ชื่อผลงาน รายงานการพัฒนาชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้รายงาน นางพาณิภัค สุขศิริ ครูชำนาญการโรงเรียนบ้านท่าเรือ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมประถมศึกษาพังงา

ระยะเวลาดำเนินการ 1 ตุลาคม 2556– 31 ตุลาคม 2558

บทคัดย่อ

การพัฒนาชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีกลุ่มเป้าหมายทดลองภาคสนาม เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านท่าเรือ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา จำนวน 16 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยชุด การเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 15 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้แบบทดสอบสัมฤทธิ์ผลทาง การเรียนก่อนและหลังการเรียนชุดการเรียนรู้ เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.50 – 0.73 มีค่าอำนาจจำแนก (r) 0.25 – 0.37 และมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) เท่ากับ 0.85 และแบบสอบถามเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ในชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผลการศึกษาพบว่า

1) ชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้รายงานพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 84.09/84.16เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 สอดคล้องกับสมติฐานที่ตั้งไว้

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ โดยคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ84.16 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 36.9 และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่โรงเรียนกำหนด

3) ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในชุดการเรียนรู้ สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ย ( =4.18) มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากแสดงว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากต่อการจัดการเรียนรู้ในชุดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

เว็บน่าสนใจ