|
|
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) ประเมินรูปแบบการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 40 คน ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่า (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้นักเรียนเป็นผู้ที่มีความรู้ ทักษะ คุณธรรม เป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่เหมาะสมและจากการสัมภาษณ์ครู ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า ควรให้นักเรียนระดับประถมศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางเรียนที่สูงขึ้นโดยใช้แบบฝึกทักษะที่มีเนื้อเรื่องที่เริ่มจากง่ายไปหายากและทำซ้ำเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า OLSCK-SEP มีองค์ประกอบคือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4) สาระหลัก 5) ระบบสังคม 6) หลักการตอบสนอง 7) สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 8) เงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ 9) การประเมินผล ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 8 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Orientation : O) 2) ขั้นเรียนรู้ (Learning : L) 3) ขั้นฝึกทักษะ (Skill Think : S) 4) ขั้นสร้างสรรค์ผลงาน (Create : C) 5) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (knowledge sharing : K) 6) ขั้นสรุปความรู้ (Summarize : S) 7) ขั้นประเมินผล (Evaluation : E) 8) ส่งเสริมเติมความรู้ (Promote : P) และรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.71/85.17 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับดีเยี่ยม
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารญาณ เรื่อง การคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย klompan : [11 ส.ค. 2561 เวลา 09:36 น.] อ่าน [4375] ไอพี : 1.2.142.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,835 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,069 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,788 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,012 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,176 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,894 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,008 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,771 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,483 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,161 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,938 ครั้ง
| เปิดอ่าน 89,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,709 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,245 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,535 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 4,927 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,001 ครั้ง
| เปิดอ่าน 42,579 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,476 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,679 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|