|
|
บทคัดย่อ
การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบอยู่ทุกวัน ประสบการณ์หรือทักษะที่ได้รับเป็นตัวส่งผลให้สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้สำเร็จคือพื้นฐานที่แต่ละคนมีมาไม่เท่ากัน สิ่งหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญคือทักษะกระบวนการที่คิดอย่างเป็นขั้นตอน นำไปสู่ประสิทธิภาพประสิทธิผลที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและไม่หยุดยั้งในยุค "ไอที" หรือ Globalization ทักษะการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จึงถูกนำมาพัฒนานักเรียนตามขั้นตอนแบบโพลยาเพื่อฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาอย่างครบถ้วน โดยร่วมกับเทคนิคการค้นพบในกลุ่มย่อย(TAI)แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบโพลยา (Polyas Problem Solving Techniques) ร่วมกับเทคนิคการค้นพบในกลุ่มย่อย (TAI) 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวกับความพึงพอใจต่อวิธีการสอบแบบโพลยา (Polyas Problem Solving Techniques) ร่วมกับเทคนิคการค้นพบในกลุ่มย่อย (TAI) 3) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบโพลยา (Polyas Problem Solving Techniques) ร่วมกับเทคนิคการค้นพบในกลุ่มย่อย (TAI)
การศึกษาครั้งนี้ ใช้กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเมืองพัทยา 9 (วัดโพธิสัมพันธ์) จำนวน 37 คน ถูกเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้พร้อมชุดกิจกรรมการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว จำนวน 6 ชุดกิจกรรม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนย่อยแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 6 ชุด ชุดละ 10 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนแบบตัวเลือก 4 ตัวเลือก แบบคู่ขนาน จำนวน 25 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x ̅) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และค่าร้อยละ (Percentage) และค่าสถิติ t-test ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการศึกษาพบว่า ความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวหลังเรียนสูงขึ้นหลังจากเรียนรู้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ประสิทธิภาพเท่ากับ 79.25/82.68 ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75 อีกทั้งความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อความพึงพอใจของนักเรียนต่อวิธีการสอนแบบโพลยาร่วมกับเทคนิคการค้นพบในกลุ่มย่อย(TAI) นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในครั้งนี้อยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ตุ๊ก : [11 ม.ค. 2559 เวลา 20:23 น.] อ่าน [19206] ไอพี : 125.27.38.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,215 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,267 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,799 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,892 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,599 ครั้ง
| เปิดอ่าน 77,703 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,983 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,617 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,172 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,980 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,786 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,871 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,367 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,152 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,647 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 76,894 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,351 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,296 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,684 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,029 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|