ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง นานาสาระกฎหมายน่ารู้ โดยใช้รูปแบบ การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) เพื่อเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย ปัญญา พรยา
สังกัด โรงเรียนตลาดไทรพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง นานาสาระกฎหมายน่ารู้ โดยใช้รูปแบบ การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) เพื่อเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับใช้พัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทำการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ประเมินผล และปรับปรุง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนตลาดไทรพิทยาคม ตำบลตลาดไทร อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 31 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้อง 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) แผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test Dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ
ผลการศึกษาพบว่า
1. นักเรียนและผู้เกี่ยวข้องเห็นว่า องค์ประกอบต้องให้ครบตามรูปแบบของการสร้าง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นเนื้อหาที่นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ควรมีรูปภาพประกอบ ใช้วิธีการเรียนรู้ที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ง่าย นักเรียนได้ใช้สื่อทุกอย่างในชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึง โดยครูคอยดูแลและให้คำแนะนำนักเรียนและการวัดผลและประเมินผลควรใช้เครื่องมือที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
2. คู่มือครูและชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค กลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 ค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 72.08/71.11 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มย่อย (Small Group Tryout) เท่ากับ 76.39/75.92 และค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) เท่ากับ 82.92/81.92
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง นานาสาระกฎหมายน่ารู้ โดยใช้รูปแบบ การเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) เพื่อเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า มีประสิทธิภาพ คือ E1/E2 เท่ากับ 84.76/83.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. การประเมินผลและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง นานาสาระกฎหมายน่ารู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง นานาสาระกฎหมายน่ารู้ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ ด้วยเทคนิคกลุ่มสัมฤทธิ์ (STAD) โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผลการปรับปรุงแก้ไข มีการปรับปรุง การพิมพ์ สะกดคำให้ถูกต้อง ชัดเจน มีภาพประกอบเนื้อหามากขึ้น ปรับปรุงเนื้อหากิจกรรมการอ่าน ปรับปรุงข้อคำถาม ปรับปรุงกิจกรรมเพิ่มเติม และปรับปรุงระยะเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม ให้เหมาะสมกับเนื้อหามากยิ่งขึ้น