การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ และ
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ต่อการเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง
เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) บทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช 2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช เวลาที่ใช้ในการทดลอง จำนวน 20 ชั่วโมง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.88/82.08 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6512 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.12
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ เรื่อง เซลล์และกระบวนการดำรงชีวิตของพืช พบว่าโดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) ด้านการออกแบบการสอน 2) ด้านการเก็บบันทึกข้อมูลและการจัดการ 3) ด้านเนื้อหาบทเรียน และ 4) ด้านคำแนะนำในการใช้บทเรียน และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด 3 ข้อ คือบทเรียนช่วยแก้ปัญหาการเรียนไม่ทันเพื่อนได้มากที่สุด รองลงมา คือ ช่วยให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ มากขึ้น และการใช้ภาพกราฟิกในบทเรียนมีความเหมาะสมตามลำดับ และมีความพึงพอใจในระดับมาก 17 ข้อ