ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะชีวิตโดยใช้กระบวนการลูกเสือ โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

เรื่อง : รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะชีวิตโดยใช้กระบวนการลูกเสือ

โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

ผู้รายงาน : นายชาญชัย ชุ่มเมืองเย็น

ปีที่พิมพ์ : 2565

……………………………………………………………………………………………………….

รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะชีวิตโดยใช้กระบวนการลูกเสือ โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ใช้รูปแบบ CIPPIEST Model มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบท (Context Evaluation) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) และประเมินผลผลิต (Product Evaluation) ซึ่งผลผลิตประกอบด้วยส่วนขยายดังนี้ ประเมินผลกระทบ (Impact Evaluation) ประเมินประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ประเมินความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) และประเมินการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation) โดยดำเนินโครงการในปีการศึกษา 2564 เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากร จำนวน 132 คน ประกอบด้วย ครู จำนวน 7 คน บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 2 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียน จำนวน 58 คน และผู้ปกครอง จำนวน 58 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จำนวน 13 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สามารถสรุปผลการประเมินดังนี้

สรุปผลการประเมิน

ผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะชีวิตโดยใช้กระบวนการลูกเสือ โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ใช้รูปแบบ CIPPIEST Model สรุปผลดังนี้

1. ผลการประเมินบริบท (Context Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมาก โดยค่าเฉลี่ยสูงสุดสองอันดับแรก ได้แก่ วัตถุประสงค์โครงการมีความชัดเจนในการพัฒนาทักษะชีวิตนักเรียน โดยใช้กระบวนการลูกเสือ และมีการศึกษาสภาพปัญหาที่เกิดกับผู้เรียนก่อนดำเนินงานโครงการ ตามลำดับ

2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมากที่สุด โดยค่าเฉลี่ยสูงสุดสองอันดับแรก ได้แก่ สื่อ เอกสาร ที่ใช้ในการพัฒนาทักษะชีวิตนักเรียน ตรงตามเนื้อหาของหลักสูตร และจำนวนครูร่วมพัฒนาโครงการมีความเหมาะสม ตามลำดับ

3. ผลการประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู และบุคลากรทางการศึกษา พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมากที่สุด เรียงลำดับค่าเฉลี่ย แต่ละกระบวนการจากมากไปหาน้อย และรายละเอียดรายการค่าเฉลี่ยสูงสุดในแต่ละกระบวนการ ดังนี้ ลำดับแรกคือ กระบวนการพัฒนาด้านสติปัญญา ค่านิยม และเจตคติ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ในกระบวนการนี้ ได้แก่ มีการพัฒนาด้านสติปัญญา ค่านิยม และเจตคติที่ช่วยให้นักเรียน มีเจตคติที่ดีต่อวิชาลูกเสือ ลำดับที่สองคือ กระบวนการพัฒนาด้านร่างกายและสิ่งแวดล้อม ค่าเฉลี่ยสูงสุดในกระบวนการนี้ ได้แก่ มีการดำเนินการพัฒนาด้านร่างกายและสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยให้นักเรียนมีทักษะในการดูแลสุขภาพตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ ถัดมาคือ กระบวนการพัฒนาด้านจิตใจ ศีลธรรม และสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ค่าเฉลี่ยสูงสุดในกระบวนการนี้ ได้แก่ มีการใช้สื่อ อุปกรณ์ แต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับเนื้อหาการพัฒนาด้านจิตใจศีลธรรม และสัมพันธภาพระหว่างบุคคล ลำดับสุดท้าย คือ กระบวนการพัฒนาด้านสัมพันธภาพกับชุมชนและสังคม ค่าเฉลี่ยสูงสุดในกระบวนการนี้คือ มีการพัฒนาด้านสัมพันธภาพกับชุมชนและสังคม ที่ให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม

4. ผลการประเมินผลผลิต (Product Evaluation) นำเสนอตามส่วนขยายของผลผลิตดังนี้

4.1 ผลการประเมินผลกระทบ (Impact Evaluation) ที่เกิดเกินเป้าหมายของโครงการ ตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครอง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมากที่สุด ซึ่งค่าเฉลี่ยสูงสุดสองอันดับแรกตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ นักเรียนมีความภาคภูมิใจและมีความสุขจากการเรียนรู้ในโรงเรียน ส่วนนักเรียน และผู้ปกครอง มีความเห็นว่า นักเรียนไม่กระทำตนให้เป็นปัญหาของสังคม และอันดับที่สองทั้งครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และ ผู้ปกครอง มีความเห็นสอดคล้องกันคือ นักเรียนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข ส่วนด้านผลงานและรางวัลที่เกิดจากการบริหารโครงการ พบว่า โรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ ได้รับคัดเลือกเป็นโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายชาญชัย ชุ่มเมืองเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฮ่องแฮ่ ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน

4.2 ผลการประเมินประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู และบุคลากรทางการศึกษา พบว่า โดยรวมนักเรียนมีความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตอยู่ในระดับ ดีเยี่ยม เรียงลำดับค่าเฉลี่ยองค์ประกอบทักษะชีวิตจากมากไปหาน้อย และรายละเอียดพฤติกรรมทักษะชีวิตที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดแต่ละองค์ประกอบ ดังนี้ อันดับแรกคือ องค์ประกอบที่ 4 การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น พฤติกรรมทักษะชีวิตสูงสุด ได้แก่ ให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ อันดับที่สองคือ องค์ประกอบที่ 1 การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น พฤติกรรมทักษะชีวิตสูงสุด ได้แก่ เคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น ลำดับถัดมามีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ องค์ประกอบที่ 2 การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ พฤติกรรมทักษะชีวิตสูงสุด ได้แก่ วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารได้อย่างเหมาะสม และองค์ประกอบที่ 3 การจัดการกับอารมณ์และความเครียด พฤติกรรมทักษะชีวิตสูงสุด ได้แก่ มีวิธีผ่อนคลายอารมณ์และความเครียด

4.3 ผลการประเมินความยั่งยืน (Sustainability Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครอง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมากที่สุด ซึ่งค่าเฉลี่ยสูงสุดสองอันดับแรกที่ทั้งครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครอง มีความเห็นสอดคล้องกัน ได้แก่ การดำเนินโครงการเกิดประโยชน์เหมาะสมแก่การพัฒนาต่อยอดให้เกิดความยั่งยืน อันดับที่สองตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า มีแผนงานการพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนนักเรียนและผู้ปกครองเห็นว่า มีการพัฒนาต่อยอดกิจกรรมลูกเสือที่เน้นการพัฒนาทักษะชีวิต ที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและชุมชน

4.4 ผลการประเมินด้านการถ่ายทอดส่งต่อ (Transportability Evaluation) ตามความคิดเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน และผู้ปกครอง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับได้ผลดีมากที่สุด ซึ่งค่าเฉลี่ยสูงสุดสองอันดับแรกดังนี้ ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกตามความเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ มีการขยายผลให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนากิจการลูกเสือให้แก่โรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย และในเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนนักเรียนและผู้ปกครอง เห็นว่า มีการนำเสนอผลงาน รางวัล ที่เกิดจากการบริหารโครงการ ให้ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ลำดับที่สองตามตามความเห็นของครู บุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ มีการนำเสนอผลงาน รางวัลที่เกิดจากการบริหารโครงการให้ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานอื่น ที่เกี่ยวข้อง ส่วนนักเรียนและผู้ปกครอง เห็นว่า มีการเผยแพร่ผลงานที่เกิดจากการบริหารโครงการ แก่สาธารณชนอย่างหลากหลาย

โพสต์โดย ผอ.เบนซ์ : [22 มิ.ย. 2565 เวลา 07:49 น.]
อ่าน [2032] ไอพี : 182.53.197.221
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,865 ครั้ง
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?

เปิดอ่าน 33,436 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง
กางปฏิทินปี 56 เฮหยุดยาว ช่วงละ 3วัน ปีเดียว 9 ครั้ง

เปิดอ่าน 9,901 ครั้ง
“ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า”
“ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า”

เปิดอ่าน 14,698 ครั้ง
เป็นเบาหวาน ทานวุ้นเส้น ดีจริงหรือ?
เป็นเบาหวาน ทานวุ้นเส้น ดีจริงหรือ?

เปิดอ่าน 13,536 ครั้ง
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน

เปิดอ่าน 17,626 ครั้ง
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้

เปิดอ่าน 17,332 ครั้ง
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท
"ครูโซ่" คือใคร ใครคือ "ครูโซ่" มาดูลีลาสอนวิชา "คณิตศาสตร์" สุดจี๊ด ท

เปิดอ่าน 17,179 ครั้ง
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย
เลือกหมอนให้นอนหลับสบาย

เปิดอ่าน 53,288 ครั้ง
ความหมายของเทคโนโลยี
ความหมายของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 5,644 ครั้ง
วันเกิด...บอกนิสัยการทำงาน
วันเกิด...บอกนิสัยการทำงาน

เปิดอ่าน 20,696 ครั้ง
การศึกษาในอนาคต
การศึกษาในอนาคต

เปิดอ่าน 19,313 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 8,562 ครั้ง
  เปิดวงวิพากษ์อินเทอร์เน็ต โลกเสมือนคนยุคใหม่
เปิดวงวิพากษ์อินเทอร์เน็ต โลกเสมือนคนยุคใหม่

เปิดอ่าน 28,384 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก

เปิดอ่าน 22,467 ครั้ง
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย

เปิดอ่าน 10,898 ครั้ง
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
เปิดอ่าน 24,544 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
เปิดอ่าน 11,868 ครั้ง
การทดลองน่าทึ่ง เมื่อญี่ปุ่นทดสอบความซื่อสัตย์ของเด็ก ผลปรากฏว่า..
การทดลองน่าทึ่ง เมื่อญี่ปุ่นทดสอบความซื่อสัตย์ของเด็ก ผลปรากฏว่า..
เปิดอ่าน 16,186 ครั้ง
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3
การตากข้าว สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3
เปิดอ่าน 14,282 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ