ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณ

รายงานการใช้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังได้รับการสอนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหา

ทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่ม

ร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของ

นักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้หลังจากนักเรียนได้รับการสอนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มทดลองเป็นนักเรียน โรงเรียนสัตหีบวิทยาคม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 การเลือกกลุ่มทอลอง

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ได้มา จำนวน 1 ห้องเรียน ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 5/1 จำนวนทั้งหมด 23 คน โดยได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random sampling) แบบเป็นกลุ่มห้องเรียน จากห้องที่โรงเรียนได้มอบหมายให้ผู้ศึกษาค้นคว้า

เป็นผู้รับผิดชอบการสอนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยที่ผู้ศึกษาค้นคว้า

เป็นผู้ดำเนินการทดลองด้วยตนเอง ใช้เวลาในการสอน 15 ชั่วโมง แบบแผนการทดลอง

แบบ One-Group Pretest-Posttest Designวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ t-test for Paired Samples และค่าสถิติ t-test One Sample ซึ่งสรุปสาระสำคัญและผลการศึกษา

ได้ดังนี้

ผลการศึกษาค้นคว้า

1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพ 83.33/86.38 แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์

เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนได้รับ

การสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนหลังการเรียน

การสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนการเรียน โดยใช้

แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ดัชนีประสิทธิผล ของการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 1.2910 หรือคิดเป็นร้อยละ 129.10 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน

คิดเป็นร้อยละ 129.10

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ หลังจากนักเรียนได้รับการสอนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งพบว่าค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของนักเรียนในภาพรวมโดยส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.18 ,S.D. = 0.35) และคิดเป็นเฉลี่ยรวมเป็นร้อยละ 83.60

โพสต์โดย toto : [2 เม.ย. 2559 เวลา 17:06 น.]
อ่าน [5624] ไอพี : 171.98.11.74
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,377 ครั้ง
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 16,127 ครั้ง
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"
โรงเรียนสุขภาวะตอบโจทย์ "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้"

เปิดอ่าน 16,187 ครั้ง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง
วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย หลังเดินทาง

เปิดอ่าน 12,000 ครั้ง
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2
เกาหลีแพลนสร้าง แดจังกึม 2

เปิดอ่าน 4,227 ครั้ง
สวมแหวนแต่ละนิ้ว เสริมดวงอะไรบ้าง
สวมแหวนแต่ละนิ้ว เสริมดวงอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 75,986 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด (ฉบับปรับปรุง)

เปิดอ่าน 13,238 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน

เปิดอ่าน 9,956 ครั้ง
เมื่อต้องลงโทษลูก
เมื่อต้องลงโทษลูก

เปิดอ่าน 2,760 ครั้ง
อิทธิพลของดวงจันทร์
อิทธิพลของดวงจันทร์

เปิดอ่าน 36,574 ครั้ง
ลายมือมหาเศรษฐี
ลายมือมหาเศรษฐี

เปิดอ่าน 11,823 ครั้ง
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา

เปิดอ่าน 10,251 ครั้ง
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด

เปิดอ่าน 9,210 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์

เปิดอ่าน 23,855 ครั้ง
สมจิตร จงจอหอ
สมจิตร จงจอหอ

เปิดอ่าน 13,447 ครั้ง
15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม
15 หลักฮวงจุ้ยในที่ทำงานสำหรับสาวมิลเลเนียม

เปิดอ่าน 19,371 ครั้ง
เรื่องที่แม่ควรอ่าน "20 คำถามคำตอบ" ความจริง "นมแม่-นมผง"
เรื่องที่แม่ควรอ่าน "20 คำถามคำตอบ" ความจริง "นมแม่-นมผง"
เปิดอ่าน 13,859 ครั้ง
5 อาการเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
5 อาการเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
เปิดอ่าน 14,334 ครั้ง
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล
เปิดอ่าน 23,146 ครั้ง
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
เปิดอ่าน 8,827 ครั้ง
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551
ขอเชิญร่วมงานการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอีเลิร์นนิง ปี 2551

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ