ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติ ของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร)

ผู้ศึกษา นายพลศักดา วิรัตน์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์

ปีที่ศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

1. การสร้างและการพัฒนาชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ คือ (1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดการสอนแบบสื่อประสม เรื่อง กีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) ทั้งก่อนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 37 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้การศึกษามีดังนี้ (1) ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) จำนวน 18 เล่ม (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ (3) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 แผน (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 18 ชั่วโมง โดยดำเนินการตามแบบแผนของการวิจัยแบบกลุ่มเดียวสอบก่อน-สอบหลัง (One Group Pretest-Posttest Design) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานใช้สถิติ t – test for dependent

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพโดยรวมเฉลี่ยเท่ากับ 82.86/85.34 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ซึ่งจำแนกตามแต่ละหน่วยได้ดังนี้

1.1 เล่มที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาแชร์บอล มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.51/85.95 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.2 เล่มที่ 2 มารยาทที่ดีในการเล่นและการชม มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.59/86.49 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.3 เล่มที่ 3 การเตรียมตัวในการเล่นกีฬาแชร์บอล มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.32/86.22 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.4 เล่มที่ 4 การสร้างความคุ้นเคยกับลูกแชร์บอล มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.78/84.59 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.5 เล่มที่ 5 ทักษะเฉพาะตัวในการเล่นแชร์บอล มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.27/84.86 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.6 เล่มที่ 6 การจับลูกบอลและการรับลูกบอล มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.16/83.51 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.7 เล่มที่ 7 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกสองมือระดับอก มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.62/85.68 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.8 เล่มที่ 8 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกกระดอน มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.08/86.46 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.9 เล่มที่ 9 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกสองมือเหนือศีรษะ มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.27/86.76 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.10 เล่มที่ 10 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกมือเดียวเหนือไหล่ มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.03/85.14 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.11 เล่มที่ 11 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกล่างสองมือและมือเดียว มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 83.24/85.41 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.12 เล่มที่ 12 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกด้านข้างสองมือและมือเดียว มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.38/87.03 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.13 เล่มที่ 13 หลักการและแบบฝึกการส่งลูกตวัด มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.95/84.32 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.14 เล่มที่ 14 การยิงประตู มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.59/85.14 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.15 เล่มที่ 15 การเล่นทีม มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 84.05/83.78 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.16 เล่มที่ 16 กติกาข้อที่ 1, 2, 3 และ4 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.89/85.41 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.17 เล่มที่ 17 กติกาข้อที่ 5, 6, 7, 8, 9 และ10 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.43/84.86 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

1.18 เล่มที่ 18 กติกาข้อที่ 11, 12, 13, 14, 15 และ16 มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.35/84.59 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เมื่อใช้ชุดแบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะกีฬาแชร์บอล โดยใช้รูปแบบการสอนทักษะปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.59

โพสต์โดย ครูหนึ่ง : [7 ก.ย. 2559 เวลา 10:47 น.]
อ่าน [11248] ไอพี : 180.183.179.143
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,839 ครั้ง
"แกรนด์ แคนยอน" ฟ้าผ่าปีละหลายหมื่นครั้ง! อยู่ที่แจ้ง รู้เอาตัวรอด
"แกรนด์ แคนยอน" ฟ้าผ่าปีละหลายหมื่นครั้ง! อยู่ที่แจ้ง รู้เอาตัวรอด

เปิดอ่าน 12,176 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 1,945 ครั้ง
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเปล่า

เปิดอ่าน 14,614 ครั้ง
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า
การออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า

เปิดอ่าน 32,346 ครั้ง
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้
สพฐ.เผยแพร่หน่วยการเรียนรู้ Active Learning ที่ได้รับรางวัลเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับครูในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

เปิดอ่าน 10,045 ครั้ง
ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6
ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6

เปิดอ่าน 12,635 ครั้ง
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
เกณฑ์ราคากลางและคุณลักษณะพื้นฐานครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562

เปิดอ่าน 12,666 ครั้ง
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?

เปิดอ่าน 14,236 ครั้ง
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล
4 วิธี ช่วยให้ผิวคุณสวยไปตลอดกาล

เปิดอ่าน 10,887 ครั้ง
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?
ปริญญาโทกับคนทำงาน ….สำคัญจริงหรือ?

เปิดอ่าน 8,857 ครั้ง
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?

เปิดอ่าน 11,020 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก

เปิดอ่าน 45,932 ครั้ง
วิธีการเชิงระบบ
วิธีการเชิงระบบ

เปิดอ่าน 23,384 ครั้ง
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"
ทำไมเบอร์โทรศัพท์เลข 2 ถึงอ่านว่า "โท"

เปิดอ่าน 59,182 ครั้ง
การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ลว 2 ม.ค. 51)
การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ลว 2 ม.ค. 51)

เปิดอ่าน 24,375 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
เปิดอ่าน 38,195 ครั้ง
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)
ระบบการเรียนการสอนของบริกส์ (Briggs Model)
เปิดอ่าน 15,826 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
เปิดอ่าน 24,019 ครั้ง
การเขียนที่ถูกต้องของคำว่า "โรฮีนจา-เมียนมา" แทน "โรฮิงญา-เมียนมาร์"
การเขียนที่ถูกต้องของคำว่า "โรฮีนจา-เมียนมา" แทน "โรฮิงญา-เมียนมาร์"
เปิดอ่าน 43,013 ครั้ง
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ