ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราษีไศล
ผู้ศึกษา นางสาวบานเย็น ดวงไชย
สังกัด โรงเรียนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น
สำคัญ เน้นการจัดกระบวนการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียน ๆ เป็นกลุ่มย่อย เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้
ความสามารถวิเคราะห์ และสร้างความคิดรวบยอดในการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง จึงทำให้ผู้เรียนเป็น
ผู้ที่มีทักษะในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) (2) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
(3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/5 โรงเรียนราษีไศล อำเภอราษีไศล สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 30 คน ซึ่งได้จากวิธีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random Sampling) โดยการจับฉลากใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้ามี 3 ชนิด ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 17 แผน
(2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ฉบับ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบทดสอบชุดเดียวกันมีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.32 ถึง 0.78
มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.52 และมีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.83 และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อมีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.66 และมีค่าความเชื่อมั่น ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.87 สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
หลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน(PBL) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ75.06/73.44 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 70/70
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เท่ากับ 0.5755 แสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ผู้เรียนมีความกว้าหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.55
4. ความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) อยู่ในระดับมาก