แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๒๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
ภาคเรียนที่ ๒ เรื่อง คำที่ประสมด้วย สระ - อ มีตัวสะกด เวลา ๑ ชั่วโมง
สอนวันที่
..
. เดือน ......................... พ.ศ. ............. สอนโดยนางกนกวรรณ วงษ์ชาลี
รูปแบบการเรียนการสอน : ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้และการเรียนรู้แบบร่วมมือ ๕ ขั้นตอน
๑. สาระที่ ๑ การอ่าน
๒. มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน
๓. ตัวชี้วัดที่ ท ๑.๑ ป.๒/๒ อธิบายความหมายของคำที่ประสมด้วย สระ อ มีตัวสะกด
๔. สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษา
๕. มาตรฐานการเรียนรู้ที่
ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
๖. ตัวชี้วัดที่ ท ๔.๑ ป.๒/๓ การแต่งประโยค ด้วยคำที่ประสมด้วย สระ อ มีตัวสะกด
๗. สาระสำคัญ
การเรียนรู้คำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด นักเรียนต้องเรียนรู้ทั้งในด้านองค์ประกอบของคำ ความหมายของคำที่อ่านและเขียน และหลักการใช้ภาษาไทยของคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด ทั้งด้านการอ่านและการเขียน ประโยค หมายถึง ข้อความที่มีทั้งภาคประธานและภาคแสดง ภาคประธาน คือ ส่วนของผู้แสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ภาคแสดง คือ ส่วนของการแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ โดยจะต้องมีคำกริยา
คำที่ประสมด้วยสระ ออ ที่มีตัวสะกด มีลักษณะดังนี้คือ ๑. สระ อ มีตัวสะกด สระ อ ยังคงรูป สระ อ เหมือนเดิม เช่น นอน ค้อน ของ งอก ปลอก หมอน เป็นต้น ๒. สระ อ มีตัวสะกดที่เป็นตัว ร สะกด สระ อ จะลดรูปหายไปทั้งหมด เหลือแต่พยัญชนะต้น และตัวสะกด ร เท่านั้น เช่น กร พร ละคร สัญจร วานร เป็นต้น การอ่านคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด คือ อ่านคำที่ประสมระหว่างพยัญชนะต้น สระ วรรณยุกต์ และมีตัวสะกด เช่น จอง อ่านว่า จอง บอก อ่านว่า บอก ค้อน อ่านว่า ค้อน ตอน อ่านว่า ตอน วานร อ่านว่า วา นอน ละคร อ่านว่า ละ คอน เป็นต้น ถ้านักเรียนสามารถอ่านคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกดได้ถูกต้องรวดเร็ว ก็จะนำไปสู่การเขียนคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด และใช้คำได้ถูกต้อง
ตามหลักเกณฑ์ของภาษาไทย เพื่อให้การเรียนรู้และการใช้คำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด และนำไปใช้ให้ถูกต้อง จึงจะถือว่าการเรียนภาษาไทยเกี่ยวกับคำที่ประสมด้วยสระ ออ ที่มีตัวสะกด ประสบความสำเร็จ
๘. จุดประสงค์การเรียนรู้
๘.๑ นักเรียนบอกความหมายของคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกดได้ (K)
๘.๒ นักเรียนอ่านคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกดได้ (P)
๘.๓ นักเรียนเขียนคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกดได้ (P)
๘.๔ นักเรียนสร้างคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๔ คำ พร้อมนำคำไปแต่งประโยค ลงในกระดาษ หรือสมุดภาษาไทยได้ (P)
๘.๕ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความรับผิดชอบในการทำงานกลุ่ม (A)
๙. สาระการเรียนรู้
๙.๑ ความรู้ (K)
๙.๑.๑ ตัวอย่างการสร้างคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๔ คำ ดังนี้ ๑) ค้อน ๒) ผีหลอก ๓) กระรอก ๔) จราจร
๙.๑.๑ ตัวอย่างการแต่งประโยคด้วยคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๓ คำ
- ค้อน = พี่ใช้ค้อนตีตะปู
- ผีหลอก = เมื่อคืนฉันฝันว่า โดยผีหลอก
- กระรอก = กระรอกเป็นสัตว์ที่น่ารัก
- จราจร = คุณพ่อเป็นตำรวจจราจร
๙.๒ ทักษะ/ กระบวนการ/ กระบวนการคิด
๙.๒.๑ ความสามารถในการสื่อสาร (ฟัง พูด อ่าน เขียน)
๙.๒.๒ ความสามารถในการคิด (วิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุป)
๙.๒.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา
๙.๒.๔ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (ทำงานแบบรวมพลัง สื่อสาร)
๙.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีความรับผิดชอบ และความมุ่งมั่นในการทำงานกลุ่ม
๑๐. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ ๑ กระตุ้นและเตรียมความพร้อม (๕ นาที)
๑. นักเรียนฟังคำชี้แจงและลำดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จุดประสงค์ และสิ่งที่นักเรียนต้องเตรียมในชั่วโมงนี้
๒. นักเรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกับ คำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด ด้วยการเล่านิทาน เรื่อง หนู อ ขี้อาย และเล่นเกมปริศนาคำทายแล้วให้นักเรียนทายปริศนาคำทายจากนิทาน คำตอบคือคำว่าอะไร โดยครูนำบัตรอักษร สาธิตตำแหน่งของ สระ อ โดยให้ สระ อ อยู่ตรงกลางระหว่างพยัญชนะต้น กับตัวสะกดและอ่านสะกดคำ ดังนี้ (ยอ ออ มอ ยอม อ่านว่า ยอม) ครูชมเชยนักเรียนทันทีที่นักเรียนตอบถูก
ขั้นที่ ๒ ขั้นทบททวนความรู้เดิม (๑๐ นาที)
๓. ครูกระตุ้นนักเรียนโดยการบอกกล่าวอีกครั้งว่า
- นักเรียนได้รู้จัก สระ อ ที่มีตัวสะกดแล้ว นักเรียนมาทบทวนคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด ด้วยกัน
- นักเรียนนำหนังสือภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เปิดหนังสือหน้าที่ ๑๔๙ เพื่อเตรียมตัวในการอ่านออกเสียง บทที่ ๙ รักพ่อรักแม่ ในส่วนเรื่อง อธิบายเพิ่ม เติมความรู้
๔. ครูขออาสาสมัครผู้นำอ่าน หนังสือภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ หน้าที่ ๑๔๙ ในส่วนเรื่อง อธิบายเพิ่ม เติมความรู้ จำนวน ๑ คน โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำอ่าน อ่านคำละ ๒ ครั้งและครูแนะนำว่า ตาดู หูฟัง มือชี้ ปากอ่าน สมองคิด ให้ทุกคนพร้อม แล้วอ่านออกเสียงพร้อมกัน
๕. นักเรียนอ่านพร้อมกันกับผู้นำอ่าน โดยให้นักเรียนทุกคนฟังผู้นำอ่านเป็นหลัก ห้ามอ่านก่อนผู้นำอ่าน หรืออ่านช้ากว่าผู้นำอ่าน ให้อ่านพร้อม ๆ กันทุกคน อ่านออกเสียงให้ชัดเจน เป็นจังหวะที่เหมาะสม ไม่ช้า หรือเร็วจนเกินไป
๖. เมื่อนักเรียนอ่านเสร็จ ครูและนักเรียนช่วยกันบอกได้ว่า คำที่ประสมด้วย สระ อ หน้าที่ ๑๔๙ เป็นคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด ครูชมเชยนักเรียนทุกคนที่ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
๗. ครูนำบัตรคำ จำนวน ๓ คำ (ร้องไห้ หมอน ลูกศร) แล้วให้นักเรียนช่วยกันสังเกตคำที่ประสมด้วย สระ อ จากบัตรคำ แล้วถามคำถามนักเรียนต่อไปนี้
- จากคำที่ครูให้อ่าน มีคำพยางค์ใดบ้างที่ประสมด้วย สระ อ (ร้อง, หมอน, ศร)
- คำที่นักเรียนเห็น สระ อ ตำแหน่งจะวางอยู่ที่ตรงไหนของพยัญชนะต้น (อยู่หลังพยัญชนะต้น)
- ถ้าคำที่ประสมด้วย สระ อ มีตัวสะกด สระ อ จะยังคงรูปอยู่หรือไม่อย่างไร (คงอยู่)
- มีคำใดบ้างที่ไม่มีรูป สระ อ แต่เป็นคำที่ประสมด้วย สระ อ เพราะอะไร (จร เพราะมี ร เป็นตัวสะกด สระ อ จะลดรูปหายไป) นักเรียนตอบคำถามร่วมกันได้ถูกต้องครูชมเชยนักเรียนทันที ถ้านักเรียนตอบคำถามไม่ชัดเจน ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติม
ขั้นที่ ๓ ขั้นสอนและสร้างความรู้ใหม่ (๓๐ นาที)
๘. นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๗ ๙ คน แล้วให้นักเรียนภายในกลุ่มแต่งตั้งหัวหน้ากลุ่ม รองหัวหน้า เลขากลุ่ม และคณะกรรมการกลุ่ม พร้อมตั้งชื่อกลุ่ม
๙. นักเรียนทุกกลุ่มดูจอโปรเจ็กเตอร์ (ภาคผนวก) พร้อมทายคำจากภาพ ซึ่งคำจากภาพจะต้องเป็นคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๔ ภาพ พร้อมอ่านประโยคที่ครูนำคำจากภาพแต่ละข้อมาแต่งประโยค เพื่อเป็นการสร้างความรู้ใหม่เกี่ยวกับความหมายของคำให้ชัดเจนขึ้น ดังต่อไปนี้
- ภาพที่ ๑ จากภาพที่นักเรียนเห็น เป็นภาพอะไร (ค้อน) ชมเชยนักเรียนทันทีที่นักเรียนตอบได้ถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนอ่านประโยค ดังนี้ ค้อน = พี่ใช้ค้อนตีตะปู
- ภาพที่ ๒ จากภาพที่นักเรียนเห็น เป็นภาพอะไร (ผีหลอก) ชมเชยนักเรียนทันทีที่นักเรียนตอบได้ถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนอ่านประโยค ดังนี้ ผีหลอก = เมื่อคืนฉันฝันว่า โดนผีหลอก
- ภาพที่ ๓ จากภาพที่นักเรียนเห็น เป็นภาพอะไร (กระรอก) ชมเชยนักเรียนทันทีที่นักเรียนตอบได้ถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนอ่านประโยค ดังนี้ กระรอก = กระรอกเป็นสัตว์ที่น่ารัก
- ภาพที่ ๔ จากภาพที่นักเรียนเห็น เป็นภาพอะไร (จราจร) ชมเชยนักเรียนทันทีที่นักเรียนตอบได้ถูกต้องเหมาะสม
- นักเรียนอ่านประโยค ดังนี้ จราจร = คุณพ่อเป็นตำรวจจราจร
๑๐. นักเรียนร่วมกันทำงานกลุ่ม โดยมีการดำเนินการดังนี้
- ให้แต่ละกลุ่ม ส่งตัวแทนมารับกระดาษโฟร์ชาร์ท กระดานรองสำหรับเขียนงานอุปกรณ์การเขียน ป้ายนำเสนองาน
- ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำงานในการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๔ คำ และนำคำมาแต่งประโยคให้ถูกต้องเหมาะสมมีความหมาย
- นักเรียนทำงานกลุ่มช่วยกัน โดยครูมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มช่วยดูแลการทำงานกลุ่มแทนครู เพื่อช่วยกระชับการทำงานและกระตุ้นความรับผิดชอบภายในกลุ่มให้ดียิ่งขึ้นและทันเวลา
- ครูเดินดูการทำงานกลุ่มของนักเรียน นักเรียนและครูร่วมกันให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด จำนวน ๔ คำ และนำคำมาแต่งประโยคให้ถูกต้องเหมาะสมมีความหมาย ในการทำงานเพื่อให้ชิ้นงานให้มีความชัดเจนในการนำเสนองาน ครูอาจแนะนำการเพิ่มเติมสร้างความสวยงามของชิ้นงาน เช่น ตกแต่งให้สวยงาม หรือการใช้รูปแบบอื่นในการสร้างผลงาน เช่น วาดภาพระบายสีเพิ่มเติมตกแต่งประกอบผลงานการเขียนเรื่องจากภาพ เป็นต้น
๑๑. เพื่อให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด บทที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่ ให้มากยิ่งขึ้น และเพื่อตรวจสอบความรู้ของนักเรียนที่สามารถนำความรู้มาสรุป เป็นองค์ความรู้ด้วยตนเอง สามารถนำความรู้ไปใช้งานได้ด้วยตนเอง เพื่อให้เห็นว่านักเรียนมีองค์ความรู้
ในเรื่องการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด บทที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่ ดังนั้นครูจึงมอบหมายงานให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ บทที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่ หน้าที่ ๗ (ภาคผนวก) เป็นการบ้าน พร้อมให้นักเรียนนำส่งในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับการใช้คำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด
ขั้นที่ ๔ ขั้นทบทวนและตรวจสอบผลงาน (๑๐ นาที)
๑๒. ครูให้นักเรียนที่เป็นตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงาน เมื่อนำเสนองานแต่ละกลุ่มเสร็จ ครูใช้คำถามกระตุ้นทีละกลุ่มเกี่ยวกับการสร้างคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหรือไม่ นักเรียนมีความมั่นใจในการการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกดดีขึ้นหรือไม่ นักเรียนมีความแม่นยำในการทำงานขึ้นหรือไม่ เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงความรู้ที่ได้รับมากขึ้นใช่หรือไม่ อย่างไร เป็นต้น
ขั้นที่ ๕ สรุปและประยุกต์ใช้ (๕ นาที)
๑๓. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปผลงานของแต่ละกลุ่ม แสดงความรู้สึกต่อผลงาน เพื่อเป็นการนำเสนอต่อแนวคิดต่อการจัดทำผลงานของแต่ละกลุ่มให้รับทราบถึงความเหมาะสม หรือให้มีการเพิ่มเติมให้ดีขึ้น และเพื่อต่อยอดการจัดทำผลงานของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น
๑๔. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับคำที่ประสมด้วยสระ อ ที่มีตัวสะกด มีลักษณะ ดังนี้คือ ๑. สระ อ มีตัวสะกด สระ อ ยังคงรูป สระ อ เหมือนเดิม เช่น นอน ค้อน ของ งอก ปลอก หมอน เป็นต้น ๒. สระ อ มีตัวสะกดที่เป็นตัว ร สะกด สระ อ
จะลดรูปหายไปทั้งหมด เหลือแต่พยัญชนะต้น และตัวสะกด ร เท่านั้น เช่น กร พร ละคร สัญจร วานร เป็นต้น การอ่านคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด คือ อ่านคำที่ประสมระหว่างพยัญชนะต้น สระ วรรณยุกต์ และมีตัวสะกด เช่น จอง อ่านว่า จอง บอก อ่านว่า บอก ค้อน อ่านว่า ค้อน ตอน อ่านว่า ตอน วานร อ่านว่า วา นอน ละคร อ่านว่า ละ คอน เป็นต้น
๑๕. ครูให้นักเรียนทุกคนไปอ่านทบทวนอธิบายเพิ่ม เติมความรู้ จากหนังสือภาษาพาที หน้าที่ ๑๔๘ ๑๔๙ บทที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่ อีกครั้งเป็นการบ้าน
๑๑. สื่อ / แหล่งเรียนรู้
๑๑.๑ จอโปรเจ็กเตอร์
๑๑.๒ หนังสือเรียนภาษาพาที
๑๑.๓ แบบฝึกทักษะ บทที่ ๙ เรื่อง รักพ่อรักแม่
๑๑.๔ กระดาษโฟร์ชาร์ท
๑๑.๕ อุปกรณ์การเขียน
๑๑.๖ กระดาษรองเขียน
๑๑.๗ ป้ายนำเสนอผลงาน
๑๒. การวัดผลประเมินผล
๑๒.๑ ประเมินความรู้ เรื่อง การสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกดจากการสังเกตการตอบคำถาม
๑๒.๒ ประเมินกิจกรรมด้วยแบบประเมิน
๑๒.๓ ประเมินผลงานด้วยแบบฝึกทักษะด้วยแบบประเมิน
๑๒.๔ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามกำหนดด้วยแบบประเมิน
๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ
เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้การสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ครูอาจให้แต่ละกลุ่มฝึกการสร้างคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด และฝึกการแต่งประโยคเพิ่มเติมในช่วงเวลาว่าง โดยให้คนเก่งกว่าคอยช่วยเหลือเพื่อนที่อ่อนกว่า โดยให้สามารถเรียนรู้ร่วมกับเพื่อนภายในกลุ่ม พร้อมให้ช่วยกันศึกษาแบบฝึกทักษะของวิชาภาษาไทยร่วมกัน เพื่อสร้างคุณธรรมในด้านความอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การทำงานรวมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน สร้างความเป็นนักประชาธิปไตย รู้จักความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี เป็นผู้รู้จักอดทน รอคอย และเป็นผู้มีเหตุผลที่ดี เป็นต้น
๑๕. บันทึกผลหลังกระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. การดำเนินการจัดการเรียนรู้ (✓) เป็นไปตามแผน ( ) ไม่เป็นไปตามแผน
๒. ผลการจัดการเรียนรู้
๒.๑) ความเหมาะสมของระยะเวลา (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
๒.๒) ความเหมาะสมของเนื้อหา (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
๒.๓) ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนการสอน (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
๒.๔) ความเหมาะสมของสื่อการสอนที่ใช้ (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรง
๒.๕) พฤติกรรม/การมีส่วนร่วมของนักเรียน (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
๒.๖) ผลการปฏิบัติกิจกรรม (✓) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ต้องปรับปรุง
๒.๖.๑) การประเมินผลด้านความรู้หลังการเรียน
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ (✓) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อื่น ๆ มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐ และมีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
๒.๖.๒) การประเมินผลด้านทักษะกระบวนการ
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ (✓) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม (✓) แบบสังเกต ( ) อื่น ๆ มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐ และมีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
๒.๖.๓) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์
โดยใช้ ( ) แบบทดสอบ (✓) แบบประเมิน ( ) แบบสอบถาม ( ) แบบสังเกต ( ) อื่น ๆ มีนักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน ๓๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐ และมีนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวน - คน คิดเป็นร้อยละ -
๓. ปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้
( ) ไม่มี
(✓) มี ปัญหาที่พบ คือ การอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วย สระ อ ที่มีตัวสะกด
โดยเฉพาะ ตัวสะกดที่เป็นตัว ร นักเรียนยังอ่าน และเขียนยังไม่คล่อง แต่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับคำดังกล่าวเป็นอย่างดี สามารถอ่าน และเขียนได้ แต่ไม่คล่องเท่านั้น ดังนั้นต้องให้เวลาในการเรียนรู้ให้มากยิ่งขึ้น มีการฝึกอ่านและเขียนให้มากยิ่งขึ้น
๔. แนวทางในการแก้ไขหรือพัฒนาในการจัดการเรียนรู้ครั้งต่อไป
มีการตั้งคำถามกระตุ้นความคิด เปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำเสนอในสิ่งที่นักเรียนคิด จะทำให้นักเรียนที่ความเข้าใจในการบอกความหมายได้แม่นยำ และคล่องขึ้น การแต่งประโยคโดยการใช้คำศัพท์ คือการฝึกเขียนในเวลาว่าง โดยการให้นักเรียนฝึกเขียนแต่งประโยคบ่อย ๆ เพื่อให้นักเรียน
มีความแม่นยำในการแต่งประโยคได้แม่นยำ และเร็วขึ้น
ลงชื่อ ผู้สอน/ผู้บันทึก
(นางกนกวรรณ วงษ์ชาลี)
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ