ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ส่งเผยแพร่ผลงานวิชาการ (บทคัดย่อ)

นางสาวกฤษณา รอบรู้.2559.ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปา กลุ่มสาระการเรียนรู้

สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. ขอนแก่น :

โรงเรียนบ้านหินตั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2.

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 42) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2558โรงเรียนบ้านหินตั้งอำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2จำนวน19คน

รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรปฏิบัติการวิจัย 2 วงจร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองและปฏิบัติการได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โดยใช้รูปแบบซิปปาจำนวน 11แผน2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติได้แก่แบบบันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ แบบสัมภาษณ์นักเรียนและแบบทดสอบท้ายวงจร3) เครื่องมือประเมินผลประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิตเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ

การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการ คือ 1) ก่อนการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ปฐมนิเทศผู้ช่วยวิจัยและนักเรียน แล้วทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) กับกลุ่มเป้าหมาย2) ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา 3) หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดำเนินการทดสอบหลังเรียน (Post-test) และสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนกับกลุ่มเป้าหมาย

การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ใช้สถิติ คือค่าร้อยละค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบค่าที (t-test for dependent sample) และสรุปความเรียง

ผลการวิจัย พบว่า

1.การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม มีการเคลื่อนไหวทางร่างกาย สามารถสรุปความรู้ได้ด้วยตนเองทั้งจากการศึกษาใบความรู้ ใบกิจกรรม สื่อที่ผู้สอนจัดเตรียมไว้และการทำกิจกรรมต่าง ๆ นักเรียนมีความสุขและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม ซึ่งช่วยให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันทั้งนักเรียนกับนักเรียนและนักเรียนกับครู นักเรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม มีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันทั้งภายในกลุ่มย่อยและในชั้นเรียนนักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์กล้าแสดงออกและแสดงความคิดเห็นได้เหมาะสมตามศักยภาพมีทักษะในการสื่อสารที่ดีขึ้นและมีมารยาทที่ดีในอยู่ร่วมกันนอกจากนี้นักเรียนยังได้ฝึกทักษะ กระบวนการ ในด้านการทำงานอย่างเป็นระบบการแก้ปัญหาการสื่อสาร การนำเสนอ และการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ในด้านความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และมีความเชื่อมั่นในตนเอง อีกทั้งยังได้ฝึกการนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปประยุกต์ใช้ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและแนวคิดของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปา(CIPPA Model)

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ80.53ของคะแนนเต็มซึ่งสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ23.87ของคะแนนเต็ม โดยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนบ้านหินตั้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย aor : [21 ก.ย. 2559 เวลา 13:30 น.]
อ่าน [3451] ไอพี : 110.78.177.106
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,005 ครั้ง
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558
ชมคลิป สำนักงาน ก.พ. ชี้แจงปรับเงินเดือนข้าราชการ 4% เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2558

เปิดอ่าน 13,339 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ

เปิดอ่าน 9,833 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"

เปิดอ่าน 19,722 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

เปิดอ่าน 8,621 ครั้ง
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 12,733 ครั้ง
เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s
เทคนิคการจัดการชั้นเรียนด้วยโมเดล 3 C"s

เปิดอ่าน 34,396 ครั้ง
เถียงนาน้อย
เถียงนาน้อย

เปิดอ่าน 94,052 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 15,869 ครั้ง
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?
SEO กับ SEM คืออะไร...ต่างกันแค่ไหน?

เปิดอ่าน 18,097 ครั้ง
กินยาให้ถูกโรค
กินยาให้ถูกโรค

เปิดอ่าน 13,978 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
PowerPoint ชี้แจงตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางสาระภูมิศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

เปิดอ่าน 33,605 ครั้ง
"สาสน์" "สาส์น" และ "สาร"
"สาสน์" "สาส์น" และ "สาร"

เปิดอ่าน 10,549 ครั้ง
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012

เปิดอ่าน 19,544 ครั้ง
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?
การเรียนรู้โดยใช้แป้นพิมพ์แทนการเขียน ดีหรือไม่?

เปิดอ่าน 3,847 ครั้ง
ประวัติลูกเสือไทย
ประวัติลูกเสือไทย

เปิดอ่าน 10,000 ครั้ง
หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้
หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้
เปิดอ่าน 29,929 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลธรรมดา
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลธรรมดา
เปิดอ่าน 14,464 ครั้ง
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด
นอนหลับท่าไหนดีที่สุด
เปิดอ่าน 14,700 ครั้ง
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน
เปิดอ่าน 10,448 ครั้ง
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ