ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถม

ชื่อวิจัย การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย กัลยา วงศ์สวัสดิ์

ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ

การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุดหลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (3) เพื่อศึกษาทักษะการอ่านออกเสียงของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุดหลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย (1) หนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 4 เล่ม คือ เล่มที่ 1 เรื่อง ตลาดนัดอักษรนำ เล่มที่ 2 เรื่อง ครอบครัวตัวควบกล้ำ เล่มที่ 3 เรื่อง เพื่อนตัวการันต์กับบรรณารักษ์ และเล่มที่ 4 เรื่อง เจ็ดสหายไม่ประวิสรรชนีย์ (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เท่ากับ 0.9874 (3) แบบทดสอบทักษะการอ่านออกเสียงของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟาที่ 0.9114 และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจ เท่ากับ 0.8750

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.30/82.97

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ผลการประเมินทักษะการอ่านออกเสียงของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน รูปแบบร้อยกรอง ชุดหลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะการอ่านออกเสียงในภาพรวมทั้ง 4 ชุด มีทักษะการอ่านออกเสียงถูกต้อง อยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.35 มีทักษะการอ่านออกเสียงชัดเจน อยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.20 และมีทักษะการอ่านออกเสียงคล่องแคล่ว อยู่ในระดับ ดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.40 ส่วนในภาพรวมจัดระดับเป็นร้อยละ เท่ากับ 80.46 และเมื่อจำแนกเป็นรายชุด พบว่า ชุดที่ 1 มีทักษะการอ่านออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 78.38 ชุดที่ 2 มีทักษะการอ่านออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 74.10 ชุดที่ 3 มีทักษะการอ่านออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 84.23 และชุดที่ 4 มีทักษะการอ่านออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน คล่องแคล่ว ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 85.41

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านรูปแบบร้อยกรอง ชุด หลักภาษาน่ารู้ ที่ส่งเสริมการอ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนชอบขนาด ของเล่ม หยิบจับเปิดอ่านง่าย และนักเรียนชอบอ่านหนังสือทั้ง 4 เรื่อง มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 รองลงมา คือ นักเรียนอ่านแล้วเข้าใจเนื้อเรื่อง ความหมายของคำ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.86 และถ้ามีเวลาว่างนักเรียนจะนำหนังสือมาอ่านเสมอ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62

โพสต์โดย ญาสุมินท์ สิริทัตนนท์ : [15 ต.ค. 2559 เวลา 00:10 น.]
อ่าน [64256] ไอพี : 171.6.234.96
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,619 ครั้ง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง
วิธีสร้างคันกระสอบทรายให้แข็งแรง

เปิดอ่าน 19,437 ครั้ง
WebOS เว็บโอเอส เว็บโอเอส อะไรๆ ก็ เว็บโอเอส
WebOS เว็บโอเอส เว็บโอเอส อะไรๆ ก็ เว็บโอเอส

เปิดอ่าน 4,153 ครั้ง
การฝังเข็ม ดีอย่างไร
การฝังเข็ม ดีอย่างไร

เปิดอ่าน 1,000 ครั้ง
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น
คู่มือดูแลเครื่องถ่ายเอกสารสำนักงาน ใช้งานได้ทนทานขึ้น

เปิดอ่าน 102,853 ครั้ง
สนามไฟฟ้า (electric field)
สนามไฟฟ้า (electric field)

เปิดอ่าน 9,962 ครั้ง
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน

เปิดอ่าน 19,556 ครั้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง

เปิดอ่าน 17,361 ครั้ง
ที่สุดของดาราศาสตร์
ที่สุดของดาราศาสตร์

เปิดอ่าน 28,237 ครั้ง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง

เปิดอ่าน 869 ครั้ง
ติว TCAS จำเป็นไหม ? มีเคล็ดลับการสอบอย่างไรบ้าง
ติว TCAS จำเป็นไหม ? มีเคล็ดลับการสอบอย่างไรบ้าง

เปิดอ่าน 11,499 ครั้ง
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 311,071 ครั้ง
สำนวนภาษาอังกฤษที่น่ารู้
สำนวนภาษาอังกฤษที่น่ารู้

เปิดอ่าน 13,917 ครั้ง
พลังงานรอผลศึกษาผลกระทบเลิกขายเบนซิน 91
พลังงานรอผลศึกษาผลกระทบเลิกขายเบนซิน 91

เปิดอ่าน 83,134 ครั้ง
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เปิดอ่าน 29,361 ครั้ง
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู
พุทธธรรมสำหรับการพัฒนาชีวิตครู

เปิดอ่าน 10,964 ครั้ง
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เพนต์หน้าพิลึก! กระแสฮิตโจ๋ยุ่น
เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
เปิดอ่าน 4,539 ครั้ง
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
เปิดอ่าน 16,872 ครั้ง
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
เปิดอ่าน 19,692 ครั้ง
การทำงานของรถจักรไอน้ำ
การทำงานของรถจักรไอน้ำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ