ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน โดยเน้นการปฏิบัติรายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

รายงานผลการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน โดยเน้นการปฏิบัติ

รายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตร

นายกิตติพิศุทธิพันธุ์ คำโมง

ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะครูชำนาญการ

โรงเรียนกัลยาณวัตร อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาขอนแก่น เขต 25

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

กระทรวงศึกษาธิการ

1. บทนำ

“ทัศนศิลป์” (Visual Arts) เป็นสาระหนึ่งของสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระศิลปะ

เป็นคำที่พึ่งนำมาใช้ในวงการศิลป์เมื่อไม่กี่ปีมานี้(วิรุณ ตั้งเจริญ.2543:11.อ้างใน อมรรัตน์ ทิมจิตร) หมายถึงศิลปะที่สามารถสื่อสารด้วยสายตา สามารถมองเห็นได้หรือสัมผัสได้ด้วยจักษุประสาท โดยยึดโลกหรือวัตถุที่ประจักษ์ได้เป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการแสดงออกทางศิลปะ การสร้าง (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ2544:บทนำ) การสร้างงานสาขาต่างๆในกลุ่มงานทัศนศิลป์ได้แก่ รูปลักษณะใหม่ๆทั้งที่เป็นความแปลกใหม่ของลักษณะผลงานและหลักวิธีการใหม่ๆในกระบวนการสร้างงานทัศนศิลป์ (ชัยยุทธ รัตตนานุกูล2540:48) องค์ประกอบของงานทัศนศิลป์ สุชาติ เถาทอง ๖2538:67 ) กล่าวว่า โครงสร้างของงานทัศนศิลป์ประกอบด้วยดุลยภาพ (Balance) สัดส่วน(Property) ความกลมกลืน(Harmony) ช่วงจังหวะ(Rhythm) และจุดเด่นของงานศิลปะ(Dominance) ซึ่งหลักการนี้อาจจะไม่ได้เป็นองค์ประกอบตายตัวทั้งหมดแต่การจัดการผลงานสร้างสรรค์เป็นผลงานที่ต้องใช้ความรู้ทางด้านศิลปะสร้างสรรค์ผลงานให้มีความงดงามเหมาะสม งดงามได้สัดส่วน อย่างไรก็ตามการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ก็ต้องอาศัยหลักการโครงสร้างงานทัศนศิลป์เข้าช่วย

ผู้ศึกษาได้รับผิดชอบในรายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตร ซึ่งจากประสบการณ์การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาขาทัศนศิลป์และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับครูผู้สอนในสาระทัศนศิลป์ ทั้งภายในโรงเรียนและต่างโรงเรียน พบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในสาระทัศนศิลป์ยังไม่สามารถพัฒนาผู้เรียนได้ตามวัตถุประสงค์ นักเรียนส่วนมากยังขาดความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีคุณภาพ เพราะนักเรียนยังขาดความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเรื่องทัศนศิลป์จึงทำให้ขาดทักษะการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ การถ่ายทอดผลงานศิลปะยังไม่สมบูรณ์ตามหลักการขององค์ประกอบทัศนศิลป์ และที่สำคัญยังขาดความสนใจ ความใส่ใจต่อการเรียนในสาระทัศนศิลป์ ยังมองไม่เห็นคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ว่ามีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน การนำไปใช้ในการดำรงชีวิต และการศึกษาต่อในด้านสาระทัศนศิลป์ ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาหาแนวทางในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในสาระทัศนศิลป์ โดยศึกษาวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ผู้ศึกษามีความสนใจรูปแบบการสอนที่สอดคล้องกับเนื้อหาวิชาทัศนศิลป์ ซึ่งสาระวิชาทัศนศิลป์นี้เป็นสาระที่มีทั้งความรู้ความเข้าใจในเรื่องงานเส้นและการนำความรู้เรื่องงานเส้นมาสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์และนำทักษะมาใช้สร้างสรรค์งานที่เกิดประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในวิชาชีพด้านการออกแบบต่างๆ เช่น การออกแบบเสื้อผ้า เครื่องประดับ การการออกแบบอาคารที่อยู่อาศัย หรือการนำทักษะด้านทัศนศิลป์มาผลิตผลงานจิตรกรรมเพื่อสังคม เพื่อการค้าโดยนักเรียนสามารถจัดแสดงผลงานทางทัศนศิลป์ตามจินตนาการของตนเองโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม สามารถเลือกและนำเทคนิควิธีการของศิลปินมาประยุกต์ใช้ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจและเห็นคุณค่าของงานศิลป์ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยและสากล ดังนั้นผู้ศึกษาจึงได้ศึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมที่เน้นการฝึกทักษะและประสบการณ์ที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ มีทักษะสร้างสรรค์ผลงานด้านทัศนศิลป์และนำเสนอผลงาน และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้ศึกษาได้ศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาผู้เรียนทั้งองค์ความรู้และพัฒนาทักษะผู้เรียนควบคู่กันไปเช่นกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นต้น จึงพบว่าการจัดกิจกรรมการเรียนที่พัฒนาผู้เรียนควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะมีหลายวิธี และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเน้นการปฏิบัติเป็นวิธีหนึ่งที่พบว่าได้นำมาใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้ดีในกลุ่มรายวิชาเหล่านี้ ผู้ศึกษาจึงสนใจและได้ศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ ซึ่งเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง ปฏิบัติการที่เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการเผชิญสถานการณ์จริงและการแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากการกระทำ ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ฝึกคิด ฝึกลงมือทำ ฝึกทักษะกระบวนการต่าง ๆ ฝึกการแก้ปัญหาด้วยตนเองและฝึกทักษะ ผู้เรียนได้เรียนรู้ทั้งทางทฤษฎีและการปฏิบัติตามแนวประชาธิปไตย การพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการจัดกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติควบคู่ไปกับการประเมินสภาพจริงเป็นรูปแบบที่สามารถพัฒนาผู้เรียนทั้งทางด้านความรู้ความเข้าใจและทักษะของผู้เรียนควบคู่กันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติเป็นการนำแนวคิดทฤษฎีรูปแบบการสอนชื่อ การสืบเสาะหาความรู้เป็นกลุ่ม จอห์น ดิวอี้ (John Dewey: Group Investigation Model) กับรูปแบบการสอนแบบปฏิบัติการมาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง เนื่องจากทั้งสองรูปแบบนี้มีลักษณะ จุดมุ่งหมายกระบวนการ และผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนมีลักษณะที่สอดคล้องกัน

จากแนวคิดรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้เป็นกลุ่ม และการสอนแบบปฏิบัติการ นำมาสังเคราะห์และพัฒนาแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติได้ ต้องเชื่อว่า ความรู้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ลักษณะการออกแบบการเรียนรู้จะกระตุ้นให้ผู้เรียนค้นพบ เรียนรู้จากประสบการณ์ เรียนรู้สภาพจริง เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง มีอิสระในการปฏิบัติงาน

ดังนั้นผู้ศึกษาจึงได้เลือกแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริงมาใช้ในการพัฒนาทักษะผู้เรียนในรายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ซึ่งในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่เน้นปฏิบัติและควบคู่ไปกับการประเมินผู้เรียนตามสภาพจริง ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2558 ซึ่งผู้ศึกษามีแนวคิดว่าจะเป็นกิจกรรมที่สามารถนำมาใช้ให้พัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพในการเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์

2. วัตถุประสงค์ของการศึกษา

2.1 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา ศ41101 ทัศนศิลป์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตรโดยกำหนดเกณฑ์การประเมิน 80/80

2.2 เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน รายวิชา ศ41101 ทัศนศิลป์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตร

2.3 เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ

3. ขอบเขตของการศึกษา

3.1 กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกัลยาณวัตร อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาขอนแก่น เขต 25 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 15 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 691 คน

กลุ่มตัวอย่าง ได้จากการสุ่มจากนักเรียนที่ผู้ศึกษารับผิดชอบการสอน ในรายวิชา

ศ31101 ทัศนศิลป์ ปีการศึกษา 2558 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 7 ห้อง ผู้ศึกษาได้นำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ในกลุ่มสาระศิลปะมาหาคะแนนเฉลี่ย ของแต่ละห้อง พบว่าคะแนนเฉลี่ยของทั้ง 7 ห้อง ห้องมีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกัน ผู้ศึกษาได้นำทั้ง 7 ห้องเรียนมาสุ่มอย่างง่าย( simple random sampling : SRS ) ด้วยวิธีจับฉลากเพื่อใช้ในการทดลองได้นักเรียนชั้นห้องที่ 10 จำนวน 50 คนเป็นกลุ่มตัวอย่าง

3.2 เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา คือ เนื้อหา ในรายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

3.3 ระยะเวลาในการศึกษา คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558

3.4 ตัวแปรที่ศึกษา

3.4.1 ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ

3.4.2 ตัวแปรตาม ได้แก่

1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

2) ทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียน

3) ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ

4. ผลการศึกษา พบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 86.56 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 คิดเป็นร้อยละ 100

2. ทักษะการปฏิบัติงาน รายวิชา ศ31101 ทัศนศิลป์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80.24

3. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติ โดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.38 , S.D. = 0.70 ) .

โพสต์โดย KIKTY : [15 ม.ค. 2559 เวลา 10:57 น.]
อ่าน [3927] ไอพี : 202.29.179.176
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 79,715 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์
ระบบโทรทัศน์

เปิดอ่าน 25,493 ครั้ง
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี

เปิดอ่าน 16,084 ครั้ง
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 18,426 ครั้ง
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..

เปิดอ่าน 25,461 ครั้ง
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)

เปิดอ่าน 7,027 ครั้ง
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน

เปิดอ่าน 14,828 ครั้ง
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย
ชาวเน็ตแห่เล่น "หิมะ" ตกในเมืองไทย

เปิดอ่าน 119,589 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย

เปิดอ่าน 12,043 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย

เปิดอ่าน 9,349 ครั้ง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง

เปิดอ่าน 9,775 ครั้ง
เตือนภัยพลาสติกบรรจุอาหารต้นตอโรคเบาหวาน หัวใจ ตับ
เตือนภัยพลาสติกบรรจุอาหารต้นตอโรคเบาหวาน หัวใจ ตับ

เปิดอ่าน 15,255 ครั้ง
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”

เปิดอ่าน 14,470 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59

เปิดอ่าน 14,414 ครั้ง
แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว

เปิดอ่าน 288,875 ครั้ง
อาณาเขตประเทศไทย
อาณาเขตประเทศไทย

เปิดอ่าน 9,424 ครั้ง
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เคล็ดลับขายของออนไลน์อย่างไรไม่ขาดทุน
เปิดอ่าน 37,890 ครั้ง
5 วิธีดื่มเบียร์ไม่ให้หนุ่ม ๆ อ้วนจนพุงปลิ้น
5 วิธีดื่มเบียร์ไม่ให้หนุ่ม ๆ อ้วนจนพุงปลิ้น
เปิดอ่าน 10,750 ครั้ง
พลิกโฉม"แผนการศึกษาแห่งชาติ"แผนงานชัด-อ่านง่าย-ใช้ได้จริง
พลิกโฉม"แผนการศึกษาแห่งชาติ"แผนงานชัด-อ่านง่าย-ใช้ได้จริง
เปิดอ่าน 55,968 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
เปิดอ่าน 7,539 ครั้ง
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน
สุดเจ๋ง! หนุ่มจบ ม.6 ประดิษฐ์เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ยกหมู่บ้าน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ