ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนประชาพัฒนา ประจำป

ชื่อเรื่อง การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

โรงเรียนประชาพัฒนา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม

ศึกษานราธิวาส เขต ๑

ผู้ศึกษา นายอามีนาเล๊าะ อาแว

ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนประชาพัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

นราธิวาส เขต ๑

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนประชาพัฒนา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๑ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ ให้สูงขึ้น ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนและหลังดำเนินการพัฒนา และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ทักษะทางคณิตศาสตร์เรื่องการวัด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนประชาพัฒนา ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๑๓ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๓ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑๕ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการวัด จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการสอนในชั่วโมงสอนซ่อมเสริม ในระหว่างเวลา ๑๕.๓๐ น.-๑๖.๓๐ น. ของทุกวันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ถึง วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๙ ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ โดยใช้เวลาในการสอนรวม ๒๙ ชั่วโมง

ผลการศึกษาพบว่า

๑. ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๘๑.๓๘ และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๘๑.๗๙ ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีค่าเท่ากับ ๘๑.๓๘/๘๑.๗๙

๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๓.๕๔ คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๑๓ ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒๔.๕๔ คิดเป็นร้อยละ ๘๑.๗๙ โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เฉลี่ย ๑๑.๐๐ คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๖๗

๓. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๙ คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๘๕

ข้อเสนอแนะ

๑. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ควรนำแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง การวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ไปประยุกต์ใช้สำหรับเสริมทักษะเรื่อง การวัด เพราะจากผลการศึกษายืนยันความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๑.๓๘/๘๑.๗๙สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

๒. จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ความพึงพอใจในการได้ฝึกทักษะการคิดควบคู่กับการเรียนเนื้อหาวิชา มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อาจอธิบายได้ว่า ในการจัดกิจกรรมฝึกทักษะให้กับนักเรียนไม่เหมาะสมกับความต้องการ ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องยึดหลักจิตวิทยา ใช้สำนวนภาษาที่ง่าย เหมาะสมกับวัย ความสามารถของผู้เรียน มีกิจกรรมหลากหลาย มีคำสั่ง คำอธิบาย และคำแนะนำการใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่ชัดเจนเข้าใจง่าย ใช้เวลาในการฝึกไม่นาน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้มีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

โพสต์โดย มิง : [6 พ.ย. 2559 เวลา 12:52 น.]
อ่าน [102670] ไอพี : 118.172.56.82
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,013 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : กว่าจะถึงประถมศึกษาก็สายเสียแล้ว
ตูนส์ศึกษา : กว่าจะถึงประถมศึกษาก็สายเสียแล้ว

เปิดอ่าน 17,373 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal

เปิดอ่าน 27,160 ครั้ง
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?

เปิดอ่าน 14,511 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 13,028 ครั้ง
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ

เปิดอ่าน 809 ครั้ง
5 วิธีรับมืออย่างเข้าใจ เมื่อรู้ว่าคนใกล้ตัวติดยาเสพติด
5 วิธีรับมืออย่างเข้าใจ เมื่อรู้ว่าคนใกล้ตัวติดยาเสพติด

เปิดอ่าน 7,589 ครั้ง
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
อาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 10,936 ครั้ง
หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้
หนี้สิน หนี้เสีย แก้ได้

เปิดอ่าน 65,256 ครั้ง
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?

เปิดอ่าน 756 ครั้ง
ตู้เซฟนิรภัยกันไฟนอกจากกันขโมยได้แล้ว มีข้อดีอะไรอีกบ้าง
ตู้เซฟนิรภัยกันไฟนอกจากกันขโมยได้แล้ว มีข้อดีอะไรอีกบ้าง

เปิดอ่าน 12,276 ครั้ง
คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง]
คู่มือสำหรับประชาชน [ทุกกระทรวง]

เปิดอ่าน 10,753 ครั้ง
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน

เปิดอ่าน 21,856 ครั้ง
การศึกษาในอนาคต
การศึกษาในอนาคต

เปิดอ่าน 13,423 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 8,990 ครั้ง
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เปิดอ่าน 8,855 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
เปิดอ่าน 5,731 ครั้ง
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน
เปิดอ่าน 13,756 ครั้ง
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา
เปิดอ่าน 4,187 ครั้ง
การฝังเข็ม ดีอย่างไร
การฝังเข็ม ดีอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ