สำหรับปีที่แล้ว (2007) มีเรื่องน่าตื่นเต้น ก็คือการที่ แอนดี วอร์ฮอล สามารถแซงหน้าปาโบล ปิกัสโซ ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ และยังมีศิลปินที่อายุน้อยที่สุด อย่าง อง-มิเชล บาสเกต์ ติดเข้ามาในอันดับ 10 คนที่มีรายได้สูงสุดด้วย ถึงแม้จะไม่มีศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่เลยก็ตาม แต่ก็สร้างความคึกคักได้เยอะ

สำหรับปีล่าสุด หรือสรุปมูลค่าของงานศิลปะปี 2008 ปาโบล ปิกัสโซ บิดาแห่งคิวบิสม์ ศิลปินคาตาลัน (สเปน) ได้กลับมาทวงบัลลังก์คืน แถมยังมีฟรานซิส เบคอน เข้ามาสอดแทรกจนแอนดีต้องตกไปอยู่อันดับ 3 ส่วนที่เหลือมีทั้งขาประจำและขาจรของท็อป 10 และมีศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่าง ดาเมียน ฮิร์ตส์ และเกร์ฮาร์ด ริกซ์เทอร์ ติดอยู่ในลิสต์ด้วย

เรามาดูรายชื่อและผลงานของศิลปินท็อปลิสต์ 10 คน จากปีล่าสุดกัน

1.ปาโบล ปิกัสโซ (1881-1973)

 Harlequin (ปาโบล ปิกัสโซ) 

กลับมาผงาดที่บัลลังก์แชมป์อีกครั้ง หลังจากบิดาแห่งคิวบิสม์เสียตำแหน่งไปให้สังฆราชาแห่งป๊อป แอนดี วอร์ฮอล 1 ปี โดยมีผลงานขายออกไปในการประมูลทั่วโลก 1,764 ชิ้น รวมมูลค่า 262 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าของชิ้นงานของศิลปินจากคาตาลันได้พุ่งขึ้นกว่า 96% ในช่วงทศวรรษหลัง สถาบันประมูลต่างแย่งชิงกันเพื่อให้ได้มีงานของปาโบลสักชิ้นในการประมูลแต่ละครั้ง นี่ขนาดว่าสถาบันคริสตี ที่ร็อกกีเฟลเลอร์ กรุงนิวยอร์ก ได้นำภาพชิ้นเอก Harlequin (1919) ของเขาออกมาเก็บไว้ก่อน แล้วเขายังครองแชมป์อยู่ดี ก็เพราะว่ามีภาพเขียนเกือบ 2,000 ชิ้นที่ขายออก

ตั้งแต่ Deux Personnages (Marie-Therese et Sa Soeur Lisant) ภาพเขียนหายากเคาะไปในราคา 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ La Grue ภาพเขียนในยุคสีทองแดงช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 ของเขาประมูลออกไปที่ราคา 17.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

2.ฟรานซิส เบคอน (1902-1992)

ในปี 2008 ชิ้นงานของฟรานซิส เบคอน ขายได้ในงานประมูล 100 ชิ้น รวมมูลค่า 256 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าสูงขึ้นถึง 514% ทีเดียวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่แน่ว่าปีหน้าอาจจะแซงปาโบล ปิกัสโซ ขึ้นเป็นอันดับ 1 ก็ได้

สำหรับปี 2008 งานศิลปะของฟรานซิสในตลาดประมูลที่มีการปั่นราคาขึ้นไปสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นผลงาน Study of Nude with Figure in a Mirror (1969) ซึ่งเป็นภาพเขียนสีน้ำมันขนาดใหญ่ถึง 2 เมตร ได้มาจากคอลเลกชันส่วนตัวของเศรษฐีชาวปารีสรายหนึ่ง ค้อนสุดท้ายเคาะราคาที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ

หลายคนบอกว่าที่ผลงานของฟรานซิส เบคอน ราคาพุ่งกระฉูดขนาดนี้เป็นมาตั้งแต่มหาเศรษฐีชาวรัสเซียและเจ้าของสโมสรเชลซีของอังกฤษ อย่าง โรมัน อับราโมวิช เริ่มสะสมงานของเขา และเคยปั่นราคาชิ้นงานชิ้นหนึ่งพุ่งขึ้นไปถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนั้นไม่นาน ผลงานที่พะชื่อฟรานซิส เบคอน ก็ไม่เคยเคาะที่ราคาต่ำกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐอีกเลย

3.แอนดี วอร์ฮอล (1928-1987)

สังฆราชาแห่งป๊อปขายงานได้ 1,164 ชิ้น รวมมูลค่า 236 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2008 โดยมีงานเด่นคือ Green Car Crash (Green Burning Car I) ที่พุ่งโด่งถึง 64 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกนั้นก็เป็นผลงานซิลก์สกรีน ทั้งภาพมาริลีน มอนโร และประธานเหมา ที่ขายได้ในระหว่า 6 แสน – 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

4.ดาเมียน ฮิร์สต์ (1965 - ปัจจุบัน)

ศิลปินชาวอังกฤษ 1 ในท็อป 10 ลิสต์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ขายงานได้ 445 ชิ้น รวมมูลค่า 230 เหรียญสหรัฐ โดยนับเป็นปีแรกที่เขาได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ 10 สุดยอดศิลปิน จากอันดับที่ 58 ในปี 2006 และอันดับที่ 15 ในปี 2007 หากนับมูลค่าของผลงานที่เพิ่มขึ้นในตลาดก็เรียกว่าอู้ฟู่ถึง 1,400% ในรอบทศวรรษ

ผลงานเด่นที่สุดเพิ่งเคาะออกจากสถาบันประมูลไปเมื่อเดือนมิ.ย. 2008 คือ Lullaby Spring (17.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นกล่องยาขนาดยักษ์ที่บรรจุยาสีสันแตกต่างกันถึง 6,136 เม็ด นอกจากนี้ ยังมี Where There’s a Will, There’s a Way ที่ขายได้ 6.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน Golden Calf (วัวทองคำ) ที่เขาแช่เอาไว้ในฟอร์มาลินก็ขายได้ตั้ง 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐแน่ะ

5.โคลด โมเนต์ (1840-1926)

บิดาแห่งอิมเพรสชันนิสม์ฝรั่งเศสผู้ไม่เคยหลุดออกจากโผท็อป 10 ลิสต์ นับตั้งแต่อาร์ตไพรซ์ดอตคอมเก็บข้อมูลมา โดยปีล่าสุดภาพเขียนสีน้ำมันของเขาขายได้ 25 ชิ้น รวมมูลค่า 174 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าเทียบต่อชิ้นแล้วก็นับว่ามีมูลค่าสูงมาก ด้วยเพราะชิ้นงานระดับคุณภาพพิพิธภัณฑ์ของโคลด โมเนต์ นั้นช่างหาได้ยากเย็นเสียจริง

ภาพเขียนส่วนใหญ่ในตลาดประมูลยังคงเป็นภาพในชุดดัง อย่างชุด Nympheas (1904) หรือชุดดอกบัวที่เลื่องลือ ราคาก็เกือบคล้ายๆ กับปี 2007 ที่พุ่งไปถึง 2 เท่าของราคาประเมิน เช่น Bassin aux Nympheas ขายได้ 72 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภาพในชุดอื่น อย่าง Le Pont du Chemin de Fer a Argenteuil ภาพแลนด์สเคปสถานที่นัดพบของจิตรกรสมัยอิมเพรสชันศตวรรษที่ 19 ก็ราคาแรงตามมาติดๆ ที่ 37 ล้านเหรียญสหรัฐ

6.อัลแบร์โต จาโกเมตติ (1901-1966)

ประติมากรและจิตรกรชาวสวิสเชื้อสายอิตาเลียน เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในลิสต์ 10 คนสูงสุดเมื่อปี 2002 โดยปีล่าสุดผลงานของเขาทั้งประติมากรรมและภาพสีน้ำมันขายได้ 111 ชิ้น รวมมูลค่า 132 ล้านเหรียญสหรัฐ 

Study of Nude with Figure in a Mirror (ฟรานซิส เบคอน) 

จากปีก่อนที่ประติมากรรมทองเหลือง ชื่อ L’Homme Qui Chavire ทำสถิติราคาพุ่งไปถึง 2 เท่าจากราคาประเมิน (16.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ปีนี้ Grand Femme Debout II ของเขาก็เลยเป็นที่จับตาเป็นพิเศษ ในที่สุดประติมากรรมทองเหลืองสูง 2 เมตรชิ้นนี้ ก็เคาะไปที่ราคา 24.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ La Place II ประติมากรรมกลุ่ม 5 ชิ้นสุดแสนประหลาด ก็ขายได้ที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ

7.เกร์ฮาร์ด ริกซ์เทอร์ (1932 - ปัจจุบัน)

อีกรายในท็อป 10 ลิสต์ที่ยังมีชีวิตอยู่ และกลายเป็นความภาคภูมิของยุโรป เรียกได้ว่าเขาเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งพุ่งแรง โดยจากปี 2007 ที่ผลงานขายได้เพียง 36 ล้านเหรียญสหรัฐ พุ่งขึ้นมาถึง 122 ล้านเหรียญสหรัฐ จากผลงานที่ขายได้ 166 ชิ้น

ชิ้นที่ทำลายสถิติ (ของตัวเอง) ได้แก่ Kerze (1983) หรือเทียนไข ที่ได้รับการประมูลไปในราคาที่ไม่น่าเชื่อถึง 14 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สถาบันซอเธบีส์ กรุงลอนดอน เมื่อเดือนก.พ. 2008 ต่อมาเดือนพ.ค. 2008 ภาพเขียนสีน้ำมันในชุดเดียวกันก็ผ่านการเคาะไปที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐอีกครั้งที่สถาบันคริสตี กรุงนิวยอร์ก

หลังจากความฮือฮาผลงานของเกร์ฮาร์ดในอังกฤษและอเมริกา ทำให้ตอนนี้ผลงานของศิลปินเยอรมันผู้นี้กลายเป็นเทรนด์ฮิตสุดๆ ไปแล้วในบ้านเกิดของเขาเอง

8.เอ็ดการ์ เดอกาส์ (1834-1917)

ไม่อยากจะเชื่อว่าศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส จะไม่เคยมีรายได้อยู่ในท็อป 10 เลยจนกระทั่งปี 2004 สำหรับปี 2008 นี้ ผลงาน 81 ชิ้นของเขาขายได้มูลค่ารวม 111 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่ภาพเขียนนักบัลเลต์ของเขาเป็นภาพดังที่ใครๆ ก็ต่างถามหาและต้องการเป็นเจ้าของ

นับตั้งแต่ปี 1999 ที่ภาพเขียน Danseuse au Repos สร้างสถิติสูงสุดที่ 25.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มาปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ภาพเขียนในชุดเดียวกัน ทำลายสถิติไปได้ที่ 33 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ผลงานส่วนใหญ่ของเอ็ดการ์ที่ขายออก เป็นประติมากรรมมากกว่าภาพวาดนักบัลเลต์สีพาสเทลของเขาเสียอีก

9.ลูโช ฟอนตานา (1899-1968)

ศิลปินเชื้อสายอิตาเลียนที่ไปเกิดในอาร์เจนตินา เขาเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มความเคลื่อนไหวสปาตาลิสม์ (Spatialism) ขึ้นในกรุงมิลาน อันเป็นช่วงเดียวกับที่มีความเคลื่อนไหวแบบแอบสแทรกต์ เอกเพรสชันนิสม์ ขึ้นในกรุงนิวยอร์ก ผลงานสุดเซอร์ Concetto Spaziale เป็นภาพรอยกรีดเฟรมสีสันต่างๆ ของเขา รวมทั้งผลงานอื่นๆ 227 ชิ้น รวมมูลค่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐ ขายไปในปี 2008 ขอบอกว่ามีมูลค่าที่เคาะออกไปชิ้นละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

10.อีฟส์ ไคลน์ (1928-1962)

34% ของผลงานศิลปินเรียลิสต์ใหม่ (New Realism) ชาวฝรั่งเศสผู้นี้ เปลี่ยนมือเจ้าของเป็นว่าเล่น ในที่สุดการเล่นแร่แปรธาตุของนักสะสมงานศิลปะก็ทำให้ชื่อของ อีฟส์ ไคลน์ ขึ้นมาติดในท็อป 10 จนได้ โดยในปีล่าสุดผลงานของเขาผ่านการประมูลไป 59 ชิ้น รวมแล้วมูลค่า 91 ล้านเหรียญสหรัฐ

ความดีส่วนหนึ่งต้องยกให้ ลีโอ คาสเตลลิ โบรกเกอร์ค้าศิลปะที่ช่วยโปรโมตผลงานแจ๋วๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นหลังจากทศวรรษที่ 1950 เป็นต้นมา ซึ่งทำให้อีฟส์มีรายได้ชนะเจฟฟ์ คูนส์ ประติมากรชื่อดังชาวอเมริกันไปได้แบบเส้นยาแดง

ผลงานเด่นๆ ของอีฟส์ ไคลน์ อย่าง Monochrome R1 ขายได้ 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Monogold MG9 ทำลายสถิติของตัวเองพุ่งขึ้นไปที่ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ

ต้องรออีกทีปีหน้าว่าทิศทางศิลปะจะมุ่งไปทางใด

ข้อมูลโดย : โพสต์ทูเดย์