ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลน

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการ

ประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี

เทศบาลนครอุดรธานี

ผู้วิจัย นางเพ็ญพลอย ยศเตา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครอุดรธานี

จังหวัดอุดรธานี

ปีที่วิจัย พ.ศ. 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการ

ประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานีมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี(3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี(4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี เกี่ยวกับ ทักษะด้านอาชีพ รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง ขนมไทย ทักษะชีวิตและอาชีพ 4.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ขนมไทย ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี 4.2) เปรียบเทียบทักษะอาชีพก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี 4.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) คู่มือครูสำหรับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (2) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การร้อยมาลัยดอกไม้สด จำนวน 13 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ (4) แบบสังเกตพฤติกรรมทักษะอาชีพ (5) แบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย ( ) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ร้อยละ และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ (t - test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นนำ เป็นขั้นการเตรียมตัวให้พร้อม สร้างบรรยากาศให้นักเรียนสนใจในการทำกิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ใช้เชื่อมโยงกับเนื้อหาสาระที่จะเรียนโดยการสนทนาโต้ตอบ ซักถาม และแสดงความคิดเห็น

ขั้นที่ 2 ทบทวนความรูเดิม เป็นขั้นทบทวนเนื้อหาสาระเรื่องที่จะเรียนรู้ โดยใช้คำถามกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น จากประสบการณ์เดิมเชื่อมโยงกับประสบการณ์ใหม่

ขั้นที่ 3 ปรับเปลี่ยนความคิด มี 3 กิจกรรม

ทำความกระจ่างแลกเปลี่ยนเรียนรู เป็นขั้นที่ครูแนะนำวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่น

ให้นักเรียนทราบ วิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่นเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนมไทยแต่ละชนิดที่มีในชุมชนและสร้างอาชีพ

การสร้างความคิดใหม่ เป็นขั้นที่ครูนำเสนอเนื้อหาสาระใหม่ที่ต้องการกระตุ้นให้

นักเรียนสนใจ เกิดขึ้น เป็นการกระตุ้นเร้าให้นักเรียนคิดหาวิธีทำ คำตอบตามเรื่องที่สอนสืบค้นด้วยสื่อที่เป็นของจริง การศึกษาดูงานแหล่งเรียนรู้ ภาพ เพื่อร่วมกันค้นหาคำตอบของกลุ่มจากการพูดคุยกับภูมิปัญญา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พิจารณา ข้อมูลที่ได้รับโดยใช้ประสาทสัมผัสในการสำรวจ สังเกต หรือทดลองและสรุปข้อมูล ซึ่งครูจะเข้าไปช่วยเหลือแนะนำเมื่อนักเรียนเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ

ประเมินความคิดใหม่ เป็นขั้นที่นักเรียนนำเสนอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากสิ่งที่ค้นพบโดยการออกมาเล่าหน้าชั้นเรียนจัดแสดงผลงานของกลุ่มบนป้ายนิเทศหรือ มุมแสดงผลงาน แลกเปลี่ยน เรียนรู้กับเพื่อนกลุ่มอื่น

ขั้นที่ 4 ขั้นนำความคิดไปใช้ เป็นขั้นที่ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามความรู้เกี่ยวกับ

การทำขนมไทย หรือปัญหาที่นักเรียนพบและต้องการแก้ไขเพื่อนำไปใช้ในคราวต่อไป

ขั้นที่ 5 ทบทวน เป็นขั้นที่ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อย จากเรื่องขนมไทยที่นักเรียนได้ลงมือทำ

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00- 4.80) และความคิดเห็นของครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี มีผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.70, S.D. = 0.47)

3. ผลการศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี มีทักษะอาชีพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานีทำให้นักเรียนมีทักษะอาชีพและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้

1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะอาชีพหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานีสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เรื่องขนมไทย โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี เทศบาลนครอุดรธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย เพ็ญพลอย ยศเตา : [31 มี.ค. 2562 เวลา 08:50 น.]
อ่าน [3505] ไอพี : 184.22.109.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,379 ครั้ง
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม

เปิดอ่าน 13,616 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 107,344 ครั้ง
กรรม คือ อะไร?
กรรม คือ อะไร?

เปิดอ่าน 2,076 ครั้ง
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้
ภาวะ LONG COVID เกิดได้ในเด็กและวัยรุ่น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดภาวะรุนแรงได้

เปิดอ่าน 12,899 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ

เปิดอ่าน 18,743 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ ชา
ประโยชน์และโทษของ ชา

เปิดอ่าน 18,727 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 10,194 ครั้ง
ตรุษจีน 58 กับเรื่อง ปีชง...เอาที่สบายใจ
ตรุษจีน 58 กับเรื่อง ปีชง...เอาที่สบายใจ

เปิดอ่าน 34,365 ครั้ง
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”

เปิดอ่าน 86,612 ครั้ง
สรุปสูตร วงกลม
สรุปสูตร วงกลม

เปิดอ่าน 9,569 ครั้ง
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"
"อยากไปโรงเรียน" โจทย์ใหญ่? พ่อแม่ช่วยลูกได้..ด้วย "สนุก"

เปิดอ่าน 13,202 ครั้ง
5 สิ่งมหัศจรรย์ (ทางเลือก) ของโลก
5 สิ่งมหัศจรรย์ (ทางเลือก) ของโลก

เปิดอ่าน 29,033 ครั้ง
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน

เปิดอ่าน 2,597 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง

เปิดอ่าน 9,948 ครั้ง
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?
สแกน...ลดเวลาเรียน "3 สัปดาห์"บรรลุเป้า?

เปิดอ่าน 325,580 ครั้ง
  ภาษาไทยเขียนอย่างไร...?  ให้ถูกต้อง
ภาษาไทยเขียนอย่างไร...? ให้ถูกต้อง
เปิดอ่าน 8,524 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 43,944 ครั้ง
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
5 ผักธรรมดาที่ไม่ธรรมดา กินมากไประวังอาการเหล่านี้!!
เปิดอ่าน 15,463 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?
เปิดอ่าน 20,743 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ