ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน

เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม

ชื่อผู้วิจัย นางณัฏฐ์ธนัน บัวงาม

สังกัด โรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ปีการศึกษา 2556

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ซึ่งมีวัตถุประสงค์เฉพาะ 4 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน 2) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้น มีขั้นตอนการดำเนินการวิจัยตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม

1.1) ผลการศึกษาและวิเคราะห์ แนวคิด ทฤษฎี หลักการ พบว่า การพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนเป็นแนวคิดที่สำคัญในการช่วยพัฒนาสมรรถนะให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนของตนได้อย่างมีคุณภาพ โดยครูเกิดความรู้สึกมั่นใจและแนวคิดเชิงบวกกับการประเมินผลในชั้นเรียนของตนเองยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น

1.2) ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการพัฒนาตนเอง 1.2.1) ผลการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาการเรียนการสอน พบว่า จากการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในปีการศึกษา 2554 และปีการศึกษา 2555 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนค่อนข้างต่ำ ผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษารอบสาม โดยสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) มีผลการจัดการศึกษาได้มาตรฐานคุณภาพของสมศ.ในระดับดีค่อนข้างต่ำ อยู่ในระดับคุณภาพต้องปรับปรุง จำนวน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และต้องปรับปรุงเร่งด่วน จำนวน 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเฉพาะด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนของโรงเรียนยังไม่ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้นในระดับที่น่าพึงพอใจ

1.2.1) ผลการศึกษาข้อมูลสภาพทั่วไป พบว่า ครูผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง รองลงมาเป็นเพศชาย วุฒิการศึกษาส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ครูผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่เป็นครู คศ.1 ปฏิบัติการสอนกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ ระดับชั้นที่ปฏิบัติการสอนส่วนใหญ่อยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนในรอบปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่ครูผู้เข้าอบรมประเมินความรู้ความเข้าใจ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การวัดประเมินผลครูผู้เข้าอบรมวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนส่วนใหญ่ระหว่างและหลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จบในแต่ละภาคเรียนหรือปีการศึกษา ภาระงานสอนต่อสัปดาห์ของครูผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 19-23 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ประสบการณ์ในการอบรมการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ครูผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ไม่เคยเข้า และครูมีความต้องการเข้าร่วมการวิจัยครั้งนี้ คิดเป็นร้อยละ 100

1.3) ผลการศึกษามโนทัศน์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ พบว่า โดยภาพรวมครูผู้สอนมีมโนทัศน์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อดูรายละเอียด พบว่า ครูผู้สอนมีมโนทัศน์เกี่ยวกับการประเมินที่สอดคล้องและครอบคลุมสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระดับสูง และครูผู้สอนมีมโนทัศน์เกี่ยวกับการประเมินที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินผลและตรวจสอบผลการประเมินอยู่ในระดับต่ำ

1.3.1) ผลการวิเคราะห์สภาพการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนในสถานศึกษา พบว่า ครูผู้สอนมีการดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนของตนมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับเป็นบางครั้ง น้อยครั้งที่ครูผู้สอนดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และน้อยครั้งที่ครูผู้สอนสร้างเครื่องมือและประเมินผลการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวิธีการประเมิน

13.2) ผลการศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน ทุกข้อมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับ

ชั้นเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม

2.1) รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน มี

องค์ประกอบ 6 ด้าน ได้แก่ 1) แนวคิดและหลักการพื้นฐานของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ผลลัพธ์ที่คาดหวังของรูปแบบ 4) เนื้อหากิจกรรมรูปแบบ 5) กระบวนการจัดกิจกรรมของรูปแบบ และ 6) การประเมินผลของรูปแบบ

2.2) ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของโครงสร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่าในแต่ละข้อมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60-1.00 โดยในการวิจัยครั้งนี้มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.82 และผลการตรวจสอบความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความชัดเจน ความง่ายต่อการนำไปใช้ของรูปแบบผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นสอดคล้องกันทุกประเด็น

2.3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับ ชั้นเรียนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า ครูผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจต่อรูปแบบเนื่องจากเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและพัฒนากิจกรรมด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนของตน ในสาระการเรียนรู้ที่ตนสอน ซึ่งมีองค์ประกอบของรูปแบบ 3 ส่วนคือ 1) การนำเข้าสู่แระบวนการฝึกอบรม 2) การดำเนินการฝึกอบรม ได้แก่ ข้นเตรียมการ ขั้นนำเสนอเนื้อหา ขั้นฝึกปฏิบัติ ขั้นจุดประกายและขยายความคิด และการ 3) การติดตามการประเมินผล

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับ ชั้นเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม

3.1) ผลการเปรียบเทียบค่าความแตกต่างสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับ ชั้นเรียนตามการรับรู้ของครูผู้สอนก่อนและหลังการอบรม พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนสมรรถนะด้านความรู้ ความเข้าใจ ด้านทักษะ และด้านความพึงพอใจในการวัดและประเมินผลของครูผู้เข้าอบรม ครูผู้เข้าอบรมมีคะแนนเฉลี่ยสมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนหลังฝึกอบรมมากกว่าก่อนฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเสริมพลังอำนาจการทำงานในตนเองตามการรับรู้ของครูผู้สอนก่อนและหลังการอบรม พบว่า การเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการเสริมพลังอำนาจการทำงานในตนเองตามการรับรู้ของครูก่อนและหลังการฝึกอบรม หลังการฝึกอบรมมีค่าสูงกว่าก่อนการฝึกอบรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3) ผลการวิเคราะห์ผลลัพธ์

3.3.1) การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยภาพรวมในปีการศึกษา 2556 มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

3.3.2 วิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-net) พบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมในปีการศึกษา 2556 ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 44 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยกับระดับประเทศและหน่วยงานต้นสังกัดในภาพรวม พบว่า สถานศึกษามีคะแนนเฉลี่ย 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สูงกว่าทั้งระดับหน่วยงานต้นสังกัด และระดับประเทศ

3.3.3 เปรียบเทียบร้อยละเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) พบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมในปีการศึกษา 2556 ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบกับระดับประเทศและหน่วยงานต้นสังกัดในภาพรวม พบว่า คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าระดับประเทศและระดับหน่วยงานต้นสังกัดทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้

3.3.4 เปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-net) กับเกณฑ์การประเมินสำนักงานรับรองมาตรฐานการศึกษา (องค์การมหาชน) สมศ.รอบสาม พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (O-net) ในภาพรวมตัวบ่งชี้ที่ 5 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีผลการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาในปีการศึกษา 2556 ของโรงเรียนอยู่ในระดับคุณภาพ พอใช้

3.3.5 ผลการศึกษาค่าเฉลี่ยร้อยละตัวบ่งชี้ที่ 5 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษารอบสาม เปรียบเทียบระหว่างปีการศึกษา 2555 กับปีการศึกษา 2556 พบว่า ในภาพรวมตัวบ่งชี้ที่ 5 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างปีการศึกษา 2555 กับปีการศึกษา 2556 ของโรงเรียนมีผลการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษากับเกณฑ์การประเมินภายนอก (สมศ.) รอบสาม มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น

ตอนที่ 4 ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนกุดเสลาวิทยาคม

1.1 ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้เข้าอบรมที่มีต่อคุณภาพของรูปแบบการ

พัฒนาสมรรถนะครูด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียน พบว่า ในด้านความเป็นประโยชน์ครูผู้สอนเห็นด้วยในระดับมาก ในประเด็นการอบรมนี้สอดคล้องกับความคิดของท่าน มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ความเป็นไปได้ของรูปแบบครูเห็นด้วยในระดับมาก ในประเด็นการอบรมครั้งนี้มีแผนปฏิบัติการหรือวิธีการอย่างชัดเจน มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ความเหมาะสมของรูปแบบครูเห็นด้วยในระดับมาก ในประเด็นการอบรมครั้งนี้ช่วยให้ครูประเมินการเรียนรู้ได้อย่างน่าเชื่อถือ ความถูกต้องของรูปแบบครูเห็นด้วยในระดับมาก ในประเด็นรูปแบบการอบรมครั้งนี้ช่วยส่งเสริมการปฏิบัติงานของท่าน มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด

1.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้เข้าอบรมที่มีต่อการประเมินเสริมพลังอำนาจ

บทบาทของตนเองและบทบาทของผู้สนับสนุน พบว่า โดยภาพรวมครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบในระดับ เรียงลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การอำนวยความสะดวก การสนับสนุน และการมีเสรีภาพทางการคิด ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การเต็มใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และการกล้าเสี่ยงทำในสิ่งที่ถูกต้อง

1.3 การปรับปรุงรูปแบบจากผลของการนำไปทดลองใช้

1.3.1 ปรับปรุงแผนการอบรม ในแต่ละกิจกรรมให้มีรายละเอียดและขั้นตอนที่ชัดเจน และปรับกิจกรรมการเรียนรู้ไม่ให้เคร่งเครียดหรือเต็มไปด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์มากเกินไป แต่จัดกิจกรรมให้สนุก เป็นกันเอง ให้ผู้เข้าอบรมรู้สึกมั่นใจและเชื่อในพลังการทำงานของตนเอง และเรียนรู้อย่างมีความสุข

1.3.2 ปรับปรุงในส่วนของหลักการพื้นฐาน บทบาทของวิทยากร ผู้สนับสนุน และบทบาทของครูผู้เข้าอบรม ในคู่มือการจัดกิจกรรมการอบรมให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากที่สุด เพื่อให้วิทยากร ผู้สนับสนุนและครูผู้เข้าอบรม สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

1.3.3 ปรับระยะเวลาในแต่ละกิจกรรม ไม่ให้มากเกินไป และปรับจำนวนกิจกรรมให้เหมาะสมที่จะส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาสมรรถนะด้านการวัดและประเมินผลระดับชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย แอ้ว : [7 มี.ค. 2559 เวลา 09:41 น.]
อ่าน [3588] ไอพี : 27.55.92.139
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,331 ครั้ง
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"
"กูเกิล"เปิดบริการ"กูเกิล ไดรฟ์" เก็บข้อมูลออนไลน์สูงสุด "16 เทราไบท์"

เปิดอ่าน 26,961 ครั้ง
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย

เปิดอ่าน 11,471 ครั้ง
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา

เปิดอ่าน 40,417 ครั้ง
หลักสูตรอบรม e-Trainning ผ่านระบบ GURU online
หลักสูตรอบรม e-Trainning ผ่านระบบ GURU online

เปิดอ่าน 5,990 ครั้ง
เครียดลงกระเพาะ โรคยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกวัย
เครียดลงกระเพาะ โรคยอดฮิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกวัย

เปิดอ่าน 54,488 ครั้ง
กษัตริย์อาร์เธอร์ กับอัศวินโต๊ะกลม
กษัตริย์อาร์เธอร์ กับอัศวินโต๊ะกลม

เปิดอ่าน 19,070 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 14,692 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 18,052 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน

เปิดอ่าน 8,746 ครั้ง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง
รู้จักเลือก...รู้จักเลี่ยง ไม่เสี่ยงเป็นความดันโลหิตสูง

เปิดอ่าน 15,364 ครั้ง
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา
วิธีซ่อนรอยคล้ำใต้ดวงตา

เปิดอ่าน 12,752 ครั้ง
อึ้ง! คลิปเด็กรัสเซียเตะครู
อึ้ง! คลิปเด็กรัสเซียเตะครู

เปิดอ่าน 9,388 ครั้ง
เฟซบุ๊ก เตรียมเผยการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ วันนี้
เฟซบุ๊ก เตรียมเผยการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ วันนี้

เปิดอ่าน 18,788 ครั้ง
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย

เปิดอ่าน 16,583 ครั้ง
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล

เปิดอ่าน 57,221 ครั้ง
“ครูเอฟฟี่” คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
“ครูเอฟฟี่” คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
เปิดอ่าน 580 ครั้ง
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
เปิดอ่าน 33,413 ครั้ง
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
"รศ.ดร.สุธีร์" ไอน์สไตน์ เมืองไทย ผู้สร้าง "สายอากาศสุธี" ที่ในหลวงรับสั่งว่า &q
เปิดอ่าน 29,739 ครั้ง
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
ประวัติ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.
เปิดอ่าน 15,278 ครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ