ชื่อผู้วิจัย กชมล จันทร์ดอน
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัดการเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล 3) เพื่อศึกษาผลการจัด การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัดการเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการงานพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis) ขั้นตอนที่ 2 ออกแบบและพัฒนา (Design & Development) ขั้นตอนที่ 3 การนำไปใช้ (Implement) และขั้นตอนที่ 4 การประเมิน (Evaluation) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครู และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอุบลรัตน-ราชกัญญาราชวิทยาลัย พัทลุง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ปีการศึกษา 2560-2561 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสำรวจความสนใจในการเรียนรู้ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถามความคิดเห็น คู่มือการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ ชุดกิจกรรม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยตรวจสอบหาคุณภาพความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) และวิเคราะห์ค่าความยาก (P) ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่น (KR-20) และค่าความเที่ยง ( ) สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สถิติพื้นฐาน คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติที่ทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) และ ค่าประสิทธิผล (E.I.) ค่าที t-test ผลการวิจัยพบว่า
1. ความคิดเห็นที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความเห็นว่า เหมาะสมในการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัดการเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) มีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) มากกว่า 80/80 และมีค่าประสิทธิผลมากกว่า 50.00
3. ผลการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัดการเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) ดังนี้
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัด การเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) โดยภาพรวมครู และนักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
ดังนั้น สรุปได้ว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยวิธีวิทยาการการจัดการเรียนรู้โดยใช้บันได 5 ขั้น (Steps for Student Development) มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและพัฒนาการฟัง ดู พูด และเขียน กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นอย่างมาก และยังช่วยยกระดับคุณภาพทางการศึกษาของนักเรียนและครูอีกด้วย