ชื่อเรื่อง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
(งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัด
นครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา นางอัมพร เอียดวงศ์
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปี พ.ศ.2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรี ธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
(2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ (1) เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 6 หน่วยเรียนคือ หน่วยที่ 1 รวมความคิดสู่การประดิษฐ์ของเล่น หน่วยที่ 2 การประดิษฐ์หุ่นชักญาญ่า หน่วยที่ 3 การประดิษฐ์พวงมาลัยแพนเค้ก หน่วยที่ 4 การประดิษฐ์นาฬิกาณเดช หน่วยที่ 5 การประดิษฐ์แว่นตามาริโอ หน่วยที่ 6 การประดิษฐ์ปลามีนานุช ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา 5 คน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.65 ถึง 4.77 เฉลี่ยโดยรวม 4.71 อยู่ในระดับมีความเหมาะสมมากที่สุด และนำไปทดลองใช้ ครั้งที่1 กลุ่มทดลองรายบุคคล (Individual try out) แบบ (1:1:1) จำนวน 3 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 67.78/66.67 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์ นำไปทดลองใช้ครั้งที่ 2 ทดลองกลุ่มเล็ก (Small Group try out) แบบ (3:3:3) จำนวน 9 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 73.70/73.33 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์ นำไปทดลองใช้ ครั้งที่ 3 กับกลุ่มทดลองภาคสนาม (Individual Try Out ) แบบ (10:10:10) จำนวน 30 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.47/82.11 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา 5 คน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.63 ถึง 4.68 เฉลี่ยโดยรวม 4.65 อยู่ในระดับมีความเหมาะสมมากที่สุด (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนจำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.50 ถึง 0.69 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.73 ถึง 0.90 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ KR20= 0.968 (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่อนำผลมาวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพเครื่องมือ พบว่า แบบวัดความพึงพอใจมีค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่า ของครอนบัค เท่ากับ 0.956 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้เปรียบเทียบ ได้แก่ t-test แบบ Independent ผลการศึกษาพบว่า
(1) เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.93/84.76
(2) นักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
(3) นักเรียนที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.7463 หมายความว่า นักเรียนมีก้าวหน้า มีความรู้ ความสามารถงานการประดิษฐ์ เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน เท่ากับ 0.7192 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.92
(4) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) เรื่อง การประดิษฐ์ของเล่นด้วยวัสดุในท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.60) แสดงว่าเอกสารประกอบการเรียนการสอน สามารถนำไปใช้เป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 ได้เป็นอย่างดี