปฏิบัติ ขั้นที่ 4 Evaluation (E) : การประเมินผล และขั้นที่ 5 Reflection (R) : การสะท้อนผล
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร พบว่า
3.1 ผลการประเมินการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิต
และอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด
( = 4.58, = 0.46) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1
3.2 ผลการประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.65, = 0.54) ยอมรับสมมติฐานการวิจัย ข้อ 2
3.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75.79) ซึ่งผลสัมฤทธิ์สูงกว่าเกณฑ์
4. การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร พบว่า
4.1 ผลการประเมินความคิดเห็นที่มีต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด
( = 4.56, = 0.48) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 3
4.2 ผลจากการสนทนากลุ่มร่วมกัน โดยผู้วิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ศึกษานิเทศก์พี่เลี้ยง ผู้บริหารและครู สรุปว่า รูปแบบการบริหารสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพในศตวรรษที่ 21
ของนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร ทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสม และสอดคล้องซึ่งกันและกัน เป็นกระบวนการ
ที่ส่งเสริมให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง ขั้นตอนแต่ละขั้นตอนมีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน โดยครูมีความมุ่งมั่นจริงใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อนำไปสู่การจัดการเรียนรู้ด้วยความเต็มใจ ร่วมมือกัน มีความรับผิดชอบในการทำงาน และ
มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผู้บริหารตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายที่สามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะชีวิตและอาชีพ ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ สื่อ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกและสร้างขวัญกำลังใจให้กับครู เพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ