ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง การพัฒนาบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นายศิริพงษ์ เนียมมูล

สถานศึกษา โรงเรียนบึงมะลูวิทยา ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์

จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28

ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การพัฒนาบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์คือ (1) เพื่อพัฒนาบทเรียนสื่อประสมเรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนบึงมะลูวิทยา ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 35 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด คือ (1) บทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 8 ชุด (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ของไหล เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.33 - 0.79 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.22 - 0.75 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 (3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (t) ตั้งแต่ 2.39 ถึง 8.16 ความเชื่อมั่นของแบบวัดความพึงพอใจทั้งฉบับ เท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. บทเรียนสื่อประสมเรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ 78.96/78.07 ซึ่งสูงกว่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.6547 คิดเป็นร้อยละ 65.47 แสดงว่านักเรียนมีคะแนนความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 65.47

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสื่อประสมเรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด

โดยสรุป บทเรียนสื่อประสม เรื่อง ของไหล กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพียงพอที่ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาความสามารถของตนเองได้เต็มตามศักยภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียน พร้อมทั้งเป็นแนวทางในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในเนื้อหาและรายวิชาอื่นต่อไป

โพสต์โดย ครูแคน : [19 ก.ค. 2559 เวลา 08:25 น.]
อ่าน [4213] ไอพี : 223.24.87.154
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ นัทตี้

  ความคิดเห็นที่ 1

เป็นผลงานที่ดีมีประโยชน์ต่อผู้เรียน นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแล้วการมีสื่อหลายๆชนิดจะทำให้นักเรียนไม่เบื่อหน่ายในการเรียน ทำให้นักเรียนมีความสุขในการเรียน ขอชื่นชมอาจารย์ค่ะ

วันที่โพสต์ [20 ก.ค. 2559 เวลา 20:32 น.] ไอพี : [27.55.231.27] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ piyaring

  ความคิดเห็นที่ 2

เป็นผลงานที่ดี และมีคุณค่าเพราะเนื้อหาในวิชาฟิสิกส์มีความยาก การมีสื่อที่หลากหลายมาสนับสนุนส่งเสริมกันจะทำให้นักเรียนเช้าใจในเนื้อหาที่สอนได้ง่ายขึ้น และยังทำให้นักเรียนมีความสนใจ กระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น ส่งผลให้นักเรียนชอบเรียนวิชาฟิสิกส์ขอชื่นชมอาจารย์ที่ทำเพื่อลูกศิษย์ค่ะ

วันที่โพสต์ [21 ก.ค. 2559 เวลา 21:42 น.] ไอพี : [171.100.95.67] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ นง

  ความคิดเห็นที่ 3

เป็นผลงานที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และผู้สนใจ ในความคิดหรือความรู้สึกของผู้เรียน วิชาฟิสิกส์ถือว่าเป็นวิชาที่มีความยาก เพราะฉะนั้นการที่ผู้เรียนได้ศึกษาและฝึกปฏิบัติจาก บทเรียนสื่อประสม ทำให้ผู้เรียนสนใจ มุ่งมั่นในการทำกิจกรรม ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขอชื่นชมคุณครูที่ได้จัดทำสื่อที่ทรงคุณค่าเพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนค่ะ....

วันที่โพสต์ [26 ก.ค. 2559 เวลา 08:46 น.] ไอพี : [101.51.46.40] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ นง

  ความคิดเห็นที่ 4

เป็นผลงานที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และผู้สนใจ ในความคิดหรือความรู้สึกของผู้เรียน วิชาฟิสิกส์ถือว่าเป็นวิชาที่มีความยาก เพราะฉะนั้นการที่ผู้เรียนได้ศึกษาและฝึกปฏิบัติจาก บทเรียนสื่อประสม ทำให้ผู้เรียนสนใจ มุ่งมั่นในการทำกิจกรรม ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขอชื่นชมคุณครูที่ได้จัดทำสื่อที่ทรงคุณค่าเพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนค่ะ....

วันที่โพสต์ [26 ก.ค. 2559 เวลา 08:48 น.] ไอพี : [101.51.46.40] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ ครูแคน

  ความคิดเห็นที่ 5

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

วันที่โพสต์ [26 ก.ค. 2559 เวลา 22:06 น.] ไอพี : [27.55.68.44] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ punthong

  ความคิดเห็นที่ 6

เป็นผลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และผู้ที่สนใจมากค่า เพราะนำเอานวัตกรรมประเภทสื่อประสมมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สร้างความสนใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ทำให้เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียน ขอชื่นชมคุณครูที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันมีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้เรียนคะ

วันที่โพสต์ [27 ก.ค. 2559 เวลา 19:26 น.] ไอพี : [1.0.183.158] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ punthong

  ความคิดเห็นที่ 7

เป็นผลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และผู้ที่สนใจมากค่ะ ได้นำเอานวัตกรรมประเภทสื่อประสมมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สร้างความสนใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ทำให้เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียน ขอชื่นชมคุณครูที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันมีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้เรียนคะ

วันที่โพสต์ [28 ก.ค. 2559 เวลา 12:19 น.] ไอพี : [180.180.73.61] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ teacherphon

  ความคิดเห็นที่ 8

เป็นผลงานที่ดีมาก ทำให้การเรียนฟิสิกส์ที่ยากเข้าใจได้ง่ายขึ้น

วันที่โพสต์ [28 ก.ค. 2559 เวลา 14:09 น.] ไอพี : [223.24.82.204] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ สมัย

  ความคิดเห็นที่ 9

เป็นผลงานที่ดีมาก สามารถนำไปจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมที่สร้างขึ้นสามารถกระตุ้นนักเรียนให้มีความสนใจ และเข้าใจในเนื้อหาวิชา นอกจากนี้ยังช่วยสร้างเจตคติที่ดีในการเรียนวิชาฟิสิกส์ดีด้วยค่ะ

วันที่โพสต์ [28 ก.ค. 2559 เวลา 20:07 น.] ไอพี : [223.204.18.63] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ Krookai

  ความคิดเห็นที่ 10

เป็นผลงานที่สามารถประยุกต์ และนำไปใช้ได้จริง ผู้สนใจศึกษาจะได้มีนวัตกรรมหลากหลายน่าสนใจ แปลกใหม่ที่เหมาะสำหรับการนำไปเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ของไหลต่อไป

วันที่โพสต์ [29 ก.ค. 2559 เวลา 13:48 น.] ไอพี : [10.5.50.236, 182.52.] หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,928 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 10,137 ครั้ง
9 ตุลาคม วันไปรษณีย์โลก
9 ตุลาคม วันไปรษณีย์โลก

เปิดอ่าน 45,397 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข

เปิดอ่าน 2,370 ครั้ง
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
อยากจมูกโด่งมีดั้ง จะเลือกผ่าตัดเสริมจมูก ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ดี?

เปิดอ่าน 12,820 ครั้ง
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี
4 คุณสมบัติหลัก ที่ Netbook ควรมี

เปิดอ่าน 13,399 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2552

เปิดอ่าน 18,800 ครั้ง
อนาคตของระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์
อนาคตของระบบการศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์

เปิดอ่าน 20,910 ครั้ง
กองทัพเรือไทย
กองทัพเรือไทย

เปิดอ่าน 24,749 ครั้ง
กำเนิดดวงดาว
กำเนิดดวงดาว

เปิดอ่าน 19,049 ครั้ง
ฟักทองญี่ปุ่น
ฟักทองญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 11,051 ครั้ง
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์
ทายนิสัยจากการเล่นเกมส์

เปิดอ่าน 18,614 ครั้ง
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล

เปิดอ่าน 22,960 ครั้ง
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"

เปิดอ่าน 11,176 ครั้ง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง
เตือนเด็กต่ำกว่า 16 ใช้มือถือ เสี่ยง 5 เท่า เนื้องอกสมอง

เปิดอ่าน 10,589 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

เปิดอ่าน 446,841 ครั้ง
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน
วิธีนำข่าวการศึกษาจากครูบ้านนอก ไปแปะในเว็บท่าน
เปิดอ่าน 14,313 ครั้ง
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว
เปิดอ่าน 19,193 ครั้ง
MV เพลง รางวัลของครู
MV เพลง รางวัลของครู
เปิดอ่าน 9,499 ครั้ง
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
หน้ากากอนามัยใส่ให้เป็น
เปิดอ่าน 21,657 ครั้ง
รู้จักวิตามิน H
รู้จักวิตามิน H

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ